เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทยมีนายรัฐมนตรี 2-3 คน ว่า เสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้รับการพักโทษรวมถึงกรณีก่อนหน้านี้ที่มีเสียงวิจารณ์ ประเทศไทยมีนายกฯ 2 คน โดยโยงไปถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนขอยืนยันว่า ประเทศไทย มีนายกฯคนเดียว คือ นายเศรษฐา ทวีสิน เพราะเป็นนายกฯ ที่มาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผ่านการเลือกของสมาชิกรัฐสภา 6 เดือน
ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทำงานหนัก และทำให้ประชาชนเริ่มลืมตาอ้าปากได้ มีการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เร่งรัดการปราบปรามยาเสพติด พักหนี้เกษตรกร เรื่องเหล่านี้ประชาชนสัมผัสได้ แม้ก่อนหน้านี้ ประชาชนจะเกร็งเวลาเจอนายเศรษฐา แต่เมื่อได้สัมผัสก็รู้ได้ว่าเป็นคนใจดี ประชาชนเริ่มเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนม
อีกทั้งนายเศรษฐายังมุ่งมั่นทำงาน ผลักดันนโยบายใหม่ๆ ให้ความใกล้ชิดกับคณะรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎร รับฟังปัญหาของสส.ด้วยตนเองและนำมาแก้ไข เชื่อว่าเหล่านี้จะทำให้ประชาชนสัมผัสได้ ว่านายเศรษฐาคือนายกฯตัวจริง ทำให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานว่าประเทศไทยมีนายกฯคนเดียว และนายเศรษฐา จะเป็นนายกขวัญใจประชาชนในที่สุด รวมถึงในสายตานานาชาติ ที่ได้เห็นการทำงานที่ขยันขันแข็ง และมั่นใจนายเศรษฐา จะเป็นนายกฯจนสิ้นสุดวาระของรัฐบาล
นางมนพร กล่าวอีกว่า ในส่วนของนายทักษิณนั้น ถือเป็นอดีตนายกฯที่อยู่ในดวงใจของประชาชน หลังจากที่ท่านได้รับการพักโทษกลับไปอยู่ที่บ้านจันทร์สองหล้า ตนเชื่อว่าทั้งส.ส.พรรคเพื่อไทย และประชาชนคนไทย ต่างก็อยากได้เจอ นายทักษิณ
เช่นเดียวกับตน หากมีโอกาส ก็อยากจะเข้าไปพบ หลังจากที่นายเศรษฐา เข้าไปพบนายทักษิณแล้ว ทั้งบรรดารัฐมนตรี ส.ส. รวมถึงประชาชน ก็อยากจะเจอนายกฯทักษิณตัวเป็นๆ เช่นเดียวกัน หลังจากไม่ได้เจอกันกว่า 17 ปี โดยเฉพาะคนอีสานยังคงคิดถึงนายทักษิณ เพราะนโยบายต่างๆ ของนายทักษิณ ทั้งกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ และยังเป็นนโยบายในใจประชาชนอยู่ หลายคนบอกว่า เตรียมผ้าขาวม้ามาแล้ว อยากจะไปผูกอยากจะไปกอดนายกทักษิณ เตรียมกับข้าว นี่คือความรู้สึกผูกพัน ที่ประชาชนมีต่อนายทักษิณ