- Advertisement -
หน้าแรก การเมือง 'อ.นิติศาสตร์'15 ม.ดังทั่วประเทศ ร่อนจดหมายถึงศาล รธน. ฟันธง!!ปมวาระนายกฯ8 ปี

‘อ.นิติศาสตร์’15 ม.ดังทั่วประเทศ ร่อนจดหมายถึงศาล รธน. ฟันธง!!ปมวาระนายกฯ8 ปี

วันนี้(16 ส.ค.) อาจารย์นิติศาสตร์ จำนวน 51 คน จาก 15 มหาวิทยาลัย ร่วมกันเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณี การนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาระบุว่า ความเห็นทางกฎหมายจากอาจารย์นิติศาสตร์ จำนวน 51 คน จาก 15 มหาวิทยาลัย เรื่องการนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี
.
เรียน ท่านประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เคารพ

ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ได้บัญญัติไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่…”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 จะเป็นนายกรัฐมนตรีครบระยะเวลา 8 ปีในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 จึงเกิดประเด็นปัญหาในข้อกฎหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงนายกรัฐมนตรีต่อไปหลังจากวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ได้หรือไม่?
.
โดยที่การวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ดังรายนามข้างท้าย มีความเห็นทางกฎหมายที่ใคร่ขอเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ในการพิจารณา โดยมีประเด็นดังต่อไปนี้

  1. ประเด็นสำคัญที่สุดในเบื้องต้นที่ต้องพิจารณาคือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น “นายกรัฐมนตรี” ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่?
    .
    รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 264 ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาล บัญญัติว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ ..”
    .
    เมื่อมาตรา 264 บัญญัติไว้เช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาก่อนรัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้ จึงเป็น “นายกรัฐมนตรี” ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และดังนั้น จึงเป็น “นายกรัฐมนตรี” ตามมาตรา 158 วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้” หมายความว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี ทั้งนี้ ตามหลักการนับระยะเวลาที่จะไม่นับวันแรกที่เริ่มดำรงตำแหน่งนั้น
    .
    พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 และจะต้องเป็นไปตามมาตรา 170 ซึ่งเป็นบทบัญญัติเรื่อง “การสิ้นสุดของความเป็นรัฐมนตรี” ที่ได้บัญญัติไว้ในวรรคสองว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดเวลาตามมาตรา 158 วรรคสี่ด้วย”
    .
    ดังนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเกินวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ก็ต้องพ้นตำแหน่งทันทีในวันถัดไป เว้นแต่ว่ารัฐธรรมนูญได้บัญญัติยกเว้นไว้ว่า การห้ามดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีไม่ใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้

2.ประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไปคือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มีบทเฉพาะกาลยกเว้นไม่ให้มาตรา 158 วรรคสี่ ใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนวันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้หรือไม่?
.
บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีเพียงมาตรา 264 มาตราเดียวที่บัญญัติในเรื่องนี้เอาไว้ โดยมาตรา 264 วรรคสองได้กำหนดยกเว้นคุณสมบัติต่างๆ ของรัฐมนตรีที่ไม่ให้ใช้กับรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ดังต่อไปนี้คือ ยกเว้นลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 (6) “เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับมาตรา 98 (12) (13) (14) และ (15)”
.
และ “ต้องพ้นจากตําแหน่งตามมาตรา 170 ยกเว้น (3) และ (4) แต่ในกรณีตาม (4) เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับมาตรา 98 (12) (13) (14) และ (15)” และยกเว้นมาตรา 170 (5) “เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการดําเนินการตามมาตรา 184 (1)” ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีการยกเว้นมาตรา 170 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดเวลาตามมาตรา 158 วรรคสี่ด้วย” ไว้แต่ประการใด และไม่ปรากฏบทบัญญัติอื่นใดในรัฐธรรมนูญนี้ที่ยกเว้นมาตรา 158 วรรคสี่ มิให้ใช้บังคับแก่นายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ด้วย
.
ดังนั้น เมื่อรัฐธรรมนูญมิได้ยกเว้นมาตรา 158 วรรคสี่ มิให้ใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 เท่านั้น

  1. สำหรับความเห็นที่เห็นว่า การนับระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี ต้องเร่ิมนับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ประกาศใช้ คือเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 เพราะการใช้กฎหมายย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคลเป็นสิ่งที่ไม่อาจทำได้นั้น ตามหลักกฎหมายแล้วควรต้องพิจารณาอย่างไร?
    .
    การใช้กฎหมายย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคลไม่อาจทำได้นั้น เป็นหลักการที่ถูกต้องถ้าเป็นเรื่อง ‘สิทธิและเสรีภาพของประชาชน’ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ ที่ห้ามมิให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งรวมกันเกินกว่า 8 ปีนั้น เป็นเรื่อง ‘การควบคุมและการจำกัดอำนาจ’ ซึ่งการตีความจะตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง นั่นคือหากเป็นเรื่องอำนาจ การตีความจะมุ่ง ‘ควบคุม’ ขณะที่ถ้าเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ การตีความจะมุ่ง ‘คุ้มครอง’ และเพื่อที่จะคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะต้องมีการควบคุมและจำกัดอำนาจรัฐบาล
    .
    ทั้งนี้ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่นั้น ผู้ร่างรัฐธรรมนูญคือคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ระบุไว้ว่า “การกำหนดระยะเวลาแปดปีไว้ก็เพื่อมิให้เกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวเกินไปอันจะเป็นต้นเหตุเกิดวิกฤติทางการเมืองได้” (ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตรา ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุธศักราช 2560, น.275)
    .
    ดังนั้น การตีความในเรื่องการห้ามมิให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ซึ่งเป็นเรื่องการควบคุมนายกรัฐมนตรีไม่ให้อยู่ในอำนาจนานเกินไปจน “เกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมือง” จึงต้องตีความในทางควบคุมอำนาจ นั่นคือต้องเป็นไปตามบทบัญญัติที่เขียนไว้โดยเคร่งครัด ดังนั้น เม่ีอรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 8 ปี และไม่ได้ยกเว้นให้กับนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนวันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น นั่นคือต้องนำระยะเวลาดำรงตำแหน่งก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ “รวมกัน” เข้าไปด้วย
    .
    กรณีนี้สามารถเทียบเคียงได้กับการที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) พ้นจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่ยังไม่หมดวาระ หรือการกำหนดคุณสมบัติต่างๆ ในการเป็นรัฐมนตรี หรือ ส.ส. ที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้บัญญัติเพิ่มขึ้นจากรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านๆ มา ก็เป็นเรื่องที่ทำได้และได้ทำมาแล้วภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้
    .
    ดังเช่น กรณี ส.ส. สิระ เจนจาคะ ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เพราะมี ‘ลักษณะต้องห้าม’ ไม่ให้สมัคร ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) คือ “เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา” ทั้งนี้ เพราะเป็นเรื่องคุณสมบัติ หรือเงื่อนไขของการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ต้องควบคุมและจำกัดอำนาจ จึงสามารถทำได้ กรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นเช่นเดียวกัน
    .
    นอกจากนี้แล้ว การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่สองของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 9 มิถุนายน 2562 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 105 วรรคสี่ บัญญัติว่า “ถ้าพ้นจากตําแหน่งและได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเดิมหรือตําแหน่งใหม่ ภายในหนึ่งเดือน ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้น้ันจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน”
    .
    ซึ่งโดยข้อเท็จจริง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแล้ว แต่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ไม่เปิดเผย แม้จะมีการร้องขอจากสาธารณะ โดยให้เหตุผลว่า ปปช.ไม่มีอำนาจเปิดเผย นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อนแล้ว และดำรงตำแหน่งต่อ ทำให้ได้ประโยชน์จากมาตรา 105 วรรคสี่ ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ดังนั้น จึงเป็นส่ิงที่ยืนยันว่าต้องนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 “รวมกัน” เข้าไปด้วย
    .
    สรุป รัฐธรรมนูญ พ.ศ.มาตรา 158 วรรคสี่ บัญญัติให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งรวมกันเกิน 8 ปีมิได้ ซึ่งเป็นเรื่องการควบคุมนายกรัฐมนตรีไม่ให้อยู่ในอำนาจนานเกินไป “จนเกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมือง” เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 วรรคสี่ โดยที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มิได้มีการยกเว้นให้กับนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 จึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 เท่านั้น และหาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ก็ต้องพ้นตำแหน่งทันทีในวันถัดไป ทั้งนี้ตามมาตรา 170 วรรคสอง
    .
    หาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีไปจนเกินวันที่ 24 สิงหาคม 2565 โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญยังวินิจฉัยไม่แล้วเสร็จ ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรา 82 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า “หากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า … ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั่งให้ … ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคําวินิจฉัย” นั่นคือหากถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2565 แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัย ก็จะต้องพิจารณามีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
    .
    ข้าพเจ้าทั้งหลายซึ่งเป็นอาจารย์สอนกฎหมาย ได้นำเสนอความเห็นทางกฎหมายในเรื่องนี้ต่อท่านประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ด้วยความตั้งใจเพียงประการเดียวคือ ให้ประเทศไทยยึดถือหลักการปกครองโดยกฎหมายให้มากย่ิงกว่าที่ผ่านมา เพราะการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความเห็นต่างทางการเมืองนั้น ไม่มีทางออกอื่นใดนอกจากฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจตีความกฎหมายตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ จะต้องวินิจฉัยตัดสินปัญหาโดยยึดถือตัวบทกฎหมาย และใช้กฎหมายกับทุกฝ่ายอย่างเสมอกัน
    .
    ที่สำคัญที่สุดจะต้องเป็นอิสระจากผู้มีอำนาจที่ฝ่ายตุลาการต้องใช้อำนาจตุลาการในการควบคุม ซึ่งในกรณีนี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เพราะความอิสระของตุลาการ และการใช้กฎหมายในการตัดสินต่อทุกคนอย่างเสมอกัน คือสิ่งที่เรียกว่า “ความยุติธรรม” ที่จะทำให้สังคมเชื่อมั่นในหลักการปกครองโดยกฎหมายที่ทุกฝ่ายจะเสมอกันภายใต้รัฐธรรมนูญและภายใต้กฎหมาย และความขัดแย้งหรือเห็นต่างของผู้คนในสังคม ไม่ว่าจะมีมากเพียงใดก็สามารถแก้ไขและคลี่คลายโดยสันติได้ ขอแสดงความนับถือ คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ 51 คน
    จาก 15 มหาวิทยาลัย
    .

ThePOINT #ข่าวการเมือง #อาจารย์นิติศาสตร์ #ศาลรัฐธรรมนูญ #วาระ8ปี #นายก #บิ๊กตู่

- Advertisement -

Stay Connected

21,427แฟนคลับชอบ

Must Read

‘อนุทิน’ยืนยัน สธ. มีความพร้อม!!รพ.-ยาเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย สนับสนุนในพื้นที่เสี่ยงวิกฤตฝุ่น PM2.5

วันนี้(28 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นpm 2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับความยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในเรื่องของยาเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันpm 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่ที่เสี่ยง และหากกรณีฉุกเฉินปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็สามารถตัดสินใจได้ทันที.นายอนุทิน ระบุว่า ในส่วนของโรงพยาบาลก็มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น...
- Advertisement -

‘ยิ่งลักษณ์’ย้อนภาพสมัยเป็นนายกฯ ลุยช่วยดับไฟป่า ครวญ!!ตอนเด็กอยู่เชียงใหม่ไม่เคยเห็นวิกฤตฝุ่นแบบนี้ จี้รัฐบาลแก้ด่วน

วันนี้(28 มี.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพตนเองสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะปฏิบัติภารกิจร่วมดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมระบุข้อความว่า สมัยเด็กๆ ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ไม่เคยมีฝุ่นเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็แค่ควันไฟธรรมดา แต่ตอนนี้มีเยอะมากไม่ใช่ควันไฟทั่วไปแต่เป็นควันพิษ PM 2.5 ซึ่งทางวิชาการเป็นอันตรายและเป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ไช่เฉพาะในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าห่วงใยคือเด็กๆที่ฝุ่นจะสะสมและเห็นผลในอีก 5-10 ปีข้างหน้า.ดิฉันไม่อยากเห็นเด็กๆ ในอนาคตเป็นโรคทางเดินหายใจ กันหมดเพราะฉะนั้น...

‘โบว์-ณัฏฐา’ซัดอย่าเอา’ประชาธิปไตย’แปะหน้าผาก!!ลั่นประเทศนี้ไม่มีกฎหมายบังคับเลือกได้พรรคเดียว ชี้นายกฯไม่จำเป็นนั่งส.ส.

วันนี้(28 มี.ค.) "โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา"นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความระบุว่า ประเทศนี้ไม่ได้มีกฎหมายว่าเลือกได้พรรคเดียวถึงจะได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยนะคะ ใครเขาไม่ได้อยากเลือกคนที่คุณอยากเลือก ไม่ต้องทำเหมือนเขาเป็นอาชญากร คำว่า “ประชาธิปไตย” มีความหมาย อย่าเอาไว้แค่แปะหน้าผาก.นอกจากนี้ โบว์ ยังโพสต์ด้วยว่า "คำว่า"นายกต้องมาจากส.ส." เหตุผลคือนายกต้องมาจากการเลือกของประชาชน ดังนั้นใครจะเป็นแคนดิเดทนายกให้ประชาชนเลือก แต่ไม่ต้องการเป็นส.ส. ก็ไม่ผิด เหมือนสมัครงาน มีโอกาสก็สมัครเฉพาะในส่วนที่อยากเป็น ส่วนที่ไม่อยากเป็นก็เปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าเป็น...

เกิดอะไรขึ้น!!’ตั๊น จิตภัสร์​’ตัดพ้อ​เส้นทางการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ด้าน’จุรินทร์’เผยยังไม่คุยเจ้าตัว

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก.วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ...

Related News

‘อนุทิน’ยืนยัน สธ. มีความพร้อม!!รพ.-ยาเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย สนับสนุนในพื้นที่เสี่ยงวิกฤตฝุ่น PM2.5

วันนี้(28 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นpm 2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับความยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในเรื่องของยาเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันpm 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่ที่เสี่ยง และหากกรณีฉุกเฉินปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็สามารถตัดสินใจได้ทันที.นายอนุทิน ระบุว่า ในส่วนของโรงพยาบาลก็มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น...

‘ยิ่งลักษณ์’ย้อนภาพสมัยเป็นนายกฯ ลุยช่วยดับไฟป่า ครวญ!!ตอนเด็กอยู่เชียงใหม่ไม่เคยเห็นวิกฤตฝุ่นแบบนี้ จี้รัฐบาลแก้ด่วน

วันนี้(28 มี.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพตนเองสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะปฏิบัติภารกิจร่วมดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมระบุข้อความว่า สมัยเด็กๆ ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ไม่เคยมีฝุ่นเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็แค่ควันไฟธรรมดา แต่ตอนนี้มีเยอะมากไม่ใช่ควันไฟทั่วไปแต่เป็นควันพิษ PM 2.5 ซึ่งทางวิชาการเป็นอันตรายและเป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ไช่เฉพาะในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าห่วงใยคือเด็กๆที่ฝุ่นจะสะสมและเห็นผลในอีก 5-10 ปีข้างหน้า.ดิฉันไม่อยากเห็นเด็กๆ ในอนาคตเป็นโรคทางเดินหายใจ กันหมดเพราะฉะนั้น...

‘โบว์-ณัฏฐา’ซัดอย่าเอา’ประชาธิปไตย’แปะหน้าผาก!!ลั่นประเทศนี้ไม่มีกฎหมายบังคับเลือกได้พรรคเดียว ชี้นายกฯไม่จำเป็นนั่งส.ส.

วันนี้(28 มี.ค.) "โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา"นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความระบุว่า ประเทศนี้ไม่ได้มีกฎหมายว่าเลือกได้พรรคเดียวถึงจะได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยนะคะ ใครเขาไม่ได้อยากเลือกคนที่คุณอยากเลือก ไม่ต้องทำเหมือนเขาเป็นอาชญากร คำว่า “ประชาธิปไตย” มีความหมาย อย่าเอาไว้แค่แปะหน้าผาก.นอกจากนี้ โบว์ ยังโพสต์ด้วยว่า "คำว่า"นายกต้องมาจากส.ส." เหตุผลคือนายกต้องมาจากการเลือกของประชาชน ดังนั้นใครจะเป็นแคนดิเดทนายกให้ประชาชนเลือก แต่ไม่ต้องการเป็นส.ส. ก็ไม่ผิด เหมือนสมัครงาน มีโอกาสก็สมัครเฉพาะในส่วนที่อยากเป็น ส่วนที่ไม่อยากเป็นก็เปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าเป็น...

เกิดอะไรขึ้น!!’ตั๊น จิตภัสร์​’ตัดพ้อ​เส้นทางการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ด้าน’จุรินทร์’เผยยังไม่คุยเจ้าตัว

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก.วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ...

‘ปิยบุตร’จี้ทุกพรรคฟื้นหลักการ’นายกฯ’ต้องเป็นส.ส.เท่านั้น!!ชงแก้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ชัดเจน

นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "ว่าด้วย นายกฯต้องเป็น ส.ส."ระบุว่า ระบบรัฐสภา ไม่ได้บังคับเสมอไปว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. บางประเทศบังคับ บางประเทศก็ไม่บังคับ แต่โดยทั่วไปแล้ว เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็มักเลือกคนที่เป็น ส.ส. และเป็นคนที่พรรคเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่แน่ๆ ประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภา ล้วนแล้วแต่ให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภาไม่มีอำนาจในเรื่องนี้.กรณีของประเทศไทย ในอดีตที่ผ่านมา ไม่มีรัฐธรรมนูญบังคับไว้...

‘ไพศาล’จับสัญญาณถอย!!ขั้นที่1’บิ๊กตู่’หลังไร้ชื่อปาร์ตี้ลิสต์’รวมไทยสร้างชาติ’

วันนี้(28 มี.ค.) นายรวนักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า สัญญานถอย 1.การเพิ่มค่าตอบแทน แก่ผู้เกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง 3 จำพวก คือ อสม. อบต. และกำนันผู้ใหญ่บ้านนับแสนคน มีภาระต้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายเป็นรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีเงิน จึงกำหนดการจ่ายเพิ่มในปีงบประมาณ 2567 ด้านหนึ่ง สร้างความยินดีให้แก่คน 3...

‘จอม’คอนเฟิร์ม!!’รู้ทันทักษิณภาคพิเศษ’แฉโดย’จตุพร’เป็นความจริง คนใกล้ชิดรู้เต็มอกแต่ไม่กล้าปริปาก

นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ลี้ภัยหนีคดีความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา แชร์คลิปวิดิโอรายการของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ที่พูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ”รู้ทันทักษิณ” ภาคนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจและมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก มากกว่าภาคแรก โดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เพราะคนที่ออกมา รู้ทัน คือข้างกายคนสำคัญที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณทักษิณมานานหลายปี.ขณะที่บุคคลที่ออกมารู้ทันทักษิณภาคแรก ล้วนเป็นคนไกลตัวทักษิณ...

‘สมศักดิ์ เจียม’จับโป๊ะ!!’ทักษิณ’แค่เริ่มก็โกหกแล้ว ย้อน’ภูมิธรรม’นึกถึงภาพสมัยออกทีวียัน’ไม่เหมาเข่ง’

จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธไม่มีดีลลับยอมให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยระบุว่า ตอบ วิรัช "เรื่องยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม" 1. ผมไม่ได้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทย 2. ผมไม่เคยสื่อสารกับคุณวิรัชมานานมากแล้ว อีกทั้งไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร มา 17 ปีแล้ว 3....

‘ก้าวไกล’ปูดแหล่งข่าวฝังตัวในชุมชนแจ้งพบ’หัวคะแนน’ขยับซื้อเสียงหนัก!!โดยเฉพาะเขตกระแสพรรคมาแรง

วันนี้(27 มี.ค.) ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหัวคะแนนในพื้นที่ ที่เริ่มวางแผนซื้อเสียงอย่างเป็นระบบแล้วในขณะนี้ ตนได้รับแจ้งจากประชาชนภายในชุมชนต่างๆ ในเขตลาดพร้าว และบึงกุ่มมามากขึ้น ว่าในชุมชนต่างๆ เริ่มมีการเดินสายพบปะกับหัวคะแนนเพื่อจัดเลี้ยงและให้เงินกันแล้ว ตอนนี้มีการขยายเครือข่ายหัวคะแนนใหม่ๆ เกิดขึ้น ยิ่งหาได้มากยิ่งได้เงินเพิ่มจากคนที่นำเงินมาให้ และเริ่มมีการเช็คยอดหัวคะแนนในเครือข่ายกันอย่างคึกคัก คาดได้ว่าจะนำไปสู่การตระเตรียมซื้อเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย.ร.ท.ธนเดช ระบุว่า แหล่งข่าวของตนระบุว่าตัวเลขล่าสุดในตอนนี้ อยู่ที่หัวละ...

‘ทักษิณ’ดิ้นโต้!!ดีลลับยกเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ให้’บิ๊กป้อม’ลั่น’เพื่อไทย’ไม่ได้โง่

จากกรณีกระแสข่าวมีดีลลับระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคเพื่อไทย(พท.) ว่าจะมีการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี กระทั่งต่อมานายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่า แม้แต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังยอมให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 นั้น.ล่าสุด นายทักษิณ...

‘อนุทิน’ปลื้มกระแส’ภูมิใจไทย’พุ่ง!!สวนทาง’ชูวิทย์’ เดินหน้าจองเวร ชี้ให้รอผลเลือกตั้งหลังสะพัดดีลลับ’บิ๊กป้อม-ทักษิณ’

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงโอกาสการร่วมรัฐบาลหลังมีกระแสข่าวดีลลับ การจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ได้รับทราบในเรื่องดังกล่าว แต่ได้อ่านจากข่าวอยู่เหมือนกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆในเรื่องนี้ ขอให้รอผลการเลือกตั้งดีที่สุด หลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง.เมื่อถามถึงกรณีที่นำแกนนำพรรคภูมิใจไทยร่วมรับประทานอาหารกับพลเอกประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อถึง 2 ครั้ง มีการพูดคุยเรื่องดีลทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน...

‘วิชาญ’ยิงถามตรง’เอกนัฏ’นอกจากใช้กระแส’ลุง’ประเมินส่งส.ส.เขตเหมาะสมกับพื้นที่หรือไม่??เตือนไม่ง่ายจับเสือมือเปล่า ชี้หลายพื้นที่มาถูกทางยกชลบุรีส่งคนรุ่นใหม่เข้าใจปัญหา

นายวิชาญ อาฮูยา นักวิชาการอิสระ ระบุว่า วันนี้เหลืออีก 7 สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่วันเลือกตั้ง ต้องยอมรับวันนี้ กระแสลุงตู่ ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ นั้นมาแรงที่สุดในฝ่ายอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะโพลล่าสุด มาเป็นอันดับ 3 คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อและเขต ในกทม. ส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติคงต้องยิงคำถาม ไปถึง เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ คุณขิง เอกนัฏ...

น่ากลัวมาก!!ชี้การเมืองดุเดือด สภาพ’บิ๊กตู่’ถูกรุมกินโต๊ะ นั่งดูคนอื่นแอบจับมือฟอร์มรัฐบาลล่วงหน้า

วันนี้(27 มี.ค.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า น่ากลัว ภาพการต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ละฝ่ายงัดกลยุทธทุกอย่างบรรดามีออกมาประเคนสร้างคะแนนนิยมและทำลายคู่ต่อสู้กันอย่างเต็มที่ นอกจากระบบหัวคะแนน  คะแนนจัดตั้งที่พรรคใหญ่มีอยู่ในมือแล้ว พรรคใหญ่ๆยังอาศัยสื่อขี้ข้า สื่อมือปืนรับจ้าง สำนักโพลที่จะเขียนเชียร์ว่าคนนี้คือนายกในฝัน พรรคที่จะชนะแลนด์สไลด์.ที่ว่านี้ พรรคของลุงตู่นับว่าอ่อนด้อยที่สุด เนื่องจากเป็นพรรคใหม่สดซิง บุคคลากรของพรรคแม้จะเคยเป็นอดีต สส.มาบ้าง แต่ประสบการณ์ในการนำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งเหมือนมือใหม่หัดขับ ความเขี้ยวความจัดเจนมีน้อยกว่าพรรคอื่นๆอยู่หลายขุม สภาพคือการชูลุงตู่...

‘ภูมิใจไทย’พลิกมิติใหม่การศึกษา!!ดันตั้ง’สถาบันพัฒนาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ’ยกระดับเรียนออนไลน์มีคุณภาพ

ดร.กมล รอดคล้าย คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูป และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบาย“การจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ (Online)” โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอนโยบายการจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยมองว่าช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องของการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียม สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทุกที่ ทุกเวลา มีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก...

‘ศิธา’ฮึ่ม!!จี้’เพื่อไทย’เอาให้ชัด ไม่หนุนทุก’ลุง’เป็นนายกฯ เตือนรัฐบาลสูตรไขว้ข้ามขั้วปชช.ไม่ทนแน่

วานนี้(26 มี.ค.) น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) กล่าวในเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ไทยสร้างไทย โดยระบุว่า จุดยืน จุดแข็ง และจุดขายของพรรคไทยสร้างไทย คือ เราจะไม่พายเรือให้ทหารที่เคยปล้นอำนาจประชาชน ฉีกรัฐธรรมนูญ กลับมาขึ้นฝั่ง แต่เราจะเอาลุงไปลอยทะเล เพราะลุงทำงานแบบชุ่ยๆ เอาคนไปขังแบบชุ่ยๆ บังคับใช้กฎหมายแบบชุ่ยๆ ใครไม่อาย ผมอาย รับไม่ได้ที่จะให้เป็นผู้นำประเทศต่อไป.วิชามารในรัฐธรรมนูญวันนี้...
- Advertisement -