จากกรณีที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเกี่ยวกับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง สัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ) ว่า มีผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้ยื่นฟ้องการรถไฟฯ ขอให้ชำระเงินจำนวน 7,200 ล้านบาท เนื่องจากฝ่ายรัฐยังไม่ชำระเงินค่าก่อสร้าง แต่กลับมาเปิดศูนย์ให้บริการวัคซีน โดยมีวัตถุประสงค์แอบแฝง เป็นพฤติกรรมการสมคบกับเอกชนใช้เป็นเหตุผลยื่นฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการ
.
ล่าสุด นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า การอภิปรายในสภานั้น แม้จะมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ก็ไม่สมควรจะกล่าวหากันด้วยข้อมูลเท็จ หวังเพียงสร้างความเกลียดชังให้เกิดแก่สังคม นี่คือ การเมืองสกปรกน้ำเน่า หน้าไม่อาย ไร้ยางอาย อย่างที่สุด เพราะเพียงแต่กล่าวหา โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อการสื่อสารของตนเอง ผลักภาระให้ผู้อื่น
.
นายวัชรพงศ์ ระบุว่า ที่สำคัญ ยังบั่นทอนกำลังใจคนทำงาน ทั้งฝ่ายนโยบาย และฝ่ายปฏิบัติการที่เปิดศูนย์ให้บริการวัคซีนสถานีกลางบางซื่อนี้ขึ้นมาด้วยใจบริสุทธิ์ หวังจะเป็นกำลังสำคัญในการฉีดวัคซีนสู้โรค แต่กลับโดนด้อยค่า และทำให้รู้สึกว่า อยู่ร่วมในขบวนการหาผลประโยชน์ ทั้งที่พวกเขาควรต้องได้รับการสนับสนุนให้ทำงานด้วยความสบายใจ นายจิรัฏฐ์ คิดได้อย่างไร ที่เอาเรื่องประโยชน์ด้านสุขภาพของประชาชน มาหาช่องปั้นน้ำเป็นตัว เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง
.
“อันที่จริง นายจิรัฏฐ์ ควรจะขอบคุณทุกองคาพยพที่ร่วมกันผลักดันให้สถานีกลางบางซื่อ กลายเป็นจุดให้บริการวัคซีนที่สำคัญ นี่คือ เครื่องมือที่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์โรคระบาดในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล เกิดขึ้นมาจากหยาดเหงื่อ แรงกาย ของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ด้วยจิตสำนึก แห่งการให้ความสำคัญกับสุขภาพพี่น้องประชาชน จึงไม่สมควรเลยที่จะถูกนายจิรัฏฐ์ ใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง”นายวัชรพงศ์ ระบุ
.
นายวัชรพงศ์ ระบุว่า เรื่องค่าปรับ ที่นายจิรัฏฐ์พูดถึงอย่างสนุกปากนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่กระทรวงสาธารณสุขมาเปิดศูนย์ฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ กระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงไปแล้วว่า กรณีการที่เอกชนผู้รับจ้างงานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ยื่นฟ้องการรถไฟฯ นั้น เป็นการยื่นฟ้องเพื่อขอให้ชำระค่างานส่วนสั่งงานเพิ่มเติม หรือ Variation Order ซึ่งเอกชนได้ชี้แจงว่า มีการก่อสร้างตามข้อสั่งการของวิศวกรผู้ควบคุมงาน มาตั้งแต่ปี 2556 เป็นจำนวนหลายรายการ
.
นายวัชรพงศ์ ระบุอีกว่า ในเรื่องดังกล่าวกระทรวงคมนาคมได้รับทราบจากการรถไฟฯ เสนอขอให้นำเสนอ คณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติปรับกรอบวงเงินโครงการแล้ว ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน และได้พิจารณาดำเนินการด้วยความรอบคอบ รัดกุมตามกฎหมาย ระเบียบ มติ ครม. ตลอดจนสาระสำคัญที่ผูกพันตามสัญญา และได้มอบหมายให้ การรถไฟฯ รับไปทบทวน ข้อเสนอ การเสนอขยายกรอบวงเงินดังกล่าวให้เกิดความรอบคอบ ฝ่ายผู้ที่เกี่ยวข้องยังได้ชี้แจงอีกว่า อาคารสถานีกลางบางซื่อได้มีการตรวจรับงานในส่วนอาคารสถานีรถไฟ อาคารศูนย์ซ่อมบำรุง เรียบร้อยแล้วในปี 2563 ก่อนการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเสียด้วยซ้ำ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการถูกผู้รับเหมาฟ้องในกรณีงาน VO แต่อย่างใด
.
นอกจากนี้ เป็นการโจมตีทางการเมืองที่น่ารังเกียจมาก มั่วซั่วไปหมด เป็นการจับแพะชนแกะที่มั่วซั่วที่สุด เพราะนายจิรัฏฐ์ กำลังเอาเรื่องประโยชน์ด้านสุขภาพของคนไทย มาใส่ร้าย หาผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อหวังเพียงสร้างความเกลียดชังให้กับฝ่ายตรงข้าม ถึงวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ ครบถ้วนแล้ว
.
“นายจิรัฏฐ์ ควรจะสำนึก และออกมาขอโทษในสิ่งที่กระทำลงไป เพราะกำลังทำให้สังคมเข้าใจผิด และทำให้ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อกลายเป็นผู้ร้าย คุณหมิ่นหยามความทุ่มเทของคนทำงานอย่างยิ่ง คุณกำลังบั่นทอน ทำลาย กำลังใจคนทำงาน ผมขอถามหาจิตสำนึกของ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล และขอเตือนว่า ทำงานการเมืองแบบนี้ ระวังจะก้าวไม่ไกล ไปๆ มาๆ นายจิรัฏฐ์ จะก้าวถอยหลังด้วย”นายวัชรพงศ์ กล่าว
.
#ThePOINT #ข่าวการเมือง #จิรัฏฐ์ทองสุวรรณ์ #พรรคก้าวไกล #รถไฟชานเมืองสายสีแดง #วัชรพงศ์คูวิจิตรสุวรรณ