จากกรณีชาวต่างชาติ เช่น เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม จีน รัสเซีย และ อินเดีย เข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ทั้งในตลาดนัด ตลาดสด ร้านทำเล็บ อู่ซ่อมรถ แผงค้าขาย รถเข็น ผับบาร์ตามแหล่งท่องเที่ยว และย่านการค้าซึ่งเป็นที่นิยม ทั้งในกลุ่มชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จนกระทบต่อบรรดาผู้ประกอบการในพื้นที่นั้น
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดว่า กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานใช้มาตรการเชิงรุกตรวจสอบต่างชาติแย่งงานคนไทยทั่วประเทศโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เผยตรวจสอบสถานประกอบการแล้ว 25,628 แห่ง ดำเนินคดี 820 แห่ง ตรวจสอบพบชาวต่างชาติ จำนวน 306,577 คน ดำเนินคดีแล้ว 1,689 คน เป็นความผิดแย่งอาชีพคนไทย 721 คน ส่วนมากคนต่างชาติจะอาศัยอยู่ตามจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ภูเก็ต สมุย พัทยา และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งประกอบอาชีพคนไทย และย่านการค้าแหล่งเศรษฐกิจสำคัญที่พบเห็นแรงงานต่างชาติทำงานจำนวนมาก
นายคารม กล่าวต่อไปว่า จากผลการดำเนินการของกรมการจัดหางาน ปีงบประมาณ 2567 (วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 18 มีนาคม 2567) มีการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างชาติทั่วประเทศแล้ว จำนวน 25,628 แห่ง ดำเนินคดี 820 แห่ง และตรวจสอบคนต่างชาติ จำนวน 306,577 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 232,106 คน กัมพูชา 42,698 คน ลาว 18,001 คน เวียดนาม 236 คน และสัญชาติอื่น ๆ 13,536 คน มีการดำเนินคดีทั้งสิ้น 1,689 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 875 คน กัมพูชา 318 คน ลาว 231 คน เวียดนาม 87 คน และสัญชาติอื่น ๆ 178 คน ซึ่งพบเป็นการแย่งอาชีพคนไทย ทั้งสิ้น 721 คน
แบ่งเป็นสัญชาติเมียนมา 316 คน กัมพูชา 175 คน ลาว 106 คน อินเดีย 65 คน เวียดนาม 42 คน จีน 5 คน และสัญชาติอื่น ๆ 12 คน โดยอาชีพที่พบคนต่างชาติแย่งอาชีพมากที่สุด ได้แก่ งานเร่ขายสินค้า งานตัดผม งานขับขี่ยานพาหนะ และงานนวด ตามลำดับ และงานที่คนต่างชาติถูกดำเนินคดีเพราะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้แก่ งานขายของหน้าร้าน งานช่างก่อสร้าง งานกรรมกร ตามลำดับ