- Advertisement -
หน้าแรก ข่าวเด่น 'จตุพร'กลืนเลือดแฉเกมอำมหิต!!ย้อนเหตุปราบเสื้อแดงปี 53 เจ้าของเวทีวางแผน'เหี้ยมเกินมนุษย์'สั่งยิงถล่มพวกเดียวกัน

‘จตุพร’กลืนเลือดแฉเกมอำมหิต!!ย้อนเหตุปราบเสื้อแดงปี 53 เจ้าของเวทีวางแผน’เหี้ยมเกินมนุษย์’สั่งยิงถล่มพวกเดียวกัน

วานนี้(29 ม.ค.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน”หน้าไหว้ หลังหลอก” โดยเปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์เสื้อแดงชุมนุมกลาง กทม. แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2553 ว่า เหตุการณ์ช่วงนั้นนอกจากมีอันตรายจากทหารล้อมปราบด้วยอาวุธสงครามอย่างไร้ปราณีแล้ว เจ้าของเวทียังตั้งชุดใหม่เตรียมมาซ้อนยึดเวที พร้อมวางแผนเหี้ยมสิ้นความเป็นมนุษย์ให้ยิงถล่มพวกเดียวกันหน้าเวที ขณะที่ตัวเองยังตกเป็นเป้าสังหาร แต่ไม่รู้มีอะไรดลใจให้มือทำงานคนสำคัญไม่ยอมทำตามคำสั่ง
.
นายจตุพร กล่าวว่า การกล่าวหาล่าสุดของนายอดิศร เพียงเกษ ซึ่งอุปมาอุปไมยการชุมนุมต่อสู้ของคนเสื้อแดงในปี 2553 กับการนั่งรถไฟลงสถานีบางซือ เพราะได้วันเลือกตั้งควรจะหยุดชุมนุม หรือการไปต่อสถานีหัวลำโพงนั้น ความจริงเรื่องนี้ไม่มีการคุยอย่างตรงไปตรงมา เพราะทุกคนไม่ต้องการขยายบาดแผล ความตาย ให้ญาติมิตรต้องเจ็บปวดใจ เมื่อนายอดิศรตั้งใจจะมาพูดถึงบางคนลงที่บางซื่อและบางคนไปลงหัวลำโพง จึงจำเป็นต้องอธิบายความ
.
นายจตุพร กล่าวว่า ให้ทบทวนสถานการณ์ในสมรภูมิชุมนุมปี 2553 อย่างช้าๆ พร้อมเล่าว่า โดยช่วงนั้นมีเหตุการณ์ความตายจำนวนมาก จนหลายคนแบกรับสถานการณ์ไม่ไหว ตนรู้สถานการณ์จะมีอีกชุดหนึ่งขึ้นซ้อนยึดเวทีชุมนุม เพราะไม่เห็นด้วยหากยุติเวทีชุมนุม อีกทั้ง เมื่อมีการประชุุมแกนนำในตู้คอนเทนเนอร์หลังเวทีชุมนุม ทุกคนให้ยุติการชุมนุมว่า ได้เวลาเลือกตั้งแล้ว มีแต่ตนคนเดียวให้ชุมนุมต่อไป โดยตนอธิบายในสถานการณ์นั้น ประการแรกว่า มีหีบศพมากมายที่เกิดขึ้น ดังนั้นนักการเมืองเมื่อได้หีบบัตรเลือกตั้ง แล้วทิ้งหีบศพจะตอบคำถามกับญาติผู้ชุมนุมที่ตายไม่ได้เลย
.
นายจตุพร ระบุว่า ส่วนประการที่สอง ตนบอกว่า เมื่อแกนนำขึ้นไปกล่าวยุติการชุมนุมก็จะมีอีกชุดหนึ่งเข้ามาซ้อนยึดเวทีแทน ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์ตรึงเครียดและความตายจะมากกว่าเดิม เพราะเราสู้ทางการเมืองจึงต้องยืนยันในแนวทางสันติวิธี ถ้ามีการสู้ทางการทหารเมื่อไรก็พังทันที ดังนั้น เวทีต้องเดินต่อไป จึงไม่ควรทิ้งประชาชนเพื่อไปเอาหีบเลือกตั้ง แล้วต้องเดินลงเวทีอย่างคนอัปยศอดสูที่สุด
.
“เพราะเจ้าของจ่ายค่าเวทีตัวจริงนั้น เขาไม่ต้องการให้ยุติเวที แต่ทุกคนถอดใจหมดแล้ว ผมอธิบายให้ฟังว่าประชาชนอย่างไรก็ไม่กลับ เมื่อเขาไม่กลับแล้ว คิดจะลงเลือกตั้งคุณจะมีหน้าไปพบคนอีกหรือ ถ้าวันนั้นไม่มีการคิดเอาอีกชุดหนึ่งซ้อนยึดเวทีแล้ว ก็ยังพอถูไถอธิบายกับประชาชนได้”นายจตุพร เล่าถึงเหตุการณ์การประชุมหารือยุติชุมนุม ซึ่งในช่วงนั้น พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ยังไม่ถูกสไนเปอร์ยิงเสียชีวิต
.
นายจตุพร ระบุว่า ทุกคนเห็นให้ยุติการชุมนุม แล้วเราก็กล่าวคำลากัน ตนพูดทิ้งท้ายว่า เมื่อพฤษภา 2535 ตนอยู่ในบรรยากาศนำการต่อสู้คนเดียวที่รามคำแหงมาแล้ว จึงขออยู่ส่งประชาชนต่อ จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ขณะนั้นมีการวางแผนซ้อนยึดเวทีอยู่แล้ว และคนที่ทำได้มีอยู่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งพอประชุมแกนนำเสร็จ ตนได้รับโทรศัพท์จากทักษิณ ชินวัตร โทรมาถาม ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ควรพูดเลย แต่เมื่อนายอดิศร ยกเหตุการณ์มาตอบโต้ จึงจำเป็นต้องเล่า ทักษิณ บอกว่า “หยุดเวทีได้อย่างไร ผม (ทักษิณ) ได้อะไร”
.
นายจตุพร กล่าวว่า ตนรู้เรื่องนี้มาแต่ต้นว่า จะมีการซ้อนยึดเวทีชุมนุมขึ้น แล้วจะเกิดความรุนแรงไปอีกมุมหนึ่ง และจะคุมประชาชนไม่อยู่ จึงจำต้องหักทุกคน ตนบอกทักษิณว่า ถ้าอย่างนั้น เพื่อให้เวทีเดินต่อ ส่วนแกนนำคงอยู่ไม่ครบแล้ว ทั้งๆที่ช่วงนั้นแกนนำเหลือตนอยู่คนเดียว เราจึงตกลงกันว่า คนที่เคยเป็นลูกพรรคของทักษิณ ก็ให้ไปเคลียร์กันเอง ส่วนบรรดาสายนักเคลื่อนไหวตนจะเคลียร์
.
“ทักษิณก็ไปเคลียร์กับนักการเมือง ผมก็เคลียร์กับนักเคลื่อนไหว เวทีจึงเดินมาถึง 18 พ.ค. วันที่วุฒิสภามาเจรจา และมาเกิดเหตุการณ์ 19 พ.ค. ซึ่งเป็นความเจ็บปวดขมขื่น วันนั้นถ้าเราไม่ยืนแข็งแรงแล้ว อีกทั้งประชาชนหน้าเวทีก็ไม่กลับ เจ้าของเวทีก็ไม่ให้เลิก และอีกชุดหนึ่งจะเข้ามาซ้อนยึดเวที ผมจึงอยู่คานกันเอาไว้ เพราะในทุกนาทีของสถานการณ์มีโอกาสตาย 100% อยู่แล้ว…และหากใครได้ยินเรื่องทำนองนี้มาก่อน ก็บอกได้เลยว่า ไม่ได้ออกจากปากผม ผมเพิ่งเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ทั้งๆ ที่ไม่อยากเล่าเลย”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร ระบุว่า ที่เล่าให้ฟัง เพราะนายอดิศร ยกเรื่องชุมนุมปี 2553 มา โดยวัน 19 พ.ค.บนเวที คนที่มีบทบาทมากที่สุดคือ ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ คอยกันไม่ยอมให้ตนขึ้นเวที เพราะสถานการณ์ช่วงนั้นมีความเสี่ยงต่อชีวิตมากมาย ทหารล้อมหมด ขยับใกล้มาถึงจุดสุดท้ายที่เวทีทุกขณะ อารมณ์คนอยู่หน้ามีแต่คนแก่และผู้หญิงประมาณ 500 คน ซึ่งพร้อมตายกัน เวลานั้นตนนอนบนเก้าอี้ผ้าใบหลังเวที เดี๋ยวมีคนมาลาจากไป แต่เรารอเวลา จึงลุกขึ้นไปบนเวทีเพื่อยุติการชุมนุม ถ้าไม่ยุติความตายอย่างรุนแรงก็จะเกิดขึ้นกลางเวทีเพราะเป็นจุดสุดท้าย
.
“ผมเล่ามาถึงตอนนี้เพื่อจะบอกว่า หลายปีต่อมา มืองานคนสำคัญอีกชุดหนึ่ง (ชุดซ้อนยึดเวที) มาเล่าให้ฟังว่า วันนั้น (19 พ.ค.) มีการวางแผนกันจะยิงถล่มเวที ขณะที่ขึ้นกล่าวยุติการชุมนุม แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่ตัดสินใจทำ…อีกทั้งการซ้อนยึดเวทีนั้น ผมได้ยินมาเช่นกันว่า มีการร้องขอจากฝ่ายเดียวกันให้จัดการผมเอง (ตกเป็นเป้าถูกสังหาร) ด้วยซ้ำไป” นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร เล่าว่า ทั้งหมดทั้งปวงนั้น เพื่อชี้ให้เห็นว่า การตัดสินใจในเรื่องอุปมาอุปไมยลงสถานีหัวลำโพงกับบางซือนั้น ตนไม่โทษนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ที่ประกาศลาออกจากประธาน นปช. เพราะลูกชายถูกเอาปืนจี้ทุกเรื่องราวต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ตนมีการข่าวจึงรู้สถานการณ์ว่า ถ้าตัดสินใจลงเวทีที่บางซือ จะถูกอีกชุดหนึ่งขึ้นไปยึดเวทีทันที ด้วยเหตุนี้การลงสถานีหัวลำโพงจึงเป็นความจำเป็น เพราะมิเช่นนั้นมันจะมีความตายกับการลงบางซืออาจหลายร้อยศพขึ้นมา ดังนั้นที่ลากไปหัวลำโพงเพื่อลดความตายที่จะเกิดขึ้น เพราะเจ้าของเวทีเขาก็เตรียมการอีกชุดหนึ่งไว้เผด็จศึกชุดเดียวกันอยู่แล้ว
.
“คุณอดิศรยกเรื่องนี้มาก็ดีแล้วว่า วันนั้นที่ผมต้องไปหัวลำโพง และถ้าผมลงบางซือตามคุณอดิศรและอีกหลายคนไปวันนั้น ที่นั่น (หน้าเวทีชุมนุม) เลือดจะนองท้องช้าง เพราะว่าเจ้าของเวทีเขาไม่ยอม เนื่องจากมีอีกชุดหนึ่งคนของเจ้าของเวทีเตรียมแผนยึดเวที แล้วเราก็จะเป็นหมาเลย…วันนี้เรื่องที่ไม่ควรจะเล่า เมื่อเล่าแล้วคนที่ต้องชักตาตั้งจะเป็นอีกคนหนึ่ง เมื่อต้องการฟื้นฝอยหาตะเข็บ ก็จะจัดให้”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร เปรียบเปรยว่า เจ้าของรถไฟ (เจ้าของเวทีชุมนุม) ไม่ต้องการให้จอดลงที่บางซือ เพราะเขาสั่งเอง ถ้าลงบางซือก็ตายกันเบือ และหลังจากนั้นจะมีคนมายึดแล้วเวที แล้วสถานการณ์จะร้อนแรงขึ้น ตายเป็นเบือ เพราะเขาบอกเอง เป็นเกมอำมหิต ตนไม่เล่นด้วย แต่ทุกคนทิ้งไปหมดแล้ว ด้วยการเข้าใจสถานการณ์ไม่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ได้รับสั่งจากเจ้าของเวทีหรือไม่
.
ส่วนกรณีนายอดิศร บอกว่า ตัวเองไม่ได้เป็นแกนนำนั้น นายจตุพร กล่าวว่า แกนนำเป็นนามสมมุติ และเวลานี้ตนไม่ได้ใช้ตำแหน่งประธาน นปช.เลย แต่ละคนก็ไปใช้ตำแหน่งอื่นหมดแล้ว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไปใช้ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ก็ใช้ชื่อทวงคืนความยุติธรรม ส่วนตนใช้คณะหลอมรวมประชาชน ไม่มีใครใช้ตำแหน่งประธาน นปช. ซึ่งหมายความว่า ในทางชื่อของตำแหน่งจึงยุติกันไป เพราะต่างคนต่างไม่ใช้กัน
.
นายจตุพร กล่าวว่า กรณีกล่าวหาเงินบริจาคช่วงชุมนุมนั้น ทุกคนรู้ว่า ตนไม่ยุ่งกับเงินในการชุมนุมเลย นายอดิศร ฟังนะ พวกตนจัดรายการมาเพื่อไล่ 3 ป. แต่ไม่เกี่ยวกับทักษิณ เลย เมื่อทักษิณมาข้องแวะดูถูกความเป็นมนุษย์กันนั้น ถ้าเป็นขี้ข้าถาวรก็อาจทนได้ และตนยอมรับบางเวลาก็เป็นขี้ข้าเหมือนกัน แต่ตนก็ใฝ่ฝันถึงวันอิสรภาพเช่นกัน
.
นายจตุพร กล่าวว่า การที่ตนยอมให้ถูกกระทำในบางช่วงเวลานั้น ก็ดูเสมือนหนึ่งเป็นขี้ข้าเช่นกัน แต่ไม่ใช่ตนไปสยบยอม เนื่องจากระหว่างทางต่อสู้มีเรื่องราวความตายมากมายไปหมด แต่ที่ยอมกันนั้น เพราะประชาชนตาย มันเลือดท่วมปาก ไม่อยากพูด และประชาชนบาดเจ็บไม่อยากได้ยินเรื่องเหล่านี้เช่นกัน แต่เมื่อนายอดิศร หยิบยกเรื่องนี้มา จึงชี้แจงให้เข้าใจ เพราะช่วงเหตุการณ์นายอดิศรข้ามไปอยู่ฝั่งลาวแล้วไปเขมรอยู่กับแรมโบ้แล้ว
.
“เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ผมก็กล้ำกลืนเลือดนะ ส่วนพวกคุณจะแลนด์สไลด์ก็เรื่องของคุณไป แต่การพยายามอธิบายใส่ร้ายว่า ผมรับเงิน ถ้ารับเงินแล้ว เวลา 8 ปีผมจะสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ และสู้จนต้องถูกจับไปขังคุกอยู่เรื่อยอีกด้วย”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนกรณีกล่าวหาว่า สู้แล้วรวยนั้น ในบรรดาแกนนำนั้น ตนสาหัสที่สุด ย้ายที่ทำการสถานีโทรทัศน์ออกจากอิมพีเรียล ลาดพร้าว เนื่องจากเมื่อตนถูกหลอกลวงไปทำลายแล้ว จึงอยู่ไม่ได้ มาสร้างที่ใหม่ก็ลำบากที่สุด ไม่มีเงินสร้างให้เสร็จเสียด้วยเลย และกำลังล้มความตั้งใจไม่สร้างต่อแล้ว แต่หลานตัวเองที่ประสบความสำเร็จในการงานมาช่วยสร้างให้ฟรีๆ จนสำเร็จเป็นรูปร่างสถานีในปัจจุบันนี้ มันไม่ได้รวยอะไรเลย แต่ก็สร้างเสร็จจนได้
.
นายจตุพร กล่าวว่า อีกอย่าง สถานีโทรทัศน์ มีรายได้หลักมาจากสินค้าขายตรง จัดรายการวิพากษ์วิจารณ์การ รปห.และ พล.อ.ประยุทธ์ จนถูกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สั่งตัดสปอร์ตเซอร์ หายไปหมดประมาณเดือนละ 2 ล้านถึงกับน็อคเลย จึงต้องปิดสถานี มีหนี้สิน และหนี้พนัก ค้างจ่ายค่าชดเชยด้วย เมื่อนายอดิศร บอกว่ารวยมากก็มารับภาระที่นี้หรือไม่
.
“เราอยู่ท่ามกลางปัญหาแบบนี้ การบอกว่าสู้แล้วรวยไม่ใช่ผมแน่นอน อดิศรต้องไปสืบเองว่า ใครรวย ที่เล่าให้ฟังนั้น เพราะอดิศรมาตั้งคำถามเอง เราบอกหลายครั้ง การทำสงครามกับหมู่มิตรมันลำบากใจมาก แต่ถ้าที่สุดถึงขั้นต้องสู้ ก็ต้องสู้กัน ที่คุณกล่าวหาว่าขัดขวางแลนด์สไลด์อะไรนั้น เมื่อถึงวัน ผมจะทำตามที่กล่าวหานะ แม้วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
.
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีเพื่อไทยจะร่วม พปชร.หรือไม่ ว่า ก่อนหน้าแกนนำแต่ละคนให้ข่าวเปิดกว้างจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ จนต้องมาแถลงว่า เพื่อไทยจะไม่จับมือกันใครก่อน ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะไม่จับมือกับใคร แล้วมาล่าสุดเมื่อถูกถามถึงการจับมือแล้วตอบเองว่า ยังไม่ได้คุย ไม่ได้ดีล แต่ไม่ได้แปลว่า จะไม่ได้ดีล หรือจะไม่คุย หรือจะไม่ร่วม หรือร่วม พปชร. ถ้าบอกว่าร่วมจะทำให้ประชาชนตัดสินใจลงคะแนนได้ว่าเลือกหรือไม่เลือกเพื่อไทย ซึ่งแฟร์กับประชาชน หากตอบไม่ร่วม พปชร.แต่ไปร่วมหลังเลือกตั้งแล้ว ก็จะเป็นสถานการณ์ซ้ำเดิมกับพฤษภามิฬ 2535
.
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา เพื่อไทยแสดงพฤติกรรมไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่มั่นคงในสัจจะวาจา เช่น กรณี พรบ.สุดซอย เป็นตัวอย่างได้ชัดเจน โดยผู้บริหารพรรคมาแถลงกฎหมายสุดซอยวาระแรกเป็นสัญญาประชาคมว่า ให้เฉพาะประชาชนเท่านั้น ไม่ให้แกนนำ และคดีทุจริต หรือ บอกไม่มีวาระซ้อนเร้นใดแทรกเข้ามา ถัดมาคนเดียวกันอีกก็แถลงอธิบายขยายการครอบคลุมในกฎหมายสุดซอย แล้วคนเดียวอีกต้องมาแถลงเป็นครั้งที่สาม เพื่อบอกถึงความจำเป็นต้องถอนกฎหมายสุดซอย ถึงที่สุดแล้ว ในสถานการณ์นั้นประชาชนเสียโอกาส ฉิบหายไปแล้ว”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร กล่าวว่า อีกกรณีหนึ่ง ทักษิณ ตัดสินใจไม่ให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงนายกฯ ครั้งต่อไป โดยตระกูลที่เกี่ยวข้อง 3 ตระกูลให้ยิ่งลักษณ์ ลง ส.ส.บัญชีอันดับ 11 เพื่อเป็นสัญลักษณ์พรรค แต่ไม่เป็นตำแหน่งนายกฯ ซึ่งกำหนดวันจะแถลงข่าวในวันเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. แถลงชัตดาวน์ กทม. อย่างไรก็ตาม เมื่อยิ่งลักษณ์ กลับจากตระเวณอีสานก็มาคิดเป็นนายกฯ ต่ออีก แสดงถึงการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เหมือนการกลับบ้านเดี๋ยวกลับเดี๋ยวไม่กลับ
.
“ผมก็เคยบอกแล้วว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรที่จะไปขัดขวางแลนด์สไลด์ คนเพื่อไทยก็ยืนยันว่าไม่กระทบกับแลนด์สไลด์ ผมอยู่ดีๆ และบอกว่า ถ้าผมไม่ถูกย่ำยีก่อน ผมก็ต้องกล้ำกลืนเลือดกันต่อไป เพียงแต่ครั้งนี้กลืนไม่ไหวแล้ว” นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร กล่าวย้ำว่า กรณีนายอดิศร ชี้แจ้งใหม่ด้วยท่วงทำนองแบบน้ำกรดแช่เย็น ถึงคำพูดว่ายังภักดีกันอาจเป็นยาพิษอยู่บ้างก็ตาม แม้ตนจะมีความสัมพันธ์บนเวทีปราศรัยเพื่อไทยและขบวนการเสื้อแดง ก็ต่างคนต่างทำหน้าที่ร่วมกันไป แต่เมื่อเกิด รปห. 2549 ตนก็ลาจากตำแหน่งโฆษกพรรค เพื่อไปสู้กับคณะยึดอำนาจชุดนั้น
.

ThePoint #ข่าวการเมือง #จตุพรพรหมพันธุ์ #เสื้อแดง #นปช. #สลายม็อบเสื้อแดง #เสื้อแดงแยกราชประสงค์ #สลายม็อบ2553

- Advertisement -

Stay Connected

21,427แฟนคลับชอบ

Must Read

‘ณัฏฐ์ มงคลนาวิน’วอนเปิดใจทะลายกำแพงความต่าง!!พร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบายดีๆ เพื่อชาวดอนเมือง

"ณัฏฐ์ มงคลนาวิน"ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขตดอนเมือง โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่หนังสั้นแนะนำตัว พร้อมเหตุผลในการลงสนามการเมือง ในหัวข้อ "เคยมีเพื่อนรุ่นน้องถามว่า มาลงการเมืองแบบนี้ ถ้ามีคนมาบูลี่สิ่งที่พี่เป็น พี่จะโอเคมั้ย?"."ณัฏฐ์ มงคลนาวิน" ยังระบุด้วยว่า สวัสดีครับ ผมณัฏฐ์ มงคลนาวิน ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขตดอนเมือง ผมเป็นทรานส์เมนส์ครับ ทรานส์เมนส์คือตัว T ที่อยู่ใน LGBTQ...
- Advertisement -

‘ก้าวไกล’ชี้ Made in Thailand ยุค’พล.อ.เปรม’ไม่เหมาะกับปัจจุบัน!!แนะอย่ายึดติดการลงทุนในดินแดน

วันนี้(23 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล - Move Forward Party โพสต์ข้อความว่า หมดยุค Made in Thailand ถึงเวลา Made with Thailand นโยบาย Made in Thailand ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคพลเอกเปรม...

‘ชูวิทย์’รับแล้ว!!รับเงินโยงสารวัตรซัวให้หยุดแฉ อ้างเอาไปบริจาคแล้ว ด้าน’ทนายตั้ม’สวนทันควันคนละยอดกัน

จากกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง โพสต์ภาพเงินสดก้อนบรรจุถุงกระดาษ ระบุว่า "แฉไป ไถไป"พร้อมไม่ปฏิเสธว่าโยงถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นั้น.ล่าสุดนายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "แฉไป ไถไป?" ระบุว่า "เงิน 2 ถุง ถุงละ 3 ล้าน ที่ทนายตั้มพูดถึง เห็นแล้วจำได้ชัดเจน...

‘ภูมิใจไทย’ดันนโยบาย’ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน’เปิดทางปชช.เลือกได้  30 % จัดภาษีลงท้องถิ่น ได้ถึง 3 ต่อ กระจายอำนาจ หน้าที่ และงบประมาณ

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการกระจายอำนาจ หน้าที่ และงบประมาณ ไปสู่ท้องถิ่น  โดยระบุว่า ท้องถิ่นมั่งคั่ง ประเทศมั่นคง เป็นสัจจะธรรม แต่อำนาจหน้าที่ กฎหมายไม่รองรับ เช่น ให้จัดทำบริการสาธารณะ ซึ่งต้องมีเครื่องมือ คืออำนาจ หน้าที่ และงบประมาณ ปัจจุบันไม่รองรับ 100% เช่นบุคลากร...

Related News

‘ณัฏฐ์ มงคลนาวิน’วอนเปิดใจทะลายกำแพงความต่าง!!พร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบายดีๆ เพื่อชาวดอนเมือง

"ณัฏฐ์ มงคลนาวิน"ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขตดอนเมือง โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่หนังสั้นแนะนำตัว พร้อมเหตุผลในการลงสนามการเมือง ในหัวข้อ "เคยมีเพื่อนรุ่นน้องถามว่า มาลงการเมืองแบบนี้ ถ้ามีคนมาบูลี่สิ่งที่พี่เป็น พี่จะโอเคมั้ย?"."ณัฏฐ์ มงคลนาวิน" ยังระบุด้วยว่า สวัสดีครับ ผมณัฏฐ์ มงคลนาวิน ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขตดอนเมือง ผมเป็นทรานส์เมนส์ครับ ทรานส์เมนส์คือตัว T ที่อยู่ใน LGBTQ...

‘ก้าวไกล’ชี้ Made in Thailand ยุค’พล.อ.เปรม’ไม่เหมาะกับปัจจุบัน!!แนะอย่ายึดติดการลงทุนในดินแดน

วันนี้(23 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล - Move Forward Party โพสต์ข้อความว่า หมดยุค Made in Thailand ถึงเวลา Made with Thailand นโยบาย Made in Thailand ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคพลเอกเปรม...

‘ชูวิทย์’รับแล้ว!!รับเงินโยงสารวัตรซัวให้หยุดแฉ อ้างเอาไปบริจาคแล้ว ด้าน’ทนายตั้ม’สวนทันควันคนละยอดกัน

จากกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง โพสต์ภาพเงินสดก้อนบรรจุถุงกระดาษ ระบุว่า "แฉไป ไถไป"พร้อมไม่ปฏิเสธว่าโยงถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นั้น.ล่าสุดนายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "แฉไป ไถไป?" ระบุว่า "เงิน 2 ถุง ถุงละ 3 ล้าน ที่ทนายตั้มพูดถึง เห็นแล้วจำได้ชัดเจน...

‘ภูมิใจไทย’ดันนโยบาย’ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน’เปิดทางปชช.เลือกได้  30 % จัดภาษีลงท้องถิ่น ได้ถึง 3 ต่อ กระจายอำนาจ หน้าที่ และงบประมาณ

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการกระจายอำนาจ หน้าที่ และงบประมาณ ไปสู่ท้องถิ่น  โดยระบุว่า ท้องถิ่นมั่งคั่ง ประเทศมั่นคง เป็นสัจจะธรรม แต่อำนาจหน้าที่ กฎหมายไม่รองรับ เช่น ให้จัดทำบริการสาธารณะ ซึ่งต้องมีเครื่องมือ คืออำนาจ หน้าที่ และงบประมาณ ปัจจุบันไม่รองรับ 100% เช่นบุคลากร...

ไอเดียเจ๋ง!!’พายุ’ผลักดันใช้บัตร NFC แทนใบปลิว ลดการใช้กระดาษอย่างสิ้นเปลืองช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

นายพายุ เนื่องจำนงค์ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี และทีมงานยุทธศาสตร์ กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเสนอการใช้บัตร smart card ที่ใช้ระบบ NFC หรือ Near Field Communication ในการส่งข้อมูลเข้าสู่โทรศัพท์มือถือของประชาชนที่ใช้ สมาร์ต โฟน...

แฉไฟลุก!!‘ทนายษิทรา’โพสต์ถุงเงินปริศนา??ชี้หมดศรัทธา’แฉไป ไถไป’ไม่ปฏิเสธโยงถึง‘ชูวิทย์’

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง โพสต์ภาพเงินเป็นปึกที่ถูกใส่ไว้ในถุงกระดาษ ข้อความระบุว่า "แฉไป ไถไป" นอกจากนี้ ยังระบุเพิ่มว่า "คนที่คุณเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด หมดศรัทธา".พร้อมระบุอีกว่า"ไถสีเทามา 50 ล้าน บริจาคเอาหน้าทีละ 3 ล้าน สร้างภาพกลับตัวกลับใจ ผมไม่อยากสวนกระแสนะครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ชื่นชมมาตลอด แต่พอรู้ความจริงแล้ว มันหมดรักเลยจริงๆ...

‘ภูมิใจไทย’ชูนโยบาย’ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า’ดันไทยเป็นฐานการผลิตโซล่าเซลล์ เชื่อ’อนุทิน’เป็นนายกฯทำได้แน่นอน!!

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย กล่าวในเวทีเสวนาออนไลน์ : ล้านหลังคา ล้านโซล่าเซลล์ จัดโดย สภาองค์กรของผู้บริโภค โดยนำเสนอว่า พรรคภูมิใจไทย มี “นโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า...

ไม่รอด!!สั่งให้ออกแล้ว 5 ตำรวจ ตม. เอี่ยวอุ้มชาวจีนรีดเงิน 10 ล้าน โดนตั้งแต่ พ.ต.ต.ยัน ด.ต.

จากกรณี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 5 นายถูกออกหมายจับในคดีอุ้มชาวจีนและล่ามสาวชาวไทยไปรีดไถทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท ย่านดินแดงนั้น.ล่าสุดวันนี้(22 มี.ค.) พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ลงนามในหนังสือคำสั่ง กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ที่ 31 /2566 ให้ พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ สารวัตร กองกำกับการสืบสวน...

‘สมศักดิ์ เจียม’เจอแล้ว!!เหตุทำ’ทักษิณ’ฉุนออกฟาด’ธนาธร’ชี้ถ้าใช่จริงๆนับว่า’กินปูนร้อนท้อง’

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม ออกมาตอบโต้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่า "วันนี้ผมงงมาก ธนาธรก็ออกมาโจมตีเพื่อไทย ที่มีคนบอกว่า ก้าวไกลเหมือนประชาธิปัตย์ ผมว่าก็ชักเหมือนขึ้นทุกวัน".ล่าสุดนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดี ม.112 ลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์ข้อความระบุว่า ทักษิณกินปูนร้อนท้อง?ผมพยายามหาว่า ธนาธรไปด่าเพื่อไทยตอนไหน...

เอาจริง!!’ภูมิใจไทย’ลุยฟ้องหมิ่นคนโจมตีทำลายพรรค จี้กกต. อย่ารีรอรีบจัดการ

วันนี้(22 มีนาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงกรณีที่มีบุคคลบางคนกระทำความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 เป็นการทำลายความนิยมของพรรคภูมิใจไทย แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อพรรคการเมืองโดยตรง ว่า เรื่องนี้ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริต เที่ยงธรรม ซึ่งเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยได้ยื่นต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)...

‘ไทยสร้างไทย’เปิดตัว!!’ธันวา ไกรฤกษ์’ชิงเก้าอี้ส.ส.สวนหลวง-ประเวศ ชูนโยบาย30 บาทพลัสให้ปชช.เข้าถึงบริการสาธารณสุข

พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานครเพิ่มอีก 1 คน ได้แก่ นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขตสวนหลวง-ประเวศ ที่เคยได้คะแนนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมากว่า 30,000 คะแนน โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้คนรุ่นใหม่และมีอุดมการณ์มาร่วมเสริมกำลังพรรคให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งธันวาเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงการเมืองว่ามีจุดยืนชัดเจน วิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ต่างๆ โดยคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนส่วนรวมเป็นสำคัญ.นายธันวา...

มอง’ก้าวไกล’เลือกสู้!!ขยี้กลับ’เพื่อไทย’หลังถูกเกมอำมหิตถาโถม เตือนใช้กลยุทธ์นี้ระวังนำสู่หายนะ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ยุบแล้ว ยุบอีก ยุบต่อไป" โดยระบุว่า หลังการยุบสภา (เมื่อ 20 มี.ค.) ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างจะราบรื่น เพราะการยุบสภามีเป้าหมายเพียงให้นักการเมืองย้ายหาสังกัดใหม่อีกระลอกหนึ่งเพื่อให้เข้าเงื่อนไขเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอย่างน้อย 30 วันนับถึงวันเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 97 วงเล็บสาม...

‘ทักษิณ’อวย’อุ๊งอิ๊ง’เป็นนายกฯได้ดีกว่าตัวเอง!!ภูมิใจท้องแก่ยังทุ่มเทขนาดนี้ ชี้มี DNA แม่

เพจเฟซบุ๊ก"CARE คิด เคลื่อน ไทย"เผยแพร่คำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม ที่กล่าวช่วงหนึ่งในรายการ CareTalk x Care ClubHouse ระบุว่า“…ผมชี้นำเขาไม่ได้ เขาต้องตัดสินใจเอง เพราะผมครอบงำเขาไม่ได้…”.มีคนถามว่า น้องอิ๊งค์พอจะเป็นนายกได้หรือไม่ ถ้าถามผมนะ เขาเป็นได้ดีทีเดียว ผมชี้นำเขาไม่ได้ เขาต้องตัดสินใจเอง...

‘อนุทิน’เปิดเป้าหมายหากได้เป็นนายกฯ!!คนไทยต้องอยู่ดี กินดี มีความสุข ลั่นพิสูจน์แล้วพรรคพูดแล้วทำ ไม่ขายฝัน ทำได้จริง

วันนี้(22 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงถึงเป้าหมายการทำงาน หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า การจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องอาศัยหลายปัจจัยเข้ามาประกอบ ชั่วโมงนี้ใกล้เลือกตั้ง ต้องทำให้ประชาชนมั่นใจในตัวเราและตัวพรรค ที่ผ่านมา น่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่าพรรคเราพูดแล้วทำ ไม่ขายฝัน ทำได้จริง ตรงนี้เชื่อว่าประชาชนมองเห็น."ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ มองว่าเรื่องคุณภาพชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ใครก็ตามที่เข้ามา ต้องทำให้ประชาชน อยู่ดี...

‘ไพศาล’ยก’อภิสิทธิ์’นักการเมืองไม่ตระบัดสัตย์!!เชื่อเพราะเหตุนี้ถึงประกาศเว้นวรรคการเมือง??

วันนี้(22 มี.ค.) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศเว้นวรรคการเมืองไม่ลงส.ส. ระบุข้อความว่า ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนักการเมืองของประชาชน ตั้งความซื่อถือความสัตย์เป็นตายก็ไม่ยอมตระบัดสัตย์ในการเลือกตั้งปี 62 ท่านสัญญากับประชาชนว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคสช. มาถึงวันนี้ท่านก็ยึดมั่นในคำสัตย์นั้น.ดังนั้นเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ยังคงสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จึงเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และด้วยความเคารพต่อพรรคและระบอบประชาธิปไตย...
- Advertisement -