จากกรณีนักเรียนชายชั้น ม.2 ที่แทงกันหลังเลิกแถวเคารพธงชาติตอนเช้า ในโรงเรียนในเขตสวนหลวง ก่อนหน้านี้กลายเป็นเทรนด์ร้อนในโซเชียล สำหรับแฮชแท็ก #นักเรียนแทงกัน และ #พัฒนาการ คุณครูได้ให้ความเห็นว่า เด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุ เป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่นิ่ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน พร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ เนื่องจากต้องมีหลักฐาน หรือใบรับรองแพทย์ในการรับรองความพิเศษด้วย
โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ เวลาประมาณ 08.40 น. ตนเห็นผู้บาดเจ็บวิ่งออกมาจากภายในอาคาร โดยมีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณลำคอ และมาล้มลงที่สนามกีฬาหน้าอาคาร โดยมีเด็กผู้ก่อเหตุที่ใช้มีดแทงวิ่งตามออกมา ตนเห็นจึงได้เข้าไปช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ และเด็กผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยกัน และก่อนหน้านี้ไม่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันมาก่อน
ขณะที่ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เด็กนักเรียนที่ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 แต่อยู่คนละห้อง ส่วนสาเหตุคาดว่า เด็กที่ก่อเหตุอาจจะถูกแกล้งอย่างต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ จึงมีความคับแค้นใจ อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ การประเมินจากคุณครูผู้สอน คุณครูได้ให้ความเห็นว่า เด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุ เป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่นิ่ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน พร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ เนื่องจากต้องมีหลักฐาน หรือใบรับรองแพทย์ในการรับรองความพิเศษด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ คนในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก จนทำให้แฮชแท็ก #นักเรียนแทงกัน และ #พัฒนาการ ติดเทรนด์ในโลกทวิตเตอร์ (x) เนื่องจากว่าเป็นเหตุการณ์ที่เด็กเป็นผู้กระทำผิด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ที่เด็กกระทำผิดกฎหมายโดยใช้ความรุนแรงในหลายพื้นที่ อีกทั้งพอมีรายงานว่าเด็กที่ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษ ทำให้เกรงว่าอาจจะไม่ต้องได้รับโทษ ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ และ พม. ก็ออกมาบอกเหมือนกันว่า ผู้ก่อเหตุจะเป็นเด็กพิเศษหรือไม่นั้น อย่าเพิ่งตัดสิน เพราะต้องได้รับการรับรองจากแพทย์ก่อน