.
วันที่ 11 ส.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กระบุว่า #ปฏิรูปแบบปฏิวัติ หลังจากได้ติดตามพฤติกรรมของสามนิ้ว ประกอบกับแนวคิดของนายปิยบุตร ที่ประกาศแนวทาง “ปฏิรูปแบบปฏิวัติ” ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะเห็นแนวทางที่เขาทำ
.
1.ปลุกระดมลูกหลานประชาชน นิสิต นักศึกษา สร้างความเกลียดชัง หยาบ ถ่อย ก้าวร้าว ข้อมูลเท็จ และอุปโลกน์แกนนำขึ้นมาชุดหนึ่ง ใช้ชื่อองค์กรพ่วงมหาวิทยาลัย เพื่อให้น่าเชื่อถือ ให้ดำเนินตามสคริปต์ที่กำหนด คนที่จะมาเป็นแกนนำ ต้องไม่ครบองค์ประกอบทางหลักคิด หรือเพี้ยนหน่อยๆ
.
2.จัดชุมอย่างต่อเนื่องในรูปแบบต่างๆ เช่น แฟลชม็อบ คาร์ม็อบ เตรียมอุปกรณ์ที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ เผา เพื่อยั่วยุให้เกิดความรุนแรง และใช้สื่อในเครือหาภาพมาปั่นกระแสว่า ฝ่ายตนถูกใช้ความรุนแรง และที่สำคัญ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ม็อบจะต้องพูดเสมอว่า ชุมนุมโดยสันติ ต้องการประชาธิปไตย ขับไล่ทรราชย์
.
3.รูปแบบการสั่งการม็อบ จะไม่ใช้ผู้นำจริง แต่สั่งการผ่านเพจหลายๆเพจ และไปปั่นกระแสผ่านโซเชียล ให้แกนนำหลัก พรรคการเมืองบางพรรคทำตัวคอยสนับสนุน ช่วยเหลือไม่ต้องออกหน้า
.
4.ในแผนการจะใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดจลาจล บุคคลหลักๆที่สร้างกันขึ้นมา จะหาทางแยกตัวออก บางคนไปต่างประเทศ บางคนไปมอบตัว เพื่อเลี่ยงความรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น ทุกอย่างปล่อยให้ลูกชาวบ้านทำไป เพื่อให้เกิดการเสียชีวิต และนำไปปั่นผ่านสื่อ องค์กรสิทธิมนุษยชน และพวกต่างชาติ
.
5.ปลายทางสุดท้าย หวังว่าความรู้สึกเกลียดชัง ที่ทำมาต่อเนื่อง จะสะสมจนนำไปสู่จลาจลใหญ่ สงครามกลางเมือง ปฏิวัติประชาชน ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนประเทศเป็นระบอบสาธารณรัฐ โดยที่ตนเองไม่ต้องลงแรงมาก เหมือนม็อบในอดีต ถ้าชนะเมื่อไร แกนนำหลักค่อยออกมาเสวยอำนาจ ในฐานะเจ้าลัทธิ แต่ถ้าถูกดำเนินคดี ตัวเองก็รอด
.
ในความเป็นจริง มันเหมือนหนังคนละม้วน เพราะประชาชนเบื่อหน่าย รำคาญ จนเริ่มรำคาญรัฐบาล ถึงขนาด ถ้าจัดการพวกอันธพาลป่วนเมืองไม่ได้ ประชาชนจะออกมาเอง ดูต่อไปเรื่อยๆครับว่า ใครจะปฏิรูปการปฏิวัติ
.
