เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2567 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เปิดเผยหลังศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฟ้องหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328
โดยในวันนี้ฝ่ายโจทก์หรือ นายธนาธร ไม่ได้เดินทางมาเอง มีเพียงผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา พร้อมเล่าว่า ที่เดินลงมาแล้วชูมือยกกำปั้น เพื่อแสดงออกถึงชัยชนะที่ถูกฟ้องรัอง คดีนี้เป็นคดีที่ 3 โดยมีคดีแรกที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกคณะก้าวหน้า เป็นผู้ฟ้อง คดีที่ 2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้ฟ้อง และคดีนี้เป็นคดีที่ 3 ที่ชนะคดีเช่นกัน
พร้อมฝากถึงผู้ฟ้องว่า การที่ฟ้องคนอื่นหรือประชาชนพร่ำเพรื่อ เสียเงินเยอะในแต่ละคดี แม้จะมีการเรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท แต่ส่วนใหญ่ก็แพ้คดี ก็เพราะผู้ฟ้องอ่อนประสบการณ์ และเปรียบเทียบว่า การตัดสินใจโดยนำประสบการณ์เช่นนี้ไปบริหารประเทศชาติจะเกิดความเสียหาย ขอให้ประชาชนคิดให้รอบคอบ
คดีนี้สืบเนื่องมาจากการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเมื่อช่วงต้นปี 2564 ในช่วงการประกาศจัดตั้งพรรคไทยภักดี ว่ามีเป้าหมายในการต่อสู้กับพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า รวมถึงกับผู้ชุมนุม กลุ่มปฏิรูปสถาบันฯ
โดยมีการพาดพิงว่ามีการสนับสนุนขบวนการล้มล้างการปกครอง หลังจากนั้นนำไปสู่การฟ้องร้องเฉพาะในประเด็นนี้มี 2 คดี คดีแรกเป็นคดีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฟ้องหมิ่นประมาท และคดีที่นายธนาธรยื่นฟ้องหมิ่นประมาท ซึ่งใน 2 คดีนี้มาจากเหตุการณ์เดียวกันแต่แยกฟ้อง
โดยคดีที่นายพิธายื่นฟ้องศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ซึ่งทราบข้อมูลว่าอยู่ระหว่างการพิจารณายื่นขออุทธรณ์คดี