นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ”ชาวนาไทย กับ ความมั่นคงทางอาหารของประเทศ” ระบุข้อความว่า ผมเกิดที่จังหวัดเพชรบุรี เด็กๆ เคยช่วยตายายพ่อแม่ทำนา ตั้งแต่ไถ หว่าน ดำ เกี่ยว เก็บ เป็นงานที่เรียกว่าเหนื่อยมากเอาการ ตื่นแต่เช้ามืด ตากแดด หน้าดำ ทำงานทั้งวัน กว่าจะได้กลับบ้านก็ค่ำมืด เดี๋ยวนี้ประเทศเราพัฒนาและเจริญขึ้นมาก แต่ชาวนาที่ได้ชื่อว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติกลับมีความเป็นอยู่แย่ลง ทำมาหาไม่พอกิน หนี้สินรุงรัง
.
แม้จะปลูกข้าวได้ผลผลิตมากขึ้นกว่าก่อน ทำนาได้เพิ่มเป็นปีละ 2 ครั้ง แต่ต้องลงทุนค่าปุ๋ย ค่ายา จิปาถะมากมาย จนแทบไม่เหลืออะไรเลย ทำนาเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ค่าปุ๋ยค่ายา ค่าน้ำมันรถ ค่าดอกเบี้ย ธกส. สุดท้ายถ้าไม่พอก็ต้องไปกู้เขาเพิ่ม แล้วจะทำนาไปเพื่ออะไร? มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ผ่านมาและที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ การลงพื้นที่กับพรรค ได้รับทราบว่าปัญหาเหล่านั้นยังคงอยู่ และหนักหนาสาหัสกว่าเดิม จนน่าเป็นห่วงมากขึ้น ขอตั้งคำถามแทนชาวนาว่าจะทำอย่างไร ชาวนาจึงจะลืมตาอ้าปากได้?
.
พรรคสร้างอนาคตไทย พยายามหาคำตอบให้กับคำถามนี้ พรรคมีคนวัยหนุ่มสาวที่มีประสบการณ์จริงในการทำนา ทำเกษตรกรรม ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ที่จะมาช่วยกันสร้างนโยบาย คิดมาตรการเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว พรรคจะนำเสนอให้ทราบในเร็วๆ นี้ พวกเราลองจินตนาการ ถ้าไม่ช่วยกันแก้ปัญหาให้ และชาวนาเลิกทำนากันมากขึ้นเรื่อยๆ ผลผลิตข้าวก็จะน้อยลงจนไม่เพียงพอแก่การบริโภคในประเทศ จะเกิดอะไรขึ้น เราจะอยู่กันอย่างไร
.
‘นริศ’ตั้งคำถามถ้าชาวนาเลิกปลูกข้าวเกิดอะไรขึ้น??ชี้มาตรการรัฐไม่ตอบโจทย์ กระดูกสันหลังของชาติความเป็นอยู่แย่ลง
- Advertisement -![]()
