จากปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เป็นปัญหามลพิษทางอากาศคุกคามประเทศไทยอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา หนึ่งในต้นเหตุของมะเร็งปอดที่คร่าชีวิตคนไทยไปนับไม่ถ้วน ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญก่อนจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนไปมากกว่านี้ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ แบบเอาจริงเอาจัง คงหนีไม่พ้นกระทรวงคมนาคม ที่ได้มีการตั้งด่านสกัดรถบรรทุก รถกระบะควันดำ ควันขาว จากการเผาไหม้ในห้องเครื่องที่ไม่สมบูรณ์ เป็นประจำสม่ำเสมอ ใครทำผิดก็ให้ไปแก้ไข ปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ แต่ไม่มีการรายงานข่าวแม้แต่น้อย ทั้งที่เป็นเรื่องที่จะสร้างจิตสำนึกให้กับคนในชาติ ขณะที่การแก้ปัญหาด้านอื่นๆ ก็ยังมีความพยายาม
.
ขณะที่ รถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ เป็นส่วนสำคัญ เป็นต้นเหตุของปัญหานี้เช่นกัน เพราะรถเมล์ในเมืองไทยจำนวนหลายพันคันมีอายุหลายสิบปี สภาพเก่าแก่ เครื่องยนต์ทรุดโทรมตามกาลเวลา ปัญหารถเมล์แบ่งเป็น2 ส่วน คือ ภาครัฐ ที่เป็นของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กับ รถร่วมเอกชน และในส่วนของภาครัฐ กระทรวงคมนาคม พยายามทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยุค โสภณ ซารัมย์ เป็น รมว.คมนาคม พยายามเสนอเปลี่ยน รถ ขสมก.เป็นรถเมล์พลังงานสะอาด ใช้กาซ NGV แต่ก็ถูกคัดค้านตีตกไปจาก พรรคพวกดีแต่พูด ไม่เคยมีผลงาน
.
มาในยุคของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม ก็พยายามเสนอให้ ขสมก.เปลี่ยนจากรถพลังงานดีเซล เป็น รถพลังงานสะอาด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ EV ทั้งระบบ เชื่อมต่อ รถ ราง เรือ พร้อมกับการปฏิรูปเส้นทาง ขสมก.ใหม่ทั้งระบบ แต่ก็ถูกหน่วยงานอย่าง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ไม่ทราบทำงานเช้าชาม เย็นชามอย่างไร เรื่องนี้เข้าไปค้างคามาถึง 2 ปีแล้ว เป็น 2 ปีแห่งการสูญเสียโอกาส สูญเสียชีวิต ของประชาชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม
.
จนมาถึงความพยายามเปิดเส้นทางเดินรถร่วมเอกชน ที่เขาเห็นความสำคัญในเรื่อง มลภาวะทางอากาศ เขาจึงลงทุนผลิตรถเมล์ EV มาใช้ขับเคลื่อนในประเทศไทย และส่งขายออกนอกประเทศ ออร์เดอร์ทะลักทะลาย ไม่ขาดสาย เนื่องจากเป็นของดี ราคาถูก ขายเกลี้ยงสต็อค จองกันข้ามปี โดยในปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2565 ประชาชนคนไทยได้มีโอกาสใช้รถเมล์พลังงานไฟฟ้า ในหลายเส้นทางที่ รถร่วมเอกชน เขาลงมือทำ 1,200 คัน และ ในปีนี้ พ.ศ.2566 จะมีการเร่งรัดส่งมองรถเมล์ไฟฟ้า มาให้ คน กทม.และปริมณฑล ใช้ได้ครบ 4,000 คัน เป็นรถเมล์แอร์มีความทันสมัย ชานต่ำ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เต็มรูปแบบ สะดวก สะอาด ปลอดภัย ไร้มลพิษ
.
ขณะเดียวกันก็มีความพยายามจากบางพรรค ที่ความคิดและการกระทำยังก้าวสั้นๆ พยายามขโมยรูปภาพไปใช้ทำประชาสัมพันธ์ แต่ก็ไม่ทันกาล เพราะ พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ ส่งผลให้คน กทม. เห็นตำตาว่าใครลงมือทำ และทำสำเร็จจริงๆ นอกจากนี้จากนโยบายหาเสียงเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เห็นจะมีอยู่พรรคเดียว ที่ประกาศ จะทำหลังคาโซลาร์เซล ติดตั้งให้ฟรีกับทุกหลังคาเรือน ลดค่าไฟฟ้าได้เฉลี่ย 450บาทต่อเดือน แล้วยังจะได้สิทธิ์ ซื้อ มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า ราคาถูกแถมผ่อนได้อีก เดือนละ 100บาท เป็นเวลา 5 ปี หรือคันละแค่ 6,000 บาท ซึ่งจริงๆ ขายในท้องตลาดถึงคันละ 46,000 บาท
.
ต้องยกมือให้คนคิดเรื่องนี้ เพราะเป็นความคิดที่ซับซ้อนและแยบคายที่สุด การลดการพึ่งพิงพลังงานน้ำมัน ลดมลพิษ ลดปริมาณการปล่อยกาซเรือนกระจก สามารถ นำเรื่องนี้ไปคำนวณ เป็นตัวเงินจากประเทศที่ไม่สามารถทำได้ เป็นการหารายได้เข้าประเทศได้อีกทางหนึ่ง ที่เรียกว่า การซื้อขาย “คาร์บอนเครดิต”
.
นับว่าเป็น พรรคการเมืองที่มีนโยบายชัดเจนที่สุด ในการจะขจัดปัญหา ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน นั่นคือ พรรคภูมิใจไทย ในเวลาเข้าสู่สนามเลือกตั้งในครั้งนี้ นโยบายสายGreen หรือสายเขียว มาเป็นชุด ๆ เพื่อจะแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 และปัญหา การลดปริมาณสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศของโลก เลยทีเดียว ปัญหา ฝุ่นพิษ PM 2.5 จะหมดไปได้ถ้าทุกคนทุกภาคส่วน ให้ความร่วมมือ ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง อย่างที่เรียกว่า”พูดแล้วทำ”
.
- Advertisement -