เมื่อวันที่ 4 เม.ษ. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
โดย นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายตอนหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการก่อเหตุในพื้นที่เกือบ 50 ครั้ง นายกฯ ให้สัมภาษณ์ในวันต่อมาว่า รับทราบ แต่เหตุการณ์ดีขึ้น และได้โทรศัพท์ไปหา นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จึงอยากถามนายกฯ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายใน หรือเรื่องระหว่างประเทศ และขอถามว่านายกฯ มาเลเซีย แนะนำ หรือเสนออย่างไรบ้าง
นายชวน กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ตนขอชื่นชมผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ท้วงติงนโยบายดังกล่าว เพราะผู้ว่าฯ ธปท.ไม่ใช่นักการเมือง จึงไม่เกี่ยวกับเรื่องคะแนนเสียง แต่เป็นความคิดที่หวังดีกับประเทศชาติ
นายชวน กล่าวต่อว่า ส่วนนายกฯ เมื่อเป็นนายกฯ อย่าคิดว่าไปลงพื้นที่แล้วต้องถามว่า มี สส.เพื่อไทย อยู่หรือไม่ แต่เป็นหน้าที่นายกฯ ต้องไป อย่าทวงบุญคุณ เพราะคือหน้าที่ นายกฯ อยู่แล้ว ที่นายกฯ เคยบอกว่ามีผู้นำบางคนพูดว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ นายกฯ ไปเอามาจากไหน ตนไม่เคยพูด ตนพูดในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่าภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ คนที่เลือกปฏิบัติเขาไม่ได้ทำโดยแอบทำ แต่เขาพูดตรงไปตรงมาว่าเมื่อเราได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกเรา ก่อนจังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ถ้านายกฯ ไม่รู้ว่าคนที่พูดคือใคร ตนจะบอกให้ว่าคนที่พูดคือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายทักษิณ ไม่ได้แอบพูด แต่ประกาศตรง ๆ นี่คือการเลือกปฏิบัติ
ทำให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ขอความกรุณาอย่าเอ่ยถึงคนนอกที่ไม่มีสิทธิ์ชี้แจง เพราะเรื่องนี้กระทบกับคนนอก ขอให้ระมัดระวัง ที่เอ่ยชื่อถึงอดีตนายกฯ ในทางเสียหาย ว่าพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการเลือกปฏิบัติ ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้อภิปรายอยู่ในกรอบการพิจารณาของเรา โดย นายชวน จึงตอบกลับว่า “ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม”
จากนั้น นายชวน จึงกล่าวต่อว่า ตนขอชี้แจงต่อนายกฯ ว่า นายกฯ เข้าใจผิด ตนไม่เคยพูดว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ แต่ตนพูดว่าภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ และขอความเป็นธรรมให้กับภาคใต้ และขอให้ชดเชยให้ ตนไม่ใช่คนที่พูดพล่อย ๆ หรือบ้าน้ำลายรายวัน พูดอะไรต้องเป็นเรื่องจริง และรับผิดชอบ
นายชวน กล่าวด้วยว่า ส่วนนโยบายที่รัฐบาลประกาศไว้ว่า จะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นที่ยอมรับกับนานาประเทศ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีนักโทษ การที่คนป่วยหายป่วย เป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าใครก็ตาม เขาจะได้มีชีวิต เป็นขวัญใจให้กับลูกหลานต่อไป จะได้มีโอกาสมาชื่นชมผลงาน และรับกรรมที่ทำไม่ดีเอาไว้ ขณะที่เรื่อง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2560 ไม่ว่าจะออกในสมัยใด ตนไม่ตำหนิ แต่ปัญหามันมีเพียงว่าแต่ละข้อได้มีการปฏิบัติตามนั้นหรือไม่ นี่คือประเด็น และรัฐบาลซึ่งเป็นตัวหลักที่จะทำให้นิติธรรมเกิดขึ้น แต่ก็ปล่อยปละละเลยไม่ให้กฎเกณฑ์กติกาความถูกต้อง ความเสมอภาค ความชอบธรรม หรือการไม่เลือกปฏิบัติเกิดขึ้น
“คำถามคือ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น รัฐบาลจะดำเนินการกับ สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร ไม่เกี่ยวกับคนป่วย แต่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แต่หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ รัฐบาลที่เป็นผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่รัฐ จะดำเนินการอย่างไร ผมคิดว่าเราจะให้ประชาธิปไตยไปได้ดี ไม่ว่าฝ่ายใด ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง ถ้าเราเลือกปฏิบัติความสุขของประชาชนไม่เกิดขึ้น ที่ผมพูดเรื่องนี้ เพราะมีสิ่งที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องยอมรับคือถ้าเราต้องการให้ประชาชนของเรามีความสุข เราต้องทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น ถ้าเราไม่รักษาความยุติธรรมความสุขของประชาชนไม่เกิดขึ้น คำกล่าวนี้เป็นคำกล่าวของในหลวงที่เคยรับสั่งไว้” นายชวน ระบุ