นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และผู้อำนวยการพรรค ระบุถึง แนวคิดการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเด็นการคำนวณจำนวนที่นั่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ที่มีผู้เสนอให้หารด้วย 500 แทนการหารด้วย 100 ว่า การใช้หลักการส.ส.พึงมี โดยวิธีคำนวณหารด้วย 500 ตามมาตรา 91 เดิม และอ้างเจตนารมณ์ประกอบมาตรา 94 ที่ยังไม่ได้แก้ไข ส่วนตัวเห็นว่าไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ที่แก้ไขใหม่ ที่เขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง
.
“ผมมีความเห็นว่าในทางข้อกฎหมายนั้นอธิบายได้ยาก และไม่สอดคล้องกับเหตุ และผล คือสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง เรามีบัตรเลือกตั้งลงคะแนนให้กับส.ส.เขต แล้วก็มีบัตรเลือกตั้งลงคะแนนให้กับส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่เวลาการคำนวณกลับกำหนดวิธีคำนวณโดยนำคะแนนบัตรทั้ง 2 ใบมารวมกัน ซึ่งตรงนี้ไม่ชอบด้วยหลักการและเหตุผล”นายวิเชียร กล่าว
.
นายวิเชียร กล่าวว่า ส่วนประเด็นการโต้แย้งกันว่าขัดรัฐธรรมนูญจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่นั้น กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมีกระบวนการที่แตกต่างจากการเขียนกฎหมายหรือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อื่นทั่วไป คือจะมีการกำหนดกระบวนการที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอยู่ในกระบวนการเลย คือ การเข้าชื่อโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งมา หรือส.ส. ในสภาเข้าชื่อกันแล้วไปพิจารณาโดยใช้การประชุมรัฐสภา คือวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรประชุมร่วมกัน เหมือนที่กำลังพิจารณาอยู่
.
เมื่อรัฐสภาลงมติเป็นประการใด ก็ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องในที่นี้คือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากมีความเห็นเป็นประการใดก็ส่งกลับมาให้รัฐสภาพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ต้องใช้เวลาไม่เกิน 65 วัน ภายหลังจากที่รัฐสภาเห็นชอบในวาระที่ 3 แล้ว
.
นายวิเชียร กล่าวว่า ดังนั้น การแก้ไข พ.ร.ป. ทุกอย่างถูกบังคับด้วยเวลา และเวลาก็กำหนดกระบวนการวิธีไว้ครบถ้วนแล้ว ตนจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร รัฐสภาสามารถใช้ดุลยพินิจของสมาชิกในการลงมติการอภิปรายเพื่อให้เหตุ และผล ก็เป็นสิทธิของสมาชิกที่จะให้ความเห็นได้ ซึ่งในที่สุดเชื่อว่าสมาชิกจะวินิจฉัยไปตามเหตุ และผลของกฎหมายที่ระบุไว้
.
นายวิเชียร กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนคาดว่ากระบวนการน่าจะเสร็จสิ้นปลายเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ทำให้แต่ละเขตเลือกตั้งเล็กลงมีความใกล้ชิดของประชาชน และส.ส.เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนการลงคะแนนเลือกตั้งเป็นแบบบัตร 2 ใบ เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเลือกผู้แทนที่ชอบ และเลือกพรรคการเมืองได้โดยอิสระ ไม่ต้องถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจเลือกรวมด้วยบัตรใบเดียว และการคิดคำนวณส.ส.เข้าใจได้ง่าย คือ คะแนนรวมหารด้วยจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน เป็นที่เข้าใจได้ไม่ซับซ้อน
.
“สำหรับการใช้สูตรหาร 500 นั้น ผมไม่อยากสรุปว่าวิธีการของการเลือกตั้ง และการคิดคะแนนจะมาตัดสินว่าทำให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งมีโอกาสในการเลือกตั้ง เพราะเท่ากับว่าเรากำลังนำกติกามากำหนดอนาคต เพราะอนาคตของพรรคการเมืองมันอยู่ที่การกระทำ แนวนโยบาย และสิ่งที่พรรคการเมืองต้องนำเสนอต่อประชาชนให้เขาศรัทธา และเชื่อถือ ถ้าเราไปอ้างว่ากติกานี้ทำให้ฉันได้เปรียบก็เหมือนกับมองข้ามประชาชน ประชาชนเป็นผู้เลือกว่าคนที่จะมาทำหน้าที่บริหารประเทศเพื่อให้เขาอยู่ดีมีสุขควรจะเป็นพรรคแบบไหน อย่างไร เราต้องเคารพในสิ่งเหล่านี้”นายวิเชียร กล่าว
.
นายวิเชียร กล่าวว่า ถ้าเรามองข้ามก็เท่ากับเราไม่เคารพในเสียงหรือผู้ลงคะแนนให้ ต้องคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนที่จะมาทำหน้าที่บริหารประเทศ ไม่ว่ากติกาจะเป็นแบบไหนเราก็พร้อมที่จะดำเนินการ เพราะถ้าเราออกกติกา และมีความเห็นว่ากติกานี้ทำให้เราได้เปรียบมันก็แสดงว่ากติกานั้นไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม ถ้าเป็นกลาง และเป็นธรรมต้องไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
.
‘วิเชียร’ชี้สูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 ไม่สอดคล้องเจตนารมณ์รธน.!!หนุนคำนวณหาร100 เข้าใจง่าย-ไม่ซับซ้อน
- Advertisement -