- Advertisement -
หน้าแรก ข่าวเด่น 'ดร.อักษรศรี'ชี้เหตุผลทำไมรัฐประหาร'สีจิ้นผิง'เป็นไปไม่ได้!!มองความแยบยลทางการเมืองของผู้นำจีน

‘ดร.อักษรศรี’ชี้เหตุผลทำไมรัฐประหาร’สีจิ้นผิง’เป็นไปไม่ได้!!มองความแยบยลทางการเมืองของผู้นำจีน

ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กบทสัมภาษณ์ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ระบุว่า ทำไมรัฐประหาร “สีจิ้นผิง” เป็นไปไม่ได้ !! โครงสร้างการเมืองจีนซับซ้อนซ่อนเงื่อน ประชุมลับ เป่ยไต้เหอ หากมีความเห็นต่างก็เคลียร์ใจ #สลายขัดแย้ง แล้วก็จบ!! ไม่มีการดิสเครดิตกันทางการเมืองหรือหวังยึดอำนาจ จบคือจบ
.
ท่ามกลางวิกฤติการเมืองและสงครามระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” และปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก ล่าสุด จู่ๆ ก็มี “ข่าวลือ” ว่า “สีจิ้นผิง” ประธานาธิบดีของ สาธารณรัฐประชาชนจีน และเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ถูกรัฐประหารโดยกองทัพจีน
.
รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ที่คร่ำหวอดเกี่ยวกับประเทศจีน กล่าวอย่างฟันธงว่า “ข่าวลือ” ดังกล่าว เป็นไปไม่ได้ เพราะ “อำนาจทั้งหมด” ของจีนในยุคนี้อยู่ในกำมือผู้ชายที่ชื่อว่า “สี จิ้นผิง”
.
ที่มาข่าวลือรัฐประหาร “สีจิ้นผิง” และความซับซ้อนโครงสร้างอำนาจในจีน รศ.ดร.อักษรศรี ผู้ที่คร่ำหวอดเกี่ยวกับประเทศจีน กล่าวว่า ตอนนี้ถือเป็นช่วงใกล้การประชุมใหญ่สมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 (จัดประชุมทุก 5 ปี) ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ผู้นำระดับ“คีย์แมน”ของจีน ซึ่งมีอยู่ 7 คน บางคนอาจจะถูกปรับเปลี่ยนออกไปตามกลไก แต่ที่จะไม่เปลี่ยนแปลง คือเบอร์ 1 ของพรรคฯ“สีจิ้นผิง” และเป็นการครองตำแหน่งในวาระที่ 3 ของสีจิ้นผิงด้วย ดังนั้น ข่าวลือ ข่าวปล่อยในช่วงนี้ของจีน โดยเฉพาะประเด็นรัฐประหารในจีน จึงกลายเป็นที่จับตาทั้งของไทยและชาวโลก
.
รศ.ดร.อักษรศรี อธิบายว่า “จีนมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน” ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะด้านการเมืองของจีนมีความแตกต่างจากประเทศไทย และหลาย ประเทศทั่วโลก บางเรื่องเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ และจีนเองไม่เปิดเผยข้อมูลออกสื่อ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยกลายเป็นปริศนา ด้วยเหตุนี้ จึงควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครองในแบบของจีน
.
หมวก 3 ใบ กุมอำนาจการเมือง การปกครอง และการทหารในจีน เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน รศ.ดร.อักษรศรี ได้อธิบายกลไกการเมืองการปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังนี้ “พรรคคอมมิวนิสต์จีน”เปรียบเสมือนเป็น “สถาบันการเมืองสูงสุดของจีน” เป็นพรรคการเมืองเดียวที่กุมอนาคตประเทศจีน ในขณะนี้ มีสมาชิก 90 กว่าล้านคน และมีกลไกโครงสร้างซับซ้อน ที่สำคัญ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้าไปแทรกซึมในทุกภาคส่วนของจีน ทั้งทางตรงและทางอ้อม
.
ทั้งนี้ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ประเทศจีนมีพรรคการเมืองทั้งสิ้น 9 พรรค เพียงแต่พรรคการเมืองอื่นส่วนใหญ่จะอยู่ในฐานะไม้ประดับ ไม่ได้มีอยู่เพื่อเป็นพรรคฝ่ายค้าน และตั้งแต่ปี 1949 พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นเพียงพรรคการเมืองเดียวที่ปกครองแผ่นดินจีน
.
“ดังนั้น ข้อเท็จจริงของการเมืองจีน คือ จีนไม่ได้มีพรรคการเมืองเดียว เพียงแต่ประเทศจีนถูกบริหารโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพียงพรรคเดียวมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 1949” รศ.ดร.อักษรศรี กล่าว
.
พรรคคอมมิวนิสต์จีน มีกองทัพของตัวเอง!!
.
กองทัพจีน หรือ กองทัพปลดแอกประชาชน (People’s Liberation Army หรือ PLA) หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า “กองทัพ PLA เป็นกองทัพสังกัดพรรคคอมมิวนิสต์จีน” เป็นกองทัพของพรรคการเมือง ไม่ใช่กองทัพประเทศ !!
.
“ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ คือ การมีกองทัพเป็นของตนเอง ในขณะที่ พรรคการเมืองของประเทศอื่น เช่น พรรคการเมืองในสหรัฐฯ ทั้ง 2 พรรค คือ รีพับลิกัน หรือ เดโมแครต ก็ไม่ได้มีกองทัพของตนเอง (ยิ้ม) แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีน มีกองทัพของตัวเองที่แข็งแกร่ง ในขณะนี้ สีจิ้นผิงยังได้ครองตำแหน่งสูงสุดในการคุมกองทัพจีน คือ ประธานกรรมาธิการกลางกองทัพจีน จึงสะท้อนว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน กับ โครงสร้างทางการทหาร มีความเกี่ยวพันกันอย่างไร”
.
การปล่อยข่าวลือว่า กองทัพจีนก่อรัฐประหาร“ยึดอำนาจ” สีจิ้นผิงที่ดำรงตำแหน่งเบอร์ 1 ของกองทัพ และเบอร์ 1 บริหารประเทศ (ประธานาธิบดี) รวมทั้งเบอร์ 1 พรรคคอมมิวนิสต์ (เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์) จึงเป็นไปไม่ได้เลย ในเมื่อ“สีจิ้นผิง” ในเวลานี้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ โดยสวมหมวกแห่งอำนาจสำคัญในประเทศจีนถึง 3 ใบ !
.
“อำนาจคุมกองทัพ” หมวกใบสำคัญของ “สีจิ้นผิง”

รศ.ดร.อักษรศรี กล่าวว่า ที่ผ่านมา ผู้นำจีนในอดีตอาจจะไม่ได้สวมหมวก 3 ใบนี้ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างอดีตผู้นำ “เหมาเจ๋อตุง” แม้เหมาเจ๋อตุงจะใส่หมวกเบอร์ 1 คุมพรรคและคุมกองทัพ ในบางช่วงเวลา เหมาเจ๋อตุงแต่ก็ไม่ได้สนใจจะสวมหมวกประธานาธิบดีจีน
.
นอกจากนี้ ผู้นำจีนอย่าง “เติ้งเสี่ยวผิง” ก็ไม่เคยใส่หมวกเบอร์ 1 บริหารประเทศ เติ้งเสี่ยวผิงไม่เคยเป็นประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรีจีน แต่เคยใส่หมวกหลักในการคุมกองทัพ คือ ประธานกรรมาธิการกลางกองทัพจีน ทั้งนี้ แม้ว่า เติ้งเสี่ยวผิงไม่ได้ใส่หมวกสูงสุดในตำแหน่งที่เป็นทางการ แต่เติ้งเสี่ยวผิงก็คือผู้ชายหลังฉากที่มีอำนาจและทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของจีน
.
สำหรับ “สีจิ้นผิง” ตั้งแต่ก้าวสู่อำนาจเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อปลายปี 2012 เขาก็สวมหมวกเบอร์ 1 คุมกองทัพด้วย คือ ตำแหน่งประธานกรรมธิการกลางกองทัพจีน จากนั้น เดือนมีนาคม 2013 เมื่อมีการประชุมสภาประชาชนจีน หรือ NPC สีจิ้นผิงก็ได้เริ่มดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีน เบอร์ 1 ในการบริหารปกครองประเทศจีน “สีจิ้นผิง ถือเป็นผู้นำจีนที่สวมหมวกแห่งอำนาจครบทั้ง 3 ใบอย่างแข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้”
.
ที่สำคัญ ในช่วง 5 ปีแรกของการบริหารประเทศ “สีจิ้นผิง”ยังมุ่งสร้างศรัทธาและซื้อใจประชาชน ด้วยการประกาศทำสงครามปราบคอรัปชั่น และสงครามขจัดความยากจน ซึ่งล้วนเป็นปัญหาคาใจของคนจีน และผู้นำจีนในอดีตยังไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งสองเรื่องนี้ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด”
.
แก้รัฐธรรมนูญ ปลดล็อกตำแหน่งประธานาธิบดีจีนแบบไร้วาระ

กูรูประเทศจีน ยังกล่าวถึงความแยบยลทางการเมืองของ “สีจิ้นผิง” ว่า ในช่วงครองอำนาจครบ 5 ปีแรกและได้รับความนิยมจากประชาชนจีนด้วยการสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อชนะใจคนจีน โดยเฉพาะการปราบคอรัปชั่น ในปี 2017 “สีจิ้นผิง” ก็ได้เริ่มผลักดันสิ่งที่เรียกว่า“ความคิดสีจิ้นผิง” (Xi Jinping Thought on Socialism with Chinese Characteristics for a New Era) และได้นำ“ความคิดสีจิ้นผิง”บรรจุในธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถือเป็นการปูแนวคิดเชิงสถาบันของผลงานตนเองผ่านสิ่งที่เรียกว่า “ความคิดสีจิ้นผิง” และต่อมา ในปี 2018 ก็ได้นำ“ความคิดสีจิ้นผิง”บรรจุในรัฐธรรมนูญของประเทศจีน และล่าสุด ยังได้นำ“ความคิดสีจิ้นผิง”บรรจุในหนังสือตำราเรียนของเยาวชนจีนอีกด้วย !!
.
ทั้งนี้ ในปี 2018 นอกจากจะมีการแก้รัฐธรรมนูญของประเทศเพื่อนำ“ความคิดสีจิ้นผิง”บรรจุไว้ในกฎหมายสูงสุดของประเทศจีนแล้ว ในปีนั้น ยังได้ก็มีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อปลดล๊อกในเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนอีกด้วย (จากเดิมที่มีวาระ 5 ปี ไม่เกิน 2 วาระ คือ 10 ปี)
.
“การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สีจิ้นผิงเพิ่งอยู่ในวาระ 5 ปีแรกเท่านั้น คือปี 2018 ทั้งที่ยังมีเวลาอีก 5 ปี แต่สีจิ้นผิงมีความแยบยล จึงเลือกที่จะแก้รัฐธรรมนูญในช่วงที่เขาได้รับความนิยมและศรัทธาจากประชาชนอย่างล้นหลาม จึงรู้จัก right timing ว่า ตัวเองควรทำเรื่องสำคัญเช่นนี้ในช่วงเวลาใด” ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานอำนาจของ “สีจิ้นผิง”ในเชิงสถาบัน และสะท้อนชัดว่า “อำนาจทางการเมือง การบริหารประเทศ และการทหารอยู่ในกำมือสีจิ้นผิงแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด”
.
หลายคนอาจจะสงสัยว่า การวางอำนาจแบบนี้ถือเป็นวิถีทางของ“ผู้นำเผด็จการ” ไม่ฟังประชาชนเลยหรือไม่ ? รศ.ดร.อักษรศรี ตอบว่า “คงไม่ได้ขนาดนั้น” เท่าที่จับตาสถานการณ์ในยุคสีจิ้นผิงมาถึงขณะนี้ พบว่า การสร้างฐานอำนาจของสีจิ้นผิงและพรรคคอมมิวนิสต์จีนในยุคนี้ ไม่ได้ทำเพื่อริดรอดหรือคุกคามประชาชน แต่เน้นใช้อำนาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เพื่อจัดการกับปัญหาความทุกข์ใจของประชาชนจีนที่เคย“แก้ยาก”และผู้นำจีนในอดีตไม่เคยแก้ไขได้ เช่น ปัญหาคอรัปชั่น และปัญหาความยากจน
.
ตัวอย่างรูปธรรมในการปราบคอรัปชั่นของ“สีจิ้นผิง”ในช่วง 5 ปีแรกของการเป็นผู้นำจีน มีรายงานว่า สีจิ้นผิงสามารถจัดการกับการคอรัปชั่นได้มากถึง 1.5 ล้านกรณี ไม่ว่าจะเป็นระดับรัฐมนตรี หรือเบอร์ 2 ของกองทัพจีน และตำแหน่งใหญ่โตใดๆ ก็ถูกปราบ หากมีหลักฐานชัดว่า ได้มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยมีหน่วยงานปราบคอรัปชั่นระดับประเทศของจีนที่มีความเฉียบขาด และจัดการลงดาบกับทุกระดับ ไม่ว่าเสือหรือแมลงวัน
.
อย่างไรก็ดี หลายคนอาจจะมองว่า สีจิ้นผิงใช้การปราบคอรัปชั่นเพื่อ “กำจัดศัตรูทางการเมือง”หรือไม่ ? รศ.ดร.อักษรศรี ตอบว่า “ก็มีบางกรณีที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นฝ่ายตรงข้ามสีจิ้นผิง” แน่นอนว่า ย่อมมีบางกรณีที่ผู้ถูกลงโทษ คือ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับสีจิ้นผิง แต่อย่างไรก็ดี คนเหล่านั้นล้วนมีหลักฐานในการทำผิดและคอรัปชั่นโกงกินบ้านเมือง ดังเช่นข่าวล่าสุด กรณีของฝูเจิ้งหัวและซุนลี่จุน ที่เป็นอดีตรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีช่วย เพิ่งถูกตัดสินในข้อหาคอรัปชั่น จึงถูกโยงเข้ากับการปล่อยข่าวลือเรื่อง “รัฐประหาร”ยึดอำนาจสีจิ้นผิง
.
”เป่ยไต้เหอ”ประชุมลับและเป็นเวที “เคลียร์ใจสลายขัดแย้ง”

เมื่อถามว่า มีความเห็นต่างกับ“สีจิ้นผิง” ในพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือไม่ ? รศ.ดร.อักษรศรี ยอมรับว่า “ย่อมมีคนเห็นต่างในพรรคฯ เป็นเรื่องธรรมดาทุกอย่างมีหลายมุมมอง” เพียงแต่เป็นความเห็นต่างในเชิงนโยบายหรือวิธีการจัดการปัญหา แต่ไม่ใช่ความเห็นต่างที่เป็นความแตกแยกแย่งชิงอำนาจ ขอยกตัวอย่าง “กรณีนโยบาย Zero Covid ของสีจิ้นผิง ต้องยอมรับว่า มีบางคนในพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มองว่า เป็นนโยบายที่ตึงเกินไป จนสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจตามมา” จึงมีข้อถกเถียงกันว่า ถึงเวลาผ่อนคลายนโยบาย Zero Covid หรือควรจะยกเลิกเมื่อไร อย่างไร
.
“ความเห็นต่างในพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นแค่การถกเถียงเชิงความคิดว่า อะไรจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าหรือดีที่สุดในการแก้ปัญหาของชาติ แต่ไม่ใช่เห็นต่างถึงขั้นจะยึดอำนาจ” ซึ่งความเห็นต่างภายในพรรคคอมมิวนิสต์ ก็จะมีการ “นัดเคลียร์ใจ” กันทุกปี ในการประชุมนอกรอบของพรรคฯ ที่เมืองเป่ยไต้เหอ (Beidaihe) ในช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งจะมีผู้บริหารของพรรคคอมมิวนิสต์ทั้งผู้ใหญ่ในอดีตและปัจจุบัน ก็จะไปร่วมประชุมเคลียร์ใจกันในที่พักตากอากาศริมทะเลเมืองเป่ยไต้เหอ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคฯ มาตั้งแต่ยุคเหมาเจ๋อตง และเป็นการประชุมลับ ไม่มีใครรู้ว่า ผู้ใหญ่ในพรรคของจีนตกลงอะไรกัน”
.
รศ.ดร.อักษรศรี กล่าวทิ้งท้ายว่า “เมื่อมีการประชุมเคลียร์กันจนจบที่เป่ยไต้เหอ ความเห็นต่างทุกอย่างก็จบตรงนั้น จะไม่นำข้อมูลมาโจมตีทางการเมืองหรือดิสเครดิตขัดแย้งกัน หรือพยายามที่จะล้มล้างยึดอำนาจกัน นี่คือ กลไกที่เป็นระบบแบบจีน” ดังนั้น เมื่อมีข่าวลือต่างๆ ออกมา ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองข่าวสาร “หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับจีน จะมีความซับซ้อนและมีบริบทแบบจีนที่แตกต่างกับหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย จึงควรจะทำความเข้าใจโครงสร้างการเมืองและการปกครองของจีนอย่างถ่องแท้ด้วย” จีนซับซ้อนซ่อนเงื่อน
.
Credit : ไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/scoop/interview/2511526
.

ThePOINT #ข่าวสังคม #อักษรศรีพานิชสาส์น #จีน #สีจิ้นผิง #ประธานาธิบดีจีน #รัฐประหาร

- Advertisement -

Stay Connected

21,427แฟนคลับชอบ

Must Read

‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย ลุยลงพื้นที่ชุมชนหน้าวัดบุญรอดร่วมเซิ้งชาวบ้านคึกคัก ชูนโยบายดูแลคนกรุงฯ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย เขตพระโขนง-บางนา กรุงเทพฯ ลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อแนะนำตัวและชูนโยบายพรรค พร้อมรับฟังปัญหาของชาวชุมชนหน้าวัดบุญรอด ซ.สุขุมวิท 62 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีชาวบ้านให้การตอบรับจำนวนมาก โอกาสนี้'มณีรัตน์'ได้แนะนำตัว พร้อมร่วมเซิ้งกับชาวชุมชนหน้าวัดบุญรอด บรรยากาศเป็นไปด้วยความครึกครื้น.พร้อมกันนี้ยังได้นำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ...
- Advertisement -

‘ปิยบุตร’ชี้หนทาง’ทักษิณ’กลับไทยไม่ต้องติดคุก!!ไม่ต้องมีนิรโทษกรรม แนะลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา 49

นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ"กรณีคุณทักษิณ : ไม่ติดคุก ไม่นิรโทษ ต้องลบล้างผลพวงรัฐประหาร ดำเนินคดีใหม่อย่างเป็นธรรม" ระบุว่า สำนักข่าวจากประเทศญี่ปุ่น รายงานข่าว เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ความว่า คุณทักษิณ ชินวัตร พร้อมกลับมาติดคุก และไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ตนเอง.ประเด็นปัญหา “กลับบ้าน” ของคุณทักษิณอยู่ในสังคมไทยมาเกือบสองทศวรรษ...

อัด’โทนี่’อ้างทรมานต่างแดน!!เทียบไม่ได้ชะตากรรมอดีต3รมต.ยุครัฐบาล’ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ดิ้นสู้ติดคุกแต่ตัวเองหนีไปสุขสบาย

วันนี้(25 มี.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ พร้อมกลับประเทศไทยหลังการเลือกตั้งว่า นายทักษิณสามารถกลับประเทศไทยได้ทุกเวลา แต่ที่ผ่านมาไม่ยอมกลับมาเอง ทั้งที่มีรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องในยุครัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับโทษจำคุกในคดีทุจริตที่เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร ไม่ว่าจะเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ถูกศาลฎีกาฯ...

‘ทนายบอน’รวมไทยสร้างชาติ โต้ถูกยัดข้อกล่าวหาทิ้งพื้นที่ ซัดตอนปชช.เดือดร้อนไปมุดที่ไหน ปลุกทำการเมืองสร้างสรรค์หยุดทำลาย

นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ทนายบอน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ทนายบอน เค้าทิ้งพื้นที่ เดี๋ยวขออาสามาทำงานแทนเอง ข้อกล่าวหาที่มีคนยัดให้ผมเมื่อเช้านี้ …เช้านี้มีคนของผู้สมัครท่านหนึ่ง ติดต่อไปยังประธานชุมชน ขอเอาผู้สมัครเข้าพบ แต่ขอเข้าแบบธรรมดาไม่ได้ มีแถมสับศอก (ด้วยคำพูด) ใส่ผมว่า "ทนายบอนทิ้งพื้นที่" ผู้สมัครของเค้าอาสามาทำพื้นที่แทน.ผมเรียนแบบนี้ครับ ขอให้คุณกลับไปดูแนวทางพรรคคุณให้ชัด...

Related News

‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย ลุยลงพื้นที่ชุมชนหน้าวัดบุญรอดร่วมเซิ้งชาวบ้านคึกคัก ชูนโยบายดูแลคนกรุงฯ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย เขตพระโขนง-บางนา กรุงเทพฯ ลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อแนะนำตัวและชูนโยบายพรรค พร้อมรับฟังปัญหาของชาวชุมชนหน้าวัดบุญรอด ซ.สุขุมวิท 62 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีชาวบ้านให้การตอบรับจำนวนมาก โอกาสนี้'มณีรัตน์'ได้แนะนำตัว พร้อมร่วมเซิ้งกับชาวชุมชนหน้าวัดบุญรอด บรรยากาศเป็นไปด้วยความครึกครื้น.พร้อมกันนี้ยังได้นำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ...

‘ปิยบุตร’ชี้หนทาง’ทักษิณ’กลับไทยไม่ต้องติดคุก!!ไม่ต้องมีนิรโทษกรรม แนะลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา 49

นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ"กรณีคุณทักษิณ : ไม่ติดคุก ไม่นิรโทษ ต้องลบล้างผลพวงรัฐประหาร ดำเนินคดีใหม่อย่างเป็นธรรม" ระบุว่า สำนักข่าวจากประเทศญี่ปุ่น รายงานข่าว เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ความว่า คุณทักษิณ ชินวัตร พร้อมกลับมาติดคุก และไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ตนเอง.ประเด็นปัญหา “กลับบ้าน” ของคุณทักษิณอยู่ในสังคมไทยมาเกือบสองทศวรรษ...

อัด’โทนี่’อ้างทรมานต่างแดน!!เทียบไม่ได้ชะตากรรมอดีต3รมต.ยุครัฐบาล’ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ดิ้นสู้ติดคุกแต่ตัวเองหนีไปสุขสบาย

วันนี้(25 มี.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ พร้อมกลับประเทศไทยหลังการเลือกตั้งว่า นายทักษิณสามารถกลับประเทศไทยได้ทุกเวลา แต่ที่ผ่านมาไม่ยอมกลับมาเอง ทั้งที่มีรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องในยุครัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับโทษจำคุกในคดีทุจริตที่เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร ไม่ว่าจะเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ถูกศาลฎีกาฯ...

‘ทนายบอน’รวมไทยสร้างชาติ โต้ถูกยัดข้อกล่าวหาทิ้งพื้นที่ ซัดตอนปชช.เดือดร้อนไปมุดที่ไหน ปลุกทำการเมืองสร้างสรรค์หยุดทำลาย

นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ทนายบอน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ทนายบอน เค้าทิ้งพื้นที่ เดี๋ยวขออาสามาทำงานแทนเอง ข้อกล่าวหาที่มีคนยัดให้ผมเมื่อเช้านี้ …เช้านี้มีคนของผู้สมัครท่านหนึ่ง ติดต่อไปยังประธานชุมชน ขอเอาผู้สมัครเข้าพบ แต่ขอเข้าแบบธรรมดาไม่ได้ มีแถมสับศอก (ด้วยคำพูด) ใส่ผมว่า "ทนายบอนทิ้งพื้นที่" ผู้สมัครของเค้าอาสามาทำพื้นที่แทน.ผมเรียนแบบนี้ครับ ขอให้คุณกลับไปดูแนวทางพรรคคุณให้ชัด...

‘ทักษิณ’ประกาศพร้อมกลับมาติดคุกในไทย!!พ้อทรมานมามากพอแล้ว 16 ปีเหมือนติดคุกใหญ่ห่างครอบครัว

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่น วานนี้(24 มี.ค.) โดยระบุว่า ตนเองพร้อมที่จะกลับมารับโทษจำคุกในประเทศไทย โดยขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่า ผลการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพ.ค. นี้จะออกมาเป็นอย่างไร กำลังรอเวลาก่อนที่จะกลับมาประเทศไทยในปีนี้ หลังจากใช้ชีวิตลี้ภัยในต่างประเทศมาหลายปี เพราะถูกขับออกประเทศหลังการรัฐประหารในปี 49 และออกจากประเทศไทยในปี 51 เพื่อไม่ต้องเผชิญหน้ากับโทษในคุก.“ตอนนี้ผมเหมือนติดอยู่ในคุกขนาดใหญ่มา 16 ปีแล้ว เพราะพวกเขากีดกันไม่ให้ผมอยู่กับครอบครัว...

‘บิ๊กตู่’ลั่นเป็นสุภาพบุรุษพอ ให้อภัย!!’ศรัณย์วุฒิ’คุกเข่าขอขมาหลังเคยจัดหนักในสภา

วันนี้(24 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุถึงกรณีที่วานนี้(23 มี.ค.) นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตส.ส. จังหวัดอุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ คุกเข่าขอขมานายกรัฐมนตรี พร้อมสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ถือเป็นสัญญาณที่ดีในทางการเมืองหรือไม่ ว่า ตนเองเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว และเข้าใจเวลาทำงานในสภาฯ ทุกคนก็เห็นกันอยู่แล้วเขาก็ทำและพูดได้ทุกอย่างตามความเชื่อของเขา."เมื่อวานเขาก็มาขอโทษอะไรต่างๆเหล่านี้ ผมก็เข้าใจบทบาทในสภา เขาเป็นฝ่ายค้านก็ต้องพยายามค้านให้ได้มากที่สุด แต่มันอาจจะเกินเลยไปบ้างผมก็ให้อภัยได้...

รับไว้ไม่ได้!!’ศิริราช’คืนเงินบริจาคให้’ชูวิทย์’หลังมีครหาเอี่ยวธุรกิจสีเทา

จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ“ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ออกมาแฉว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รับเงินแบบ“แฉไป ไถไป” ก่อนที่ต่อมานายชูวิทย์ ยอมรับว่ามีการรับเงินจาก “สารวัตรซัว”จริง จำนวน 6 ล้านบาทเท่านั้น และได้นำไปบริจาคที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ 3 ล้าน และอีก 3 ล้านบาทบริจาคที่โรงพยาบาลศิริราชนั้น.ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (24...

‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย เขตพระโขนง-บางนา เตรียมลงพื้นที่แนะนำตัวพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย เขตพระโขนง-บางนา กรุงเทพฯ เตรียมลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อแนะนำตัวและชูนโยบายพรรค พร้อมรับฟังปัญหาของชาวชุมชนหน้าวัดบุญรอด ซ.สุขุมวิท 62 เวลา 10.00 น. และที่ตลาดสี่แยกบางนา เวลา 17.00 น. ในวันพรุ่งนี้(25 มี.ค.).ทั้งนี้'มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์'เป็นเลือดใหม่ของพรรคภูมิใจไทย มีดีกรีนักกฎหมายจาก...

‘ภูมิใจไทย’ใส่ใจศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์!!ชูนโยบายด้านผู้พิการ หนุนสร้างพลังที่ไม่ใช่ภาระ พร้อมแก้กฎหมายคุ้มครองสิทธิ

น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร่วมเสวนาในหัวข้อ “คนพิการอยู่ไหนในการเมืองไทย” จัดโดยมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา พร้อมนำเสนอนโยบายด้านผู้พิการ ต้องการให้คนพิการมีความภูมิใจ มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีพลังที่ไม่ใช่ภาระ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ เป็นพลเมืองดีของสังคม.น.ส.อนุสรี ระบุว่า การส่งเสริมให้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้...

ถึงกับอุทาน’อกอีแป้นจะแตก!!’หลังฟังเหตุผลย้ายพรรค’อดีตรัฐมนตรี’ร่วมรัฐบาล

วันนี้( 24 มี.ค.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า จิตสำนึก? นักการเมืองไทยย้ายเปลี่ยนพรรคไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะอยู่กันด้วยผลประโยชน์ อย่าอ้างอุดมการณ์ แต่บางคนเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล แต่เหตุผลที่ย้าย 8 ปีเศรษฐกิจพัง อกอีแป้นจะแตก ทำไมความรู้สึกช้าจัง จิตสำนึกไม่บอกให้ลาออกบ้างเลยหรือทนอยู่ได้ไง.

‘อนุทิน’ประกาศชัด!!ถ้า’ภูมิใจไทย’กวาดส.ส. เป็นอันดับ 1 พร้อมเป็นนายกฯเอง ปัดมีดีลตั้งรัฐบาลล่วงหน้า

วันนี้( 24 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุถึงกรณีนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า นายอนุทิน พร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ...

‘เฉลิม’ซัดแหลก!!’ประยุทธ์’รวม 9 เรื่องทำล้มเหลว หวังเป็นตัวช่วยปชช. ตัดสินใจเลือกพรรคการเมือง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษของพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความ ว่า กราบเรียนพี่น้องประชาชน กระผม ร้อยตำรวจเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษของพรรคเพื่อไทย ต่อไปคงจะไม่มีเวลาเขียนข้อความลงในเฟซบุ๊ก เพราะต้องออกไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง วันนี้จึงขอเสนอความเห็นวิจารณ์การทำงานของ พล.อ. ประยุทธ์ รวม 9 ประเด็นด้วยกันที่รัฐบาลมีความบกพร่อง กล่าวคือ

ซีนใหญ่!!‘ศรัณย์วุฒิ’คุกเข่าขอขมา‘บิ๊กตู่’เคยล่วงเกินในสภา ขอย้ายซบ’รวมไทยสร้างชาติ’

วานนี้(23 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ ขณะที่ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรครทสช. โดยได้ขึ้นไปรอด้านบนพรรครทสช. เนื่องจากมาไม่ทันช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อให้ทีมเศรษฐกิจและว่าที่ผู้สมัครส.ส..ทั้งนี้ทันทีที่นายศรัณย์วุฒิ ได้พบกับพล.อ.ประยุทธ์ นายศรัณย์วุฒิ ได้คุกเข่าขอขมา พล.อ.ประยุทธ์ ที่ก่อนหน้านี้ได้พูดในสภาด้วยการใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ขณะที่นายกฯ จับมือพร้อมกล่าวกลับไปว่า “ไม่โกรธเคือง เข้าใจว่าการเมืองคือการเมือง”.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์...

‘ณัฏฐ์ มงคลนาวิน’วอนเปิดใจทะลายกำแพงความต่าง!!พร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบายดีๆ เพื่อชาวดอนเมือง

"ณัฏฐ์ มงคลนาวิน"ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขตดอนเมือง โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่หนังสั้นแนะนำตัว พร้อมเหตุผลในการลงสนามการเมือง ในหัวข้อ "เคยมีเพื่อนรุ่นน้องถามว่า มาลงการเมืองแบบนี้ ถ้ามีคนมาบูลี่สิ่งที่พี่เป็น พี่จะโอเคมั้ย?"."ณัฏฐ์ มงคลนาวิน" ยังระบุด้วยว่า สวัสดีครับ ผมณัฏฐ์ มงคลนาวิน ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขตดอนเมือง ผมเป็นทรานส์เมนส์ครับ ทรานส์เมนส์คือตัว T ที่อยู่ใน LGBTQ...

‘ก้าวไกล’ชี้ Made in Thailand ยุค’พล.อ.เปรม’ไม่เหมาะกับปัจจุบัน!!แนะอย่ายึดติดการลงทุนในดินแดน

วันนี้(23 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล - Move Forward Party โพสต์ข้อความว่า หมดยุค Made in Thailand ถึงเวลา Made with Thailand นโยบาย Made in Thailand ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคพลเอกเปรม...
- Advertisement -