เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามกรณีการแสดงออกของกลุ่มทะลุวัง หลังการแถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทย ระบุว่า
“ก็ไม่ควร ประเทศไทยเรา ต้องรักษาวัฒนธรรม หากไม่พอใจอะไรกัน ต้องพูดด้วยเหตุด้วยผล แต่การใช้ถ้อยคำหยาบคาย และเป็นถ้อยคำที่ไม่ได้เคารพผู้ที่มีอาวุโสสูงกว่า ดูแล้วไม่ใช่ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีของคนไทย ตรงนี้เราต้องรักษาเอาไว้ เมืองไทยมีความเข้มแข็ง ความมั่นคงอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะวินัยดี และการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นเอกลักษณ์ของเราอย่างหนึ่ง เป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ก็อยากให้รักษาไว้ การพูดคุยหรืออะไรก็ตาม ที่เขามีสุภาษิตว่า น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย มันก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ คุยก็ต้องคุยกันดีๆ ถ้าคุยกันแบบเป็นอารมณ์ ทุกคนมีอารมณ์หมด เพียงแต่ใครจะควบคุมได้มากกว่า แต่มันจะไม่ก่อให้เกิดความก้าวหน้าไป เพราะทุกคนจะต้องตั้งการ์ด ยกการ์ดกันอย่างสูง”
เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ หลังมีการปาพลุสี และพฤติกรรมเชิงคุกคามไล่ล่า นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่าทำให้เกินกฎหมาย ประเทศเรามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมฝากไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้วยว่า
“เมื่อวานตำรวจยืนเฉยเลย เวลามีการคุกคามอะไรแบบนี้ คงไม่ต้องรอให้ไปแจ้งความ และที่บอกว่าไม่มีใครไปแจ้งความ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันออกไปไม่ได้ จะแจ้งความได้อย่างไร และเราไม่ได้ต้องการแจ้งความ ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รักษาความสงบ ไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น”
เมื่อถามว่าต้องฝากกำชับทางพรรคก้าวไกลหรือไม่ เพราะยังมีคนมองว่าเป็นแนวร่วมของพรรค นายอนุทิน ระบุว่า
“ผมว่าพรรคการเมือง คงไม่ต้องการให้ภาพเหล่านี้เกิดขึ้น ยิ่งถ้าบอกว่าเป็นแนวร่วมกันด้วย ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ง่าย ผมไม่อยากคิดไปถึงตรงนั้น ก็คิดว่าทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงออก ในสิ่งที่ตัวเองต้องการให้เป็น และต้องการให้เกิด แต่อยู่ที่เหตุและผล”