วันที่ 28 ก.ย. นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยระบุว่า ดูข่าวน้ำท่วมลพบุรีแถวลำนารายณ์ ลำสนธิ สงสารคนลำนารายณ์ ชัยบาดาล ลำสนธิ ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดลพบุรี โดนน้ำท่วมแบบน้ำป่าไหลมาจากภูเขา เพราะฝนหนักจากดีเปรสชั่นเคลื่อนผ่าน รอบๆชุมชนเป็นเนินชัน มีแต่ไร่พืชเชิงเดี่ยวไม่มีอะไรช่วยต้านน้ำ แต่ก็ถือเป็นภัยพิบัติที่มากับพายุ ไม่ได้มาประจำทุกปี
.
ภัยพิบัติแบบนี้วิธีการลดผลเสียหายเดือดร้อนคือการเตือนภัย จาก ปภ. หรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานกับฝ่ายปกครอง วิเคราะห์ และประเมินการเตือนภัย และเตรียมเยียวยาฟื้นฟู ซึ่งผมไม่ทราบว่าทำกันได้ดีขนาดไหน แต่เท่าที่ฟังข่าวหลายช่องแทบไม่มีใครใช้แผนที่อธิบายทางน้ำเลยว่า ส่วนไหนจะไปเขื่อนป่าสักที่ก่อนพายุมาขาดน้ำขั้นวิกฤติ จะได้น้ำจากนี้ไปเติมเท่าไหร่ และน้ำจากป่าสักสำหรับพายุลูกนี้ยังไม่มีปัญหา และน้ำส่วนไหนของฝนหนักที่จะเลยไปถึงทุ่งลพบุรี ที่ยังไม่มีน้ำมากนัก ทุ่งบ้านแพรก ทุ่งมหาราช สองฝั่งแม่น้ำลพบุรี ที่แทบยังไม่มีน้ำท่วมเลย
.
ขณะที่สถานการณ์สุโขทัย ที่น้ำท่วมแทบไม่ได้มาจากแม่น้ำยมจากทางเหนือแต่เป็นน้ำบ่าเข้ามาจากลุ่มน้ำโดยรอบเนื่องจากพายุใหญ่ผ่านเช่นกัน และน้ำจากสุโขทัยก็จะลงทุ่งบางระกำ ที่เป็นพื้นที่รับน้ำได้ ก่อนจะรวมกับแม่น้ำน่าน ซึ่งยังไม่มีน้ำมากนัก มารวมกันที่นครสวรรค์ และผ่านมาบึงบรเพ็ดที่ยังรับน้ำได้ ปล่อยข่าวให้คนมโนไปว่ามวลน้ำจะมา แค่ใช้ศัพท์มวลน้ำมาคนก็คิดว่าจะมาตามประสบการณ์ของตัวเองไหม ไม่มีใครมาพูดให้รู้เรื่องทั้งๆที่น้ำท่วม 54 ก็เพิ่มคนรู้ เพิ่มความรู้กันตั้งเยอะ แต่ไม่เพิ่มวิธีการสื่อสารเลย
.
เช่นเดียวกับน้ำท่วมระหว่างถนนที่ใช้เป็นคันกั้นน้ำสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประคองน้ำไม่ให้ท่วมออกมา ถ้าน้ำยังแค่นี้ และพามวลน้ำท่วมที่แคบๆที่ว่ามาระบายออกระบบคลอง ที่แบ่งน้ำออกไปทางข้างกระจายไปทุ่งนั้นทุ่งนี้ หรือมาถึงอยุธยา ปทุมก็มีระบบคลองแบ่งน้ำลดระดับออกไปกี่คลองซึ่งตามปกติ น้ำแค่นี้ยังรับได้สบายๆ ถ้าเขื่อนเจ้าพระยายังระบายเท่านี้ หน่วยงานราชการทางการก็ไม่มีช่องทางอธิบาย หรือมีมืออาชีพมาอธิบายแล้วคนฟังแล้วมั่นใจ เชื่อถือ รู้เรื่อง เหมือนเดิม
.
- Advertisement -