นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ควบรวม TRUE – DTAC : ดีลผูกขาดมูลค่าหลายแสนล้านที่หากปล่อยให้เกิดขึ้นแล้ว ก็จะย้อนกลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้อีก เมื่อวานผมเข้าแอดมิทโรงพยาบาลกระทันหัน แต่ก็ต้องขออนุญาตคุณหมอคุณพยาบาลมาที่สภาในวันนี้เพราะจำเป็นต้องแถลงข่าวเพื่อหยุดยั้งการควบรวมที่จะส่งผลให้เกิดการผูกขาดตลาดครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 6 วันข้างหน้านี้
.
วันที่ 10 สิงหาคมที่กำลังจะมาถึง บอร์ด กสทช. จะทำการพิจารณาการควบรวมทรู-ดีแทค เพราะการควบรวมที่กำลังเกิดขึ้นจะทำให้ TRUE-DTAC ผูกขาดตลาดเกิน 50% หากเราปล่อยให้การควบรวมเกิดขึ้น การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการก็จะน้อยลงโดยปริยาย (เพราะจะเหลือผู้ให้บริการรายใหญ่เพียง 2 ราย คือ AIS และบริษัทหลังการควบรวมของ TRUE x DTAC) สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือสองบริษัทที่เหลือมีแนวโน้มอย่างมากที่จะไม่แข่งขันกันออกโปรโมชั่นเพื่อแย่งฐานลูกค้าอีกต่อไป ต่างฝ่ายต่างพอใจที่จะแบ่งฐานลูกค้ากันไปคนละครึ่งประเทศ
.
ในระยะสั้นค่าบริการโทรศัพท์และ Internet อาจจะไม่เพิ่มสูงขึ้น เพราะบริษัททั้งสองย่อมไม่อยากสร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม แต่ในระยะยาวเมื่อผู้คนเริ่มหมดความสนใจ ค่าบริการโทรศัพท์และ Internet ก็จะค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน เราจะเริ่มตระหนักและพบว่าโปรโมชั่นต่างๆ เริ่มหายไป ค่าใช้จ่ายโทรศัพท์และ Internet เริ่มสูงขึ้น ซ้ำเติมค่าครองชีพประชาชนในช่วงที่ของแพงค่าแรงถูก แต่เมื่อถึงตอนนั้นก็สายเกินกว่าที่เราจะแก้ไขอะไรได้แล้ว
.
นอกจากค่าบริการที่สูงขึ้นแล้ว อนาคตเศรษฐกิจดิจิตอลไทยก็จะถูกแช่แข็งไว้ไม่ให้เกิดการแข่งขัน นวัตกรรม การพัฒนาคุณภาพบริการ ต้องไม่ลืมว่าที่ทุกอย่างยังพัฒนาไปข้างหน้าในทุกวันนี้เนื่องจากประเทศไทยยังมีผู้ให้บริการ 3 เจ้า ที่พยายามพัฒนาตัวเองตลอดเวลาเพื่อแย่งชิงฐานลูกค้ากันอยู่
.
ก่อนหน้านี้ กสทช. พยายามอ้างว่าตนเองไม่มีอำนาจยับยั้งการควบรวม แต่ข้ออ้างดังกล่าวก็ไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว เพราะศาลปกครองได้วินิจฉัยเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า กสทช. มีอำนาจเต็มในการยับยั้งการควบรวม ส่วนอนุกรรมการด้านกฎหมายที่ กสทช. ตั้งขึ้นมาศึกษาการควบรวมครั้งนี้ ก็มีความเห็นว่า กสทช. มีอำนาจเต็มในการยับยั้งไม่ให้เกิดการควบรวม
.
มากไปกว่านั้น 3 อนุกรรมการที่ กสทช. ตั้งขึ้นมาเองกับมือ เพื่อศึกษาการควบรวมก็ไม่มีอนุกรรมการไหนเลยที่เห็นชอบกับการควบรวมครั้งนี้
.
อนุกรรมการเศรษฐศาสตร์ไม่เห็นด้วยที่จะอนุมัติให้ควบรวม TRUE-DTAC เนื่องจากเห็นว่าการควบรวมดังกล่าวจะเป็นการผูกขาดตลาด อนุกรรมการด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง มีความเห็นว่า กสทช. ไม่ควรอนุญาตให้มีการควบรวม TRUE-DTAC เพราะจะทำให้เกิดการผูกขาดตลาด อนุกรรมการด้านเทคโนโลยี ก็ยืนยันว่าแม้ไม่มีการควบรวม เทคโนโลยีทุกอย่างก็สามารถพัฒนาได้ตามปรกติ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้เกิดการควบรวม TRUE-DTAC
.
ในเมื่อทั้งอนุกรรมการที่ กสทช. ตั้งขึ้นมาเองเพื่อศึกษาเรื่องนี้ก็ไม่เห็นด้วยกับการให้ควบรวม อนุกรรมการของ กสทช. เองบอกว่า กสทช. มีอำนาจเต็มที่จะยับยั้งการควบรวมกิจการ และศาลปกครองก็บอกว่า กสทช. มีอำนาจเต็มที่จะยับยั้งการควบรวมกิจการ จึงไม่มีเหตุผลเลยที่วันพุธที่ 10 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ บอร์ด กสทช. จะบอกว่าตนเองไม่มีอำนาจยับยั้งหรือลงมติเห็นชอบกับการควบรวมกิจการที่จะเกิดขึ้น
.
หลังจากนี้เราเหลือเวลาอีก 6 วัน ก่อนที่ กสทช. จะลงมติ ผมและคุณธนาธรจากคณะก้าวหน้า จะพยายามเดินทางไปพบสื่อมวลชนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อหารือให้มีการนำเสนอข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับดีลควบรวม TRUE-DTAC ให้มากกว่านี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและร่วมกันกับคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลในการทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ขอให้ทุกคนช่วยกันคนละแรงเพื่อหยุดยั้งการควบรวมที่จะส่งผลให้เกิดการผูกขาดตลาดครั้งนี้ด้วยครับ
.
- Advertisement -