เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2567 เฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาอัปเดตอาการของ บุ้ง ทะลุวัง นักขับเคลื่อนสังคม หลังจากที่บุ้งอดอาหารและน้ำ เป็นวันที่ 12 ภายในทัณฑสถานหญิง บุ้งถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ รวมทั้งคดีละเมิดอำนาจศาล และถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 โดยทางเพจได้อัปเดตอาการของ บุ้ง ทะลุวัง ไว้ดังนี้
บุ้งถูกคุมขังครั้งนี้หลังศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งถอนประกันในคดี 112 ดังกล่าว เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2567 รวมทั้งมีคำสั่งลงโทษจำคุก 1 เดือน ในวันเดียวกัน ในคดีละเมิดอำนาจศาล หลังจากฟังคำสั่งในทั้งสองคดี บุ้งตัดสินใจว่าจะไม่ยื่นประกันตัว ทำให้บุ้งถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลางในเย็นวันที่ 26 ม.ค. เป็นต้นมา ก่อนที่เธอตัดสินใจอดน้ำอดอาหาร (Dry Hunger Strike) ตั้งแต่เย็นวันที่ 27 ม.ค. เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และจะต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก
จากการเข้าเยี่ยมของทนายความครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ บุ้งมีอาการน่ากังวลมากขึ้น มีอาการตับอักเสบมากกว่าเดิม บุ้งบอกว่า ปวดท้องมาก นอนไม่หลับ ในปากแห้งมาก จนลอกผิวหนังออกมาเป็นแผ่นเล็ก ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม บุ้งยังคงยืนยันเจตจำนงลักษณะเดิมว่า หากถึงแก่ชีวิต ขอให้นำศพไปไว้หน้าศาล และหากต้องเลือกศาลเพียงแห่งเดียว จะขอเลือก ‘ศาลอาญากรุงเทพใต้’
ไทม์ไลน์การถูกคุมขังของบุ้ง
29 ม.ค. 2567 ทนายความได้เข้าเยี่ยมบุ้งที่ทัณฑสถานหญิงกลางเป็นครั้งแรก และทราบว่าบุ้งอดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. โดยมื้อสุดท้ายบุ้งได้กินข้าวต้มหมูกับน้ำ 1 ขวด ในมื้อกลางวัน หลังจากนั้นก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย
วันที่ 30 ม.ค. 2567 บุ้งเดินมาโดยต้องมีเพื่อนผู้ต้องขังคอยช่วยพยุง โดยรวมน้ำหนักตัวบุ้งลดลง 6 กิโลกรัม ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลเข้มมาก
31 ม.ค. 2567 บุ้งนั่งรถเข็นมาจากสถานพยาบาลเพื่อพบทนาย ซึ่งการเดินจากตรงนั้นมาใช้เวลาประมาณแค่ 2 นาที แต่บุ้งก็ไม่สามารถเดินไหว มีเจ้าหน้าที่หลายคนไม่ว่าจะเป็นพยาบาลหรือเพื่อนผู้ต้องขังพยายามบอกให้บุ้งกินน้ำกินอาหาร แต่บุ้งก็บอกเขาไปว่าบุ้งจะไม่กินอะไรทั้งนั้นเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมกับบุ้ง
วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการอดน้ำ อดอาหาร อาการของบุ้งไม่สู้ดีนัก บุ้งนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะรอทนายเหมือนทุกวัน ทนายเคาะกระจกเรียกบุ้ง บุ้งถึงค่อยพยุงตัวเองขึ้น เอื้อมมือรับโทรศัพท์ ใบหน้าบุ้งซีดขาวเห็นได้ชัด บุ้งบอกว่าวันนี้ไม่มีแรงเลยจริง ๆ น้ำหนักเหลือ 76 กิโลกรัม
2 ก.พ. 2567 บุ้งยังคงรักษาสัญญากับทนาย แม้ร่างกายจะทรุดไปเรื่อย ๆ ต้องให้เพื่อนผู้ต้องขังหิ้วปีกมา บุ้งบอกว่าถ้ายังมีชีวิตบุ้งจะลงมาพบทนาย มาพบหยกให้ได้ น้ำหนักบุ้งลดลงไปเหลือ 75 กิโลกรัม ปัสสาวะแทบไม่ออกแล้ว เมื่อวานอ้วกหลายรอบมาก รอบนี้เป็นสีส้ม กลางคืนนอนไม่ค่อยได้ ระหว่างที่คุยกันบุ้งมีอาการพะอืดพะอมคล้ายอยากอาเจียนอยู่ตลอด
5 ก.พ. 2567 บุ้งนอนฟุบที่โต๊ะรอทนายมาพบเช่นเดิม ทนายต้องเคาะกระจกเรียกสักพักบุ้งถึงจะลุกมารับสาย ทนายสอบถามถึงข่าวในโซเชียลที่ว่าบุ้งออกไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว บุ้งเล่าว่า เจ้าหน้าที่พาบุ้งไปตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อเย็นวันศุกร์ แล้วก็พากลับ ไม่ได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล
6 ก.พ. 2567 ช่วงเช้าทนายเข้าเยี่ยมบุ้งได้ประมาณ 10 กว่านาทีเท่านั้น เพราะบุ้งเพลียมาก จึงส่งกลับ มีเพื่อนผู้ต้องขังมาช่วยพยุง 2-3 คน
7 ก.พ. 2567 จากการเข้าเยี่ยมของทนายความครั้งล่าสุด บุ้งมีอาการน่ากังวลมากขึ้น อาการตับอักเสบมีมากกว่าเดิม แพทย์ได้ทำการเจาะเลือดไปตรวจว่าภาวะอักเสบเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ อยู่ระหว่างรอผลตรวจ