- Advertisement -
หน้าแรก สังคม 'ปธ.ทีดีอาร์ไอ'ฟาดแรง!!กสทช.'มติอัปยศ'ไฟเขียวดีลควบรวมทรู-ดีแทค ชี้สร้างความเสียหายต่อประชาชนร้ายแรง

‘ปธ.ทีดีอาร์ไอ’ฟาดแรง!!กสทช.’มติอัปยศ’ไฟเขียวดีลควบรวมทรู-ดีแทค ชี้สร้างความเสียหายต่อประชาชนร้ายแรง

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี กสทช.มีมติเสียงข้างมาก อนุมัติให้ทรูควบรวมกิจการกับดีแทค ระบุว่า มติอัปยศของ กสทช. ในการอนุญาตให้ควบรวม ทรูและดีแทค สำหรับผมแล้ว การลงมติเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมาของ กสทช. ซึ่งยอมให้ทรูและดีแทคควบรวมกัน โดยอ้างว่า กสทช. ไม่มีอำนาจในการห้ามการควบรวมเป็น “มติอัปยศ” ของเสียงข้างมากโดยแท้ เนื่องจากเป็นมติที่ กสทช. จงใจตัดอำนาจของตน ไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนอย่างร้ายแรง เพราะทำให้ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยมีการผูกขาดมากขึ้น
.
ผลการศึกษาในภาพรวมโดยนักวิชาการไทยหลายสถาบันชี้ว่า ราคาค่าบริการหลังควบรวมอาจสูงขึ้น 2-23% ในกรณีที่ไม่มีการสมคบราคากัน (ฮั้ว) ระหว่างผู้ประกอบการ 2 รายที่เหลืออยู่ แต่หากมีการฮั้วราคากัน อัตราค่าบริการอาจสูงขึ้นถึง 120-244% และ GDP ของประเทศจะหดตัวลง 0.5-0.6% เช่นเดียวกันกับผลการศึกษาของที่ปรึกษาต่างประเทศของ กสทช. เองที่ชี้ไปในทางเดียวกันว่า ไม่ควรอนุญาตให้มีการควบรวม
.
ผลการลงมติครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ผมเองได้เคยคาดการณ์มาแล้วว่าจะมี “การเล่นกลทางกฎหมาย” ว่า กสทช. ไม่มีอำนาจห้ามควบรวม ตามที่ผู้บริหารสำนักงาน กสทช. และ กสทช. บางคน มีท่าทีชี้นำมาโดยตลอด แม้ว่าศาลปกครองกลางได้เคยพิจารณาในคดีที่เกี่ยวข้องแล้วว่า กสทช. มีอำนาจที่จะพิจารณาให้ควบรวมหรือไม่ให้ควบรวมก็ได้
.
ที่อาจจะแปลกใจอยู่บ้างก็คือ มี กสทช. บางท่านไม่กล้าลงมติ ซึ่งอาจเกิดจากการกลัวความรับผิดทางกฎหมาย เพราะหากลงมติไปว่า กสทช. ไม่มีอำนาจพิจารณาให้ควบรวม ก็อาจจะเป็นการกลับความเห็นของตน ซึ่งแต่เดิม กสทช. ทั้งองค์คณะเคยมีมติ 3-2 ว่า กสทช. มีอำนาจในการพิจารณาอนุญาตให้ควบรวมหรือไม่ก็ได้ เมื่อครั้งที่ชี้แจงต่อศาลปกครองกลาง อย่างไรก็ตาม ผมไม่เชื่อว่าการไม่ลงมติครั้งนี้จะทำให้ท่านรอดพ้นจากความรับผิดชอบไปได้ ซึ่งหากมีการฟ้องร้องคดีว่าท่านปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็น่าสนใจว่าจะมีคำตัดสินออกมาเป็นบรรทัดฐานต่อไปอย่างไร
.
ผมขอตำหนิ กสทช. เสียงข้างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มาจากตัวแทนผู้บริโภค และผู้ที่มาจากตัวแทนของผู้ส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพราะท่านทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการถูกกลุ่มทุนผูกขาดเอาเปรียบ และประชาชนถูกริดรอนสิทธิและเสรีภาพจากการมีทางเลือกที่ลดลง เช่นเดียวกัน ผมขอตำหนิ กสทช. ท่านที่ไม่กล้าแม้แต่จะออกเสียงลงมติตามหน้าที่ ทั้งที่มีเวลาให้ศึกษาประเด็นทั้งหลายมานานพอ ผมอยากเห็นทั้งสามท่านนี้ลาออกจากตำแหน่ง แม้จะคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
.
ในขณะเดียวกัน ผมขอแสดงความชื่นชม กสทช. เสียงข้างน้อยคือ รศ. ดร. ศุภัช ศุภชลาศัย และ ศ. ดร. พิรงรอง รามสูต ที่ได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน และไม่อยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มทุน

= เงื่อนไขและมาตรการเฉพาะที่ไม่มีผลลดความเสียหาย

เมื่อยอมให้เกิดการควบรวมแล้ว กสทช. ก็ได้กำหนดเงื่อนไขและมาตรการเฉพาะไว้ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันผลกระทบในด้านลบที่จะเกิดขึ้นจากการควบรวม ทั้งที่มาตรการเหล่านี้แทบไม่มีผลในทางปฏิบัติในการคุ้มครองผู้บริโภคเลย กล่าวคือ

• การให้ผู้ประกอบการที่ควบรวมกันลดราคาเฉลี่ยลง 12% ใน 90 วันหลังควบรวม เป็นการลดราคาที่น้อยเกินไป เพราะการศึกษาชี้แล้วว่า ราคาค่าบริการหลังควบรวมอาจสูงได้ขึ้น 120-244% ในกรณีที่มีการสมคบราคากัน (ฮั้ว) ระหว่างผู้ประกอบการ 2 รายที่เหลืออยู่ นอกจากนี้โดยทั่วไป ราคาค่าบริการโทรคมนาคมในตลาดที่มีการแข่งขันก็จะลดลงอย่างต่อเนื่องตามพัฒนาการทางเทคโนโลยีอยู่แล้ว

• การสั่งให้ผู้ประกอบการที่ควบรวมกันส่งข้อมูลต้นทุน และให้มีที่ปรึกษาไปตรวจสอบต้นทุน แสดงให้เห็นว่า กสทช. อนุญาตให้มีการควบรวม โดยไม่ทราบต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งหมายถึงการไม่ได้ทำหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างที่ควรจะเป็น

• การให้ผู้ประกอบการที่ควบรวมกันคงแบรนด์ที่ให้บริการแยกจากกันเป็นเวลา 3 ปี ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการเลย และกลับทำให้ประโยชน์อันน้อยนิดจากการควบรวมไม่เกิดขึ้น

• การจัดให้มีผู้ให้บริการที่ไม่มีโครข่าย (MVNO) เข้ามาแข่งขันไม่น่าจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยอิ่มตัวแล้ว และมาตรการที่กำหนดขึ้นก็แทบไม่แตกต่างจากมาตรการเดิมที่มีอยู่

• การให้ผู้ประกอบการที่ควบรวมกันต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการใช้คลื่นความถี่อย่างเคร่งครัด จะเป็นได้อย่างไรในเมื่อ กสทช. ไม่ได้สั่งให้ผู้ประกอบการที่ควบรวมกันคืนคลื่นความถี่ที่ถืออยู่เกินกว่าที่กำหนดในเงื่อนไขการประมูล ซึ่งก็มีฐานะเป็น “กฎหมาย” ที่ออกโดย กสทช. เอง

• มาตรการอื่นๆ เช่น การกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ควบรวมกันรักษาคุณภาพบริการ และการให้ใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ก็เป็นมาตรการที่มีอยู่เดิมแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการบังคับใช้ ครั้งนี้ก็เป็นเพียงการเอามาตรการเดิมมาเติมคำว่า “อย่างเคร่งครัด” เข้าไป ซึ่งเป็นการบอกในทางอ้อมว่า ที่ผ่านมา กสทช. ไม่ได้บังคับให้เกิดการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ “อย่างเคร่งครัด” เลย

• การกำหนดให้เอกชนเสนอ “แผนพัฒนานวัตกรรม” ที่เป็น “รูปธรรม” ขึ้นมา ก็ชี้ให้เห็นว่าการกล่าวอ้างของผู้ประกอบการว่าการควบรวมจะทำให้เกิดนวัตกรรมเพิ่มขึ้น เป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนอย่างชัดเจน ที่สำคัญการผูกขาดที่เพิ่มขึ้นในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่จะทำให้เกิดนวัตกรรมของกลุ่มสตาร์ทอัพได้อย่างไร?
.
ดังนั้น ประชาชนจึงไม่อาจคาดหวังได้ว่า การควบรวมนี้จะไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนจากการมีมาตรการต่างๆ ที่ กสทช. กำหนดขึ้น
.
ประชาชนควรดำเนินการอย่างไรต่อไป?
ผมเคยกล่าวมาแล้วว่า คงมีแต่สำนึกของ กสทช. และพลังการตรวจสอบของประชาชนและสื่อมวลชนเท่านั้นที่จะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการผูกขาดในตลาดโทรคมนาคมในครั้งนี้ไปได้ ในเมื่อ กสทช. ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงสำนึกต่อการทำหน้าที่ในการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน ผมคิดว่า ประชาชนโดยเฉพาะองค์กรผู้บริโภคควรดำเนินการดังต่อนี้

  1. ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลยกเลิกมติของ กสทช. ที่ปล่อยให้มีการควบรวมกิจการ และขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวอย่าให้มีการควบรวมก่อนมีคำตัดสิน
  2. ดำเนินการเพื่อฟ้องคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าการที่ กสทช. อนุญาตให้ควบรวมแล้วมีผลทำให้บริการโทรคมนาคมซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จะมีค่าบริการที่สูงขึ้นในอนาคตและเป็นภาระต่อประชาชนตามที่มีผลการศึกษาหลายชิ้นชี้ไว้ ซึ่งจะทำให้การกระทำของ กสทช. ขัดต่อมาตรา 56 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ในปัจจุบันศาลรัฐธรรมนูญก็กำลังพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับกิจการไฟฟ้าโดยอ้างมาตราเดียวกันอยู่
  3. ร่วมมือกับองค์กรด้านต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นร้องเรียนให้ ปปช. ตรวจสอบการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.
  4. เรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติโดยเฉพาะ สส. ตรวจสอบ กสทช. อย่างเข้มข้น และพิจารณาแก้ไขกฎหมาย กสทช. ครั้งใหญ่เพื่อปฏิรูป กสทช. และสำนักงาน กสทช. ให้มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อประชาชน
  5. รณรงค์ให้ประชาชนและผู้บริโภคแสดงออก โดยงดซื้อสินค้าและบริการจากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทุนผูกขาด ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ อาหารและอาหารสัตว์ อินเทอร์เน็ต ระบบการชำระเงินและกิจการอื่นๆ #หยุดผูกขาดมือถือ #หยุดควบรวมกินรวบตลาด
    .

ThePoint #ข่าวสังคม #สมเกียรติตั้งกิจวานิชย์ #ทีดีอาร์ไอ #ควบรวมทรูดีแทค #กสทช

- Advertisement -

Stay Connected

21,427แฟนคลับชอบ

Must Read

‘อนุทิน’ยืนยัน สธ. มีความพร้อม!!รพ.-ยาเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย สนับสนุนในพื้นที่เสี่ยงวิกฤตฝุ่น PM2.5

วันนี้(28 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นpm 2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับความยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในเรื่องของยาเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันpm 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่ที่เสี่ยง และหากกรณีฉุกเฉินปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็สามารถตัดสินใจได้ทันที.นายอนุทิน ระบุว่า ในส่วนของโรงพยาบาลก็มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น...
- Advertisement -

‘ยิ่งลักษณ์’ย้อนภาพสมัยเป็นนายกฯ ลุยช่วยดับไฟป่า ครวญ!!ตอนเด็กอยู่เชียงใหม่ไม่เคยเห็นวิกฤตฝุ่นแบบนี้ จี้รัฐบาลแก้ด่วน

วันนี้(28 มี.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพตนเองสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะปฏิบัติภารกิจร่วมดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมระบุข้อความว่า สมัยเด็กๆ ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ไม่เคยมีฝุ่นเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็แค่ควันไฟธรรมดา แต่ตอนนี้มีเยอะมากไม่ใช่ควันไฟทั่วไปแต่เป็นควันพิษ PM 2.5 ซึ่งทางวิชาการเป็นอันตรายและเป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ไช่เฉพาะในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าห่วงใยคือเด็กๆที่ฝุ่นจะสะสมและเห็นผลในอีก 5-10 ปีข้างหน้า.ดิฉันไม่อยากเห็นเด็กๆ ในอนาคตเป็นโรคทางเดินหายใจ กันหมดเพราะฉะนั้น...

‘โบว์-ณัฏฐา’ซัดอย่าเอา’ประชาธิปไตย’แปะหน้าผาก!!ลั่นประเทศนี้ไม่มีกฎหมายบังคับเลือกได้พรรคเดียว ชี้นายกฯไม่จำเป็นนั่งส.ส.

วันนี้(28 มี.ค.) "โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา"นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความระบุว่า ประเทศนี้ไม่ได้มีกฎหมายว่าเลือกได้พรรคเดียวถึงจะได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยนะคะ ใครเขาไม่ได้อยากเลือกคนที่คุณอยากเลือก ไม่ต้องทำเหมือนเขาเป็นอาชญากร คำว่า “ประชาธิปไตย” มีความหมาย อย่าเอาไว้แค่แปะหน้าผาก.นอกจากนี้ โบว์ ยังโพสต์ด้วยว่า "คำว่า"นายกต้องมาจากส.ส." เหตุผลคือนายกต้องมาจากการเลือกของประชาชน ดังนั้นใครจะเป็นแคนดิเดทนายกให้ประชาชนเลือก แต่ไม่ต้องการเป็นส.ส. ก็ไม่ผิด เหมือนสมัครงาน มีโอกาสก็สมัครเฉพาะในส่วนที่อยากเป็น ส่วนที่ไม่อยากเป็นก็เปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าเป็น...

เกิดอะไรขึ้น!!’ตั๊น จิตภัสร์​’ตัดพ้อ​เส้นทางการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ด้าน’จุรินทร์’เผยยังไม่คุยเจ้าตัว

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก.วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ...

Related News

‘อนุทิน’ยืนยัน สธ. มีความพร้อม!!รพ.-ยาเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย สนับสนุนในพื้นที่เสี่ยงวิกฤตฝุ่น PM2.5

วันนี้(28 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นpm 2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับความยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในเรื่องของยาเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันpm 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่ที่เสี่ยง และหากกรณีฉุกเฉินปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็สามารถตัดสินใจได้ทันที.นายอนุทิน ระบุว่า ในส่วนของโรงพยาบาลก็มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น...

‘ยิ่งลักษณ์’ย้อนภาพสมัยเป็นนายกฯ ลุยช่วยดับไฟป่า ครวญ!!ตอนเด็กอยู่เชียงใหม่ไม่เคยเห็นวิกฤตฝุ่นแบบนี้ จี้รัฐบาลแก้ด่วน

วันนี้(28 มี.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพตนเองสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะปฏิบัติภารกิจร่วมดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมระบุข้อความว่า สมัยเด็กๆ ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ไม่เคยมีฝุ่นเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็แค่ควันไฟธรรมดา แต่ตอนนี้มีเยอะมากไม่ใช่ควันไฟทั่วไปแต่เป็นควันพิษ PM 2.5 ซึ่งทางวิชาการเป็นอันตรายและเป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ไช่เฉพาะในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าห่วงใยคือเด็กๆที่ฝุ่นจะสะสมและเห็นผลในอีก 5-10 ปีข้างหน้า.ดิฉันไม่อยากเห็นเด็กๆ ในอนาคตเป็นโรคทางเดินหายใจ กันหมดเพราะฉะนั้น...

‘โบว์-ณัฏฐา’ซัดอย่าเอา’ประชาธิปไตย’แปะหน้าผาก!!ลั่นประเทศนี้ไม่มีกฎหมายบังคับเลือกได้พรรคเดียว ชี้นายกฯไม่จำเป็นนั่งส.ส.

วันนี้(28 มี.ค.) "โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา"นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความระบุว่า ประเทศนี้ไม่ได้มีกฎหมายว่าเลือกได้พรรคเดียวถึงจะได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยนะคะ ใครเขาไม่ได้อยากเลือกคนที่คุณอยากเลือก ไม่ต้องทำเหมือนเขาเป็นอาชญากร คำว่า “ประชาธิปไตย” มีความหมาย อย่าเอาไว้แค่แปะหน้าผาก.นอกจากนี้ โบว์ ยังโพสต์ด้วยว่า "คำว่า"นายกต้องมาจากส.ส." เหตุผลคือนายกต้องมาจากการเลือกของประชาชน ดังนั้นใครจะเป็นแคนดิเดทนายกให้ประชาชนเลือก แต่ไม่ต้องการเป็นส.ส. ก็ไม่ผิด เหมือนสมัครงาน มีโอกาสก็สมัครเฉพาะในส่วนที่อยากเป็น ส่วนที่ไม่อยากเป็นก็เปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าเป็น...

เกิดอะไรขึ้น!!’ตั๊น จิตภัสร์​’ตัดพ้อ​เส้นทางการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ด้าน’จุรินทร์’เผยยังไม่คุยเจ้าตัว

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก.วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ...

‘ปิยบุตร’จี้ทุกพรรคฟื้นหลักการ’นายกฯ’ต้องเป็นส.ส.เท่านั้น!!ชงแก้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ชัดเจน

นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "ว่าด้วย นายกฯต้องเป็น ส.ส."ระบุว่า ระบบรัฐสภา ไม่ได้บังคับเสมอไปว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. บางประเทศบังคับ บางประเทศก็ไม่บังคับ แต่โดยทั่วไปแล้ว เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็มักเลือกคนที่เป็น ส.ส. และเป็นคนที่พรรคเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่แน่ๆ ประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภา ล้วนแล้วแต่ให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภาไม่มีอำนาจในเรื่องนี้.กรณีของประเทศไทย ในอดีตที่ผ่านมา ไม่มีรัฐธรรมนูญบังคับไว้...

‘ไพศาล’จับสัญญาณถอย!!ขั้นที่1’บิ๊กตู่’หลังไร้ชื่อปาร์ตี้ลิสต์’รวมไทยสร้างชาติ’

วันนี้(28 มี.ค.) นายรวนักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า สัญญานถอย 1.การเพิ่มค่าตอบแทน แก่ผู้เกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง 3 จำพวก คือ อสม. อบต. และกำนันผู้ใหญ่บ้านนับแสนคน มีภาระต้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายเป็นรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีเงิน จึงกำหนดการจ่ายเพิ่มในปีงบประมาณ 2567 ด้านหนึ่ง สร้างความยินดีให้แก่คน 3...

‘จอม’คอนเฟิร์ม!!’รู้ทันทักษิณภาคพิเศษ’แฉโดย’จตุพร’เป็นความจริง คนใกล้ชิดรู้เต็มอกแต่ไม่กล้าปริปาก

นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ลี้ภัยหนีคดีความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา แชร์คลิปวิดิโอรายการของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ที่พูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ”รู้ทันทักษิณ” ภาคนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจและมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก มากกว่าภาคแรก โดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เพราะคนที่ออกมา รู้ทัน คือข้างกายคนสำคัญที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณทักษิณมานานหลายปี.ขณะที่บุคคลที่ออกมารู้ทันทักษิณภาคแรก ล้วนเป็นคนไกลตัวทักษิณ...

‘สมศักดิ์ เจียม’จับโป๊ะ!!’ทักษิณ’แค่เริ่มก็โกหกแล้ว ย้อน’ภูมิธรรม’นึกถึงภาพสมัยออกทีวียัน’ไม่เหมาเข่ง’

จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธไม่มีดีลลับยอมให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยระบุว่า ตอบ วิรัช "เรื่องยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม" 1. ผมไม่ได้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทย 2. ผมไม่เคยสื่อสารกับคุณวิรัชมานานมากแล้ว อีกทั้งไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร มา 17 ปีแล้ว 3....

‘ก้าวไกล’ปูดแหล่งข่าวฝังตัวในชุมชนแจ้งพบ’หัวคะแนน’ขยับซื้อเสียงหนัก!!โดยเฉพาะเขตกระแสพรรคมาแรง

วันนี้(27 มี.ค.) ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหัวคะแนนในพื้นที่ ที่เริ่มวางแผนซื้อเสียงอย่างเป็นระบบแล้วในขณะนี้ ตนได้รับแจ้งจากประชาชนภายในชุมชนต่างๆ ในเขตลาดพร้าว และบึงกุ่มมามากขึ้น ว่าในชุมชนต่างๆ เริ่มมีการเดินสายพบปะกับหัวคะแนนเพื่อจัดเลี้ยงและให้เงินกันแล้ว ตอนนี้มีการขยายเครือข่ายหัวคะแนนใหม่ๆ เกิดขึ้น ยิ่งหาได้มากยิ่งได้เงินเพิ่มจากคนที่นำเงินมาให้ และเริ่มมีการเช็คยอดหัวคะแนนในเครือข่ายกันอย่างคึกคัก คาดได้ว่าจะนำไปสู่การตระเตรียมซื้อเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย.ร.ท.ธนเดช ระบุว่า แหล่งข่าวของตนระบุว่าตัวเลขล่าสุดในตอนนี้ อยู่ที่หัวละ...

‘ทักษิณ’ดิ้นโต้!!ดีลลับยกเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ให้’บิ๊กป้อม’ลั่น’เพื่อไทย’ไม่ได้โง่

จากกรณีกระแสข่าวมีดีลลับระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคเพื่อไทย(พท.) ว่าจะมีการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี กระทั่งต่อมานายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่า แม้แต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังยอมให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 นั้น.ล่าสุด นายทักษิณ...

‘อนุทิน’ปลื้มกระแส’ภูมิใจไทย’พุ่ง!!สวนทาง’ชูวิทย์’ เดินหน้าจองเวร ชี้ให้รอผลเลือกตั้งหลังสะพัดดีลลับ’บิ๊กป้อม-ทักษิณ’

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงโอกาสการร่วมรัฐบาลหลังมีกระแสข่าวดีลลับ การจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ได้รับทราบในเรื่องดังกล่าว แต่ได้อ่านจากข่าวอยู่เหมือนกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆในเรื่องนี้ ขอให้รอผลการเลือกตั้งดีที่สุด หลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง.เมื่อถามถึงกรณีที่นำแกนนำพรรคภูมิใจไทยร่วมรับประทานอาหารกับพลเอกประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อถึง 2 ครั้ง มีการพูดคุยเรื่องดีลทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน...

‘วิชาญ’ยิงถามตรง’เอกนัฏ’นอกจากใช้กระแส’ลุง’ประเมินส่งส.ส.เขตเหมาะสมกับพื้นที่หรือไม่??เตือนไม่ง่ายจับเสือมือเปล่า ชี้หลายพื้นที่มาถูกทางยกชลบุรีส่งคนรุ่นใหม่เข้าใจปัญหา

นายวิชาญ อาฮูยา นักวิชาการอิสระ ระบุว่า วันนี้เหลืออีก 7 สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่วันเลือกตั้ง ต้องยอมรับวันนี้ กระแสลุงตู่ ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ นั้นมาแรงที่สุดในฝ่ายอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะโพลล่าสุด มาเป็นอันดับ 3 คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อและเขต ในกทม. ส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติคงต้องยิงคำถาม ไปถึง เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ คุณขิง เอกนัฏ...

น่ากลัวมาก!!ชี้การเมืองดุเดือด สภาพ’บิ๊กตู่’ถูกรุมกินโต๊ะ นั่งดูคนอื่นแอบจับมือฟอร์มรัฐบาลล่วงหน้า

วันนี้(27 มี.ค.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า น่ากลัว ภาพการต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ละฝ่ายงัดกลยุทธทุกอย่างบรรดามีออกมาประเคนสร้างคะแนนนิยมและทำลายคู่ต่อสู้กันอย่างเต็มที่ นอกจากระบบหัวคะแนน  คะแนนจัดตั้งที่พรรคใหญ่มีอยู่ในมือแล้ว พรรคใหญ่ๆยังอาศัยสื่อขี้ข้า สื่อมือปืนรับจ้าง สำนักโพลที่จะเขียนเชียร์ว่าคนนี้คือนายกในฝัน พรรคที่จะชนะแลนด์สไลด์.ที่ว่านี้ พรรคของลุงตู่นับว่าอ่อนด้อยที่สุด เนื่องจากเป็นพรรคใหม่สดซิง บุคคลากรของพรรคแม้จะเคยเป็นอดีต สส.มาบ้าง แต่ประสบการณ์ในการนำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งเหมือนมือใหม่หัดขับ ความเขี้ยวความจัดเจนมีน้อยกว่าพรรคอื่นๆอยู่หลายขุม สภาพคือการชูลุงตู่...

‘ภูมิใจไทย’พลิกมิติใหม่การศึกษา!!ดันตั้ง’สถาบันพัฒนาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ’ยกระดับเรียนออนไลน์มีคุณภาพ

ดร.กมล รอดคล้าย คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูป และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบาย“การจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ (Online)” โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอนโยบายการจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยมองว่าช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องของการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียม สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทุกที่ ทุกเวลา มีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก...

‘ศิธา’ฮึ่ม!!จี้’เพื่อไทย’เอาให้ชัด ไม่หนุนทุก’ลุง’เป็นนายกฯ เตือนรัฐบาลสูตรไขว้ข้ามขั้วปชช.ไม่ทนแน่

วานนี้(26 มี.ค.) น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) กล่าวในเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ไทยสร้างไทย โดยระบุว่า จุดยืน จุดแข็ง และจุดขายของพรรคไทยสร้างไทย คือ เราจะไม่พายเรือให้ทหารที่เคยปล้นอำนาจประชาชน ฉีกรัฐธรรมนูญ กลับมาขึ้นฝั่ง แต่เราจะเอาลุงไปลอยทะเล เพราะลุงทำงานแบบชุ่ยๆ เอาคนไปขังแบบชุ่ยๆ บังคับใช้กฎหมายแบบชุ่ยๆ ใครไม่อาย ผมอาย รับไม่ได้ที่จะให้เป็นผู้นำประเทศต่อไป.วิชามารในรัฐธรรมนูญวันนี้...
- Advertisement -