ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas โพสต์เฟซบุ๊กข้อความระบุว่า เมื่อสามศาสดาใหญ่สามนิ้วช่วยขยายผล ก็ถึงเวลาต้องเฉลยคำตอบสุดท้าย ทำไมจึงทรงไม่เสด็จฯ เยือนสหราชอาณาจักร เพื่อร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ?
.
การออกมาวิเคราะห์อย่างบิดเบือนให้ร้ายของลุงสุรชัยในตอนต้น กล่าวหาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยไม่ได้รับเชิญให้ร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้แสดงถึงความกักขฬะต่ำตมและไร้ซึ่งวุฒิภาวะใดๆ เป็นอย่างยิ่ง
.
ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง ทางกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาแห่งสหราชอาณาจักร หรือ Foreign, Commonwealth & Development Office (FCDO) ได้ส่งเอกสารเทียบเชิญไปยังสถานเอกอัครราชทูตของประเทศทั่วโลกตามระดับความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน
.
ปรากฏว่าประเทศไทยของเรา ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ได้รับการเทียบเชิญเดียวกันกับ บาห์เรน, ภูฏาน, กัมพูชา, ญี่ปุ่น, จอร์แดน, คูเวต, ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, โมนาโก, โมรอคโค, นอร์เวย์, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดิอาระเบีย, สวีเดน, ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
.
จึงนับได้ว่าลุงสุรชัยสอบตกอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในแง่ของความเป็นนักวิชาการและนักการทูตในอดีต จนกลายเป็นเพียงแค่บุคคลที่สามารถโกหกบิดเบือนให้ร้ายแบบมั่วๆ เท่านั้น ไม่ต่างจากสมศักดิ์เจียมที่คิดเองเออเอง แล้วกุข่าวลือจากการมโนไปเรื่อยเปื่อย
.
จากการที่ได้อธิบายในบทความแรก ประเทศที่ประมุขหรือผู้นำสูงสุดมาร่วมเอง “ส่วนใหญ่” มักจะเป็นประเทศที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นในอดีตหรือเครือจักรภพในปัจจุบัน รวมถึงสถาบันพระมหากษัตริย์หลายประเทศในยุโรป ที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติมาแต่เก่าก่อน
.
แม้กลุ่มข้างต้นจะเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เช่นนั้นทั้งหมด ยกตัวอย่าง เช่น กลุ่มของประเทศไทยที่ได้รับเทียบเชิญจาก FCDO มีลักษณะเป็นทางเลือก โดยทางประมุขแห่งรัฐที่เป็นพระมหากษัตริย์จะเสด็จฯ มาเอง หรือส่งเอกอัครราชทูตมาร่วมแทนก็ได้
.
เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขของการเทียบเชิญในข้างต้น นับได้ว่าประเทศไทยก็ได้ปฏิบัติตามกรอบของการเทียบเชิญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ไม่ได้เป็นปัญหากับทางสหราชอาณาจักรแต่อย่างใด แต่กลับมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีคอยกุข่าวเล่าความเท็จไปต่างๆ นาๆ
.
ไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สุด พระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปอย่างเสรี หากแต่มีการเมืองโลกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จนทำให้มีการแบนรัสเซียจากพระราชพิธี
.
ดังนั้น ท่าทีในการแสดงความไว้อาลัยของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จึงต้องถนอมน้ำใจของทั้งสองขั้ว เป็นที่มาของการแสดงออกหลากหลายรูปแบบภายในประเทศ แต่เลือกที่จะส่งเอกอัครราชทูตเป็นตัวแทนในต่างประเทศ
.
เมื่อประเทศไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น จึงไม่ถูกบังคับโดยธรรมเนียมปฏิบัติที่ประมุขสมควรต้องเดินทางมาเอง เมื่อสามารถเลือกได้ ก็ต้องเลือกจุดสมดุลที่ดีที่สุด เพราะทั้งสหราชอาณาจักรกับรัสเซียต่างก็เป็นมหามิตรและมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนานทั้งคู่
.
งานนี้คงต้องขอบคุณสมศักดิ์เจียมที่อุตส่าห์ช่วยนำเอกสารตัวจริงไปเผยแพร่ต่อ ลุงสุรชัยที่ยอมรับว่ามีการเชิญจริงๆ และแอนดรูที่อุตส่าห์เช็คจากทูตระดับสูงของทางสหราชอาณาจักรหลายท่าน แล้วชี้ชัดว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยได้รับเชิญจริงๆ
.
นำไปสู่บทสรุปสุดท้าย ทำไมจึงทรงแสดงความไว้อาลัยผ่านหลากหลายรูปแบบของพิธีการภายในประเทศ และส่งเอกอัครราชทูตไปร่วมงานแทนพระองค์ในต่างประเทศ ทั้งหมดก็เพื่อรักษาสมดุลสัมพันธไมตรีระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร กับสัมพันธไมตรีระหว่างไทย-รัสเซีย นั่นเอง
.
เนื่องด้วยวันนี้เป็น “วันสันติภาพโลก” ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กันยายนของทุกปี ข้าพระพุทธเจ้าจึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความเลื่อมใสในพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นสุดยอดผู้นำนักประสานประโยชน์ ทรงวางพระองค์ได้อย่างเหมาะสม สามารถรักษาดุลยภาพของสัมพันธไมตรีระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร กับสัมพันธไมตรีระหว่างไทย-รัสเซีย ในครั้งนี้ได้อย่างแหลมคม
.
‘ดร.นิว’ยกเงื่อนไขเทียบเชิญฟาด!!แก๊งศาสดาสามนิ้ว กุข่าวเท็จไม่จบ ปมไทยไม่ร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ’ควีนเอลิซาเบธที่ 2’
- Advertisement -