นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวตอนหนึ่ง ร่วมเปิดงานเทศกาลดิวาลีเฟสติวัล กรุงเทพฯ ประจำปี พ.ศ.2565 (Deepavali Bangkok Festival 2022) เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งงานเทศกาลดิวาลีเฟสติวัล กรุงเทพฯ เป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนเชื้อสายอินเดีย ณ เวทีหลัก คลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ กรุงเทพมหานคร สมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย (IAT) เครือข่ายพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการชาวไทยเชื้อสายอินเดีย กลุ่มชาวอินเดียในประเทศไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง
.
นายชัชชาติ ระบุว่า จุดแข็งของประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร คือ เป็นพหุวัฒนธรรม มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย พี่น้องไทยเชื้อสายอินเดียก็เข้มแข็งมาก มีย่านพาหุรัดที่เข้มแข็ง และย่านเยาวราชของคนจีนด้วย มีลิตเติ้ลอินเดีย มีไชน่าทาวน์ ผสมผสานให้ทุกคนอยู่ด้วยกันได้อย่างไร้รอยต่อ กรุงเทพมหานครต้องนำจุดนี้มาขยายต่อ สร้างอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ให้เข้มแข็ง เชื่อว่าสามารถทำ ‘ดิวาลี’ ให้เป็นเทศกาลประจำปี เพื่อให้มาเฉลิมฉลองกันได้
.
“ต้องมีเทศกาลแบบนี้บ่อย ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ให้พี่น้องที่ทำมาค้าขายสามารถขายได้ ไม่ใช่เฉพาะพี่น้องเชื้อสายอินเดีย จะดึงดูดคนมาเดินเล่น มาพบปะกัน สร้างบรรยากาศดี ๆ ความสดชื่น รอยยิ้ม และเศรษฐกิจให้กลับคืนมา กระตุ้นการใช้จ่าย เป็นจุดรวมใจ รวมวัฒนธรรมไว้ที่นี่ ซึ่งรัฐบาลทำคลองโอ่งอ่างไว้แล้ว เราก็ต้องใช้คลองโอ่งอ่างให้เป็นประโยชน์”นายชัชชาติ กล่าว
.
ขณะที่วานนี้(22 ต.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ร่วมฉลองเทศกาลดิวาลี เทศกาลแห่งแสงสว่าง 2565 ถนนพาหุรัด คลองโอ่งอ่าง
.
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายอินเดียที่ได้เฉลิมฉลอง เทศกาลดิวาลี เทศกาลแห่งแสงสว่าง ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่สำคัญ รวมทั้งส่งผลดีทางเศรษฐกิจ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการค้าขายในย่านพาหุรัด คลองโอ่งอ่าง สะพานเหล็ก และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นการยกระดับวัฒนธรรมขึ้นมาเพื่อสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Bangkok Creative City ของพรรคไทยสร้างไทย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนมาร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลดิวาลีด้วยกัน
.
