เปิดจดหมายฉบับเต็ม!!แฟนเก่าร่ายยาวแฉ’คิมซอนโฮ’

0
810

กลายเป็นประเด็นร้อนของวงการบันเทิงเกาหลีใต้และช็อกแฟนคลับซีรีย์สาวไทยจากกรณี’คิมซอนโฮ’พระเอกชื่อดังจากซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha ที่กำลังฮิตอยู่ใน netflix ออกแถลงการณ์ขอโทษแฟนเก่า จากกระแสข่าวการทำร้ายร่างกายและบังคับให้ทำแท้งนั้น
.
โดยบทความที่แฟนเก่าของพระเอกซีรีย์ชื่อดังออกแฉจนนำมาซึ่งประเด็นร้อนดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า”ฉันเป็นแฟนเก่าของเขาค่ะ ถ้าหากมันเป็นแค่เรื่องนิสัยแย่ๆ ในช่วงที่เราเคยคบกัน รับรองได้เลยว่าฉันจะไม่เสียเวลาออกมาแฉความจริงในครั้งนี้แน่ๆ แต่ที่ฉันออกมาพูด เพราะทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเขาหน้าจอทีวีทุกวัน กับภาพลักษณ์ที่ดีเลิศแบบนั้น ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันยอมรับความเสี่ยงทุกอย่าง ที่จะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวครั้งนี้ ความเจ็บปวดของฉันที่มีกับเขาไม่ใช่เพียงแค่เลิกรากัน แต่เขายังเป็นคนบังคับให้ฉันเอาทารกในท้องของฉันออกไปด้วย
.
ตอนที่ฉันตั้งครรภ์ เขาหลอกฉันให้ไปทำแท้งโดยบอกว่าจะแต่งงานด้วย เขาไม่อยากมีลูก เพราะเขากำลังจะมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นสตาร์และไม่พร้อมจะเสียสละชื่อเสียงเพื่อมารับผิดชอบเรื่องนี้ สิ่งที่เขาบอก สิ่งที่เขาทำ มันทำร้ายจิตใจของฉันอย่างรุนแรง จนส่งผลต่อสภาพร่างกายด้วย
.
ฉันเคยดูข่าวเรื่องนักแสดง คิม ยอง-กัน ที่ไปทำผู้หญิงอายุน้อยกว่าตั้งท้อง และบังคับให้อีกฝ่ายไปทำแท้ง แต่อย่างน้อยเขาก็แสดงความรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง หรือแม้แต่สมาชิกไอดอลวงหนึ่งที่ตั้งครรภ์ ฝ่ายชายก็ยังรับผิดชอบความผิดพลั้งด้วยการแต่งงาน แต่ผู้ชายคนนี้ที่ฉันเคยรัก เขาคือเศษขยะดีๆ นี่เอง ในขณะที่คนอื่นๆ มองว่าเขาเลิศเลอเป็นเทพบุตร แต่เขาเป็นพวกไม่มีจิตสำนึกถึงความผิดใดๆ ทั้งสื้น
.
เขาโน้มน้าวให้ฉันไปเอาเด็กออกโดยหลอกล่อด้วยคำสัญญา แต่ฉันมาพบความจริงภายหลังว่าเขาเป็นเศษขยะยิ่งกว่าที่ฉันเคยคิดเสียอีก ตอนนี้เราเลิกกันได้ 4 เดือนแล้ว แต่เชื่อไหม ว่าฉันยังหวังว่านักแสดง K จะกล่าวคำขอโทษกับฉันด้วยใจจริง
.
สำหรับนักแสดง K คนนี้ เขาเป็นคนที่รักการแสดงอย่างมาก แต่เพราะการมีภูมิหลังในวัยเด็กที่ยากลำบาก ทำให้เขาโหยหาแต่เงินและเห็นแค่เงินสำคัญที่สุด เขาไม่ลังเลที่จะสละคนรอบตัว เพื่อไต่ขึ้นไปหาความสำเร็จในชีวิต ฉันเคยคิดว่าฉันอาจเป็นข้อยกเว้นสำหรับเขา แต่ความจริงก็เปิดเผยว่าไม่ใช่ หลังจากเราเลิกกัน ไม่มีคำขอโทษใดๆ ออกมาจากเขาทั้งสิ้น นั่นเพราะสิ่งที่เขาสนใจมีแต่เรื่องเงิน เรื่องการถ่ายโฆษณา และเรื่องการไต่ขึ้นไปเป็นสตาร์ระดับแถวหน้าของประเทศ
.
ความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นตั้งแต่ ต้นปี 2020 เราคุยกันเยอะมากใน Kakao Talk และเชื่อไหม หลายๆครั้ง ฉันถูกขอให้ลบข้อความในแชทออก ด้วยเหตุผลต่างๆ มากมาย แต่แปลกดีที่ฉันยังเก็บมันไว้ และไม่เคยลบบทสนทนาออกไปเลย เวลาฉันอ่านเรื่องราวของคนอื่นที่ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็คิดตลอดนะ ว่าทำไมเขาไม่คุมกำเนิดให้ดี อย่างตัวฉันเองจะกินยาคุมตลอด ในช่วงเวลาที่เราคบกัน แต่จะมีอยู่ช่วงสั้นๆ ราว 1-2 เดือน ที่ฉันไม่ได้กินยาคุมเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย ดังนั้นฉันจึงบอกเขาว่าให้ใช้ถุงยางอนามัยแทนได้ไหม
.
วันหนึ่งระหว่างที่มีอะไรกัน เขาบอกฉันว่าอยากจะหลั่งใน ฉันนับวันแล้ว มันเป็นวันปลอดภัยพอดี มันเป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ฉันยอม และผลลัพธ์ก็คือ ฉันตั้งครรภ์กับนักแสดง K ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2020 ความจริงแล้วฉันรู้สึกกลัวมาก ความรักที่หลบซ่อนแบบนี้ มันยากไปหมด เราไม่สามารถจับมือกันแล้วเดินเที่ยวกันได้ เหมือนคู่รักทั่วไปด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้เขาจะแสดงความรัก หรือเลี้ยงเด็กในท้องของฉันได้ยังไง
.
ฉันคุยกับเขาว่า งั้นฉันยอมเสียสละตัวเองได้ไหม เพื่อจะเลี้ยงเด็กคนนี้ด้วยตัวเองแบบลับๆ ส่วนเรื่องสูติบัตรใดๆ ฉันจะจัดการเองหลังคลอดทั้งหมด ตั้งแต่เด็กแล้วที่ฉันมีปัญหาเรื่องมดลูก หมอบอกว่าฉันเป็นคนมีลูกยาก ดังนั้นตอนฉันไปปรึกษาหมอเรื่องการตั้งครรภ์ คุณหมอบอกว่า “ผมหวังว่าคุณจะเก็บเด็กคนนี้ไว้นะ เพราะถ้าทำแท้งตอนนี้ คุณอาจไม่มีวันได้ตั้งครรภ์อีกแล้ว”
.
จริงๆแล้วฉันเองก็กลัวการท้องนะ แต่ถ้าคนที่ฉันรักคอยให้กำลังใจ ฉันก็คิดจริงๆ ว่าจะผ่านมันไปได้ แล้วเอาจริงๆ มีผู้หญิงคนไหนในโลกบ้างที่ไม่อยากมีลูกกับคนที่ตัวเองรัก ฉันตัดสินใจติดต่อนักแสดง K แล้วบอกว่าคุณหมอแนะนำให้เก็บเด็กเอาไว้ เพราะฉันอาจจะไม่มีวันตั้งท้องได้อีกแล้วถ้าทำแท้ง สิ่งที่ฉันคาดหวังคือความรับผิดชอบ เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่เขาจะรับในสิ่งที่ตัวเองทำ แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
.
ในแชทเขาเหมือนจะพูดจาดี เหมือนจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่พอเจอตัวกันจริงๆ ทุกอย่างกลับเป็นคนละเรื่อง ฉันยังแคปบทสนทนาอันดีเลิศของเขาไว้อยู่เลยนะ ตอนนั้นเขาถ่ายละครอยู่ พอถ่ายเสร็จก็กลับบ้านแล้วมาอยู่ด้วยกัน 2-3 วัน เขาพยายามอย่างมากที่จะโน้มน้าวให้ฉันไปทำแท้งให้ได้ ในเวลานั้นฉันท้องได้ 6-7 สัปดาห์ ท้องก็เริ่มตึงให้เห็นแล้ว ฉันบอกเขาว่าฉันเริ่มเจ็บท้อง แต่เขาไม่ได้สนใจ เขาบอกว่า “ไหนๆ คุณก็ท้องแล้ว งั้นผมแตกในอีกรอบได้ไหม” เขาบังคับให้ฉันมีเซ็กส์กับเขา และคราวนี้เขาไม่ใช้ถุงยางอนามัยด้วย โดยเขาบอกกับฉันว่า เราสองคนพร้อมเป็นครอบครัวกันแล้วตอนนี้
.
หลังจากมีเซ็กส์กันเสร็จ เขายังยืนยันคำเดิมเรื่องการทำแท้ง เขาแกล้งบอกว่า จริงๆ เขาก็อยากมีลูกนะ แต่ใช้เหตุผลอื่นหว่านล้อม เขาบอกว่า “มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะให้เด็กเกิดขึ้นมาเพียงเพราะคุณคิดว่าจะมีลูกคนต่อไปไม่ได้ คิดดูนะ ถ้าเรามีลูกตอนนี้เราต้องใช้เงินอย่างน้อยก็ 900 ล้านวอน (25 ล้านบาท) แล้วเรามีกันเหรอ เงิน 900 ล้านวอนตอนนี้”
.
“ถ้าหากเรามีเด็กคนนี้ แล้วผมโดนเลิกจ้างงาน ไม่มีโฆษณา เล่นละครไม่ได้ แล้วพ่อแม่ของผมจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง จะปล่อยให้พวกท่านไปนอนข้างถนนงั้นหรือ” จากนั้นเขาก็บอกว่า “เด็กคนนี้ ไม่ควรเกิดตอนนี้ ถ้าเด็กคนนี้เกิดขึ้นมาในช่วงที่เราไม่พร้อม ผมไม่คิดว่าตัวเองจะรักเด็กคนนี้ได้หรอกนะ”
.
สิ่งที่เขาทำมันคือการแสดง เขาแกล้งร้องไห้ แล้วบอกว่าเดี๋ยวเราก็จะแต่งงานกันแล้ว เขาบอกว่าแผนที่เขาคิดไว้ คือเราจะแต่งงานกันในอีก 4 ปีข้างหน้า แต่จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาจะบีบเวลาการแต่งงานเหลือเป็น 2 ปีข้างหน้า และเขาให้คำสัญญาว่าจะเข้าไปแนะนำตัวกับที่บ้านของฉัน และจะย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป
.
ฉันหลงเชื่อในคำที่เขาพูด ซึ่งฉันก็เสียใจจนถึงวันนี้ ที่ไม่หนักแน่นพอที่จะเก็บเด็กไว้ เพราะถ้าฟังตามเหตุผลของเขา แล้วเราได้มีลูกกันตอนที่ทุกอย่างพร้อม มันก็เป็นอะไรที่สมบูรณ์มาก ฉันเองกลัวว่าจะมีลูกไม่ได้อีก แต่เขาบอกว่า ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวก็มีอีกได้
.
ในวันที่ฉันไปเอาเด็กออก นักแสดง K ไม่ได้มาที่โรงพยาบาลด้วย แต่ส่งเพื่อนสนิทของเขาที่เคยเล่นละครเวทีด้วยกันมาแทน เพื่อแสร้งว่าเขาเป็นพ่อของเด็ก เพื่อให้ตัวเองไม่ถูกผู้คนพบเห็นว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ณ ตอนนั้น ฉันมันช่างโง่เง่า ที่คิดไม่ทัน และยอมเชื่อเขาทุกอย่าง สุดท้ายก็เอาลูกในท้องออกไปจากชีวิต
.
หลังจากที่ฉันทำแท้งเสร็จแล้ว นักแสดง K ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาส่งเงินให้ฉัน 2 ล้านวอน (56,000 บาท) สำหรับค่าโรงพยาบาล และฉันก็ไม่ได้ขอเงินเขามากกว่านี้ด้วย ฉันไม่ได้ขู่ ไม่ได้วิจารณ์ หรือทำอะไรที่จะส่งผลกระทบต่อเขาเลย เพราะฉันกลัวว่าถ้าเปิดเผยความสัมพันธ์ของเราสองคน จะทำให้ชีวิตนักแสดงของเขาลำบากขึ้น
.
แต่ฉันก็อยากให้รู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่โรงพยาบาลมันมีราคาเท่าไหร่ ฉันจึงส่งใบเสร็จไปให้เขาทางแชท และเมื่อเขาเห็นก็เริ่มโมโหใส่ฉัน ถามฉันกลับมาว่า “คุณอยากให้ผมรู้สึกผิดใช่ไหม” คือฉันรู้สึกว่า เฮ้ย เดี๋ยวก่อน ฉันต่างหากที่เป็นคนต้องเจ็บปวดไม่ใช่คุณ จิตใจฉันย่ำแย่ รวมถึงร่างกายที่ทำแท้งก็มีความบอบช้ำอย่างมาก อารมณ์ของฉันขึ้นลงตลอดชนิดหาคำอธิบายไม่ได้ แต่ ณ เวลานั้น นักแสดง K ซึ่งเป็นคนที่ฉันรัก กำลังกล่าวหาฉันว่าเอาเรื่องการทำแท้งมาโจมตีเขา มันไม่ใช่เรื่องเลยสักนิด
.
ณ เวลานั้น เขากำลังเจอปัญหาเรื่องการทำงาน ฉันจึงอดทนและพยายามเข้าใจเขา ทั้งหมดนี้ฉันทำเพราะฉันรักเขาจริงๆ และฉันคิดว่านักแสดง K ก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน ร่างกายของฉันหลังเอาเด็กออก มีผลกระทบอย่างมาก มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ แต่ฉันก็หวังว่า เมื่อนักแสดง K ถ่ายละครเสร็จแล้ว เขาจะรักษาสัญญาว่าเราจะได้อยู่เคียงข้างกันนับจากนี้ และเราจะได้มาอยู่อาศัยที่บ้านหลังเดียวกัน
.
นักแสดง K เป็นคนที่จริงจังมาก ถ้าเป็นเรื่องของการแสดง คนที่อยู่รอบตัวของเขารู้ดี ไม่ใช่แค่จริงจัง แต่เขาจะอารมณ์อ่อนไหวง่ายมาก ซึ่งฉันก็พยายามไม่รบกวนเขา อยากให้เขาโฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์เราเป็นไปลับๆ จนเราคบกันครบ 8 เดือน ถึงตรงนี้เขาก็เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งแรกๆ นักแสดง K ก็ให้คำสัญญากันตลอด ว่าหลังถ่ายละครเสร็จจะพาไปเที่ยวต่างประเทศ และจะมาอยู่บ้านเดียวกัน แต่ในช่วงปลายปี 2020 เมื่อเขามีโฆษณามากมาย เขากลายเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง
.
ความสัมพันธ์ของเรานั้น ฉันจำเป็นต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดี เขาจะตำหนิฉันในเรื่องที่เล็กที่สุด อย่างเช่น ฉันพิมพ์แชทด้วยข้อความที่ไม่ถูกใจเขา คือฉันพยายามไม่ทำให้เขาโกรธ เพราะนี่คือว่าที่สามีของฉัน และเขากำลังจะกลายเป็นคนในครอบครัว
.
ฉันรู้สึกว่าในกองถ่าย บรรดาผู้จัดการส่วนตัว และสไตลิสต์ทั้งหลาย ต่างเอาอกเอาใจเขา ดังนั้นเขาก็เลยคาดหวังการเอาอกเอาใจจากครอบครัวและเพื่อนๆด้วย ซึ่งจากกรณีศึกษาของนักแสดง K ฉันบอกได้เลยว่า ตัวเองจะไม่มีวันคบหากับผู้คนในอุตสาหกรรมบันเทิงอีกแล้วอย่างแน่นอน
.
ภาพลักษณ์ในทีวีของนักแสดง K เขาเป็นคนใจดี ใสสะอาด คุณไม่เคยเห็นเขาพูดหยาบคายออกจอ แต่ในชีวิตจริงเขาพูดจาอะไรแย่ๆ บ่อยมาก เวลาคบกันเขาเป็นคนขู่จะเลิกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเขาชอบสบถ ชอบด่าบ่อยมาก ฉันไม่เคยว่าอะไรเขา แต่เขาจะสวนกลับมาด้วยคำว่า ไอ้เหี้ย (Fuck) และใช้คำแรงๆ ต่อหน้าฉันเลย พฤติกรรมบางครั้งก็ดูเหมือนจะข่มขู่กันด้วย ตรงข้ามกับฉันเอง ที่ไม่เคยพยายามใช้คำพูดทำให้เขารู้สึกแย่เลย
.
เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ แต่ด้วยชื่อเสียง เขาจึงเปลี่ยนไปเร็วมาก แต่ฉันก็พยายามเข้าใจ และรอให้เขากลับมาเป็นคนเดิม หลายๆครั้ง เขาบอกสื่อมวลชนว่า เขาไม่มีแฟน เขาบอกว่าที่ต้องทำแบบนั้น เพราะเซเลบริตี้ก็ไม่เปิดเผยตัวคนที่คบด้วยทั้งนั่นล่ะ จริงอยู่ มันมีหลายครั้งที่เขาขอโทษฉัน โดยบอกว่าที่ต้องโกหกไปในการสัมภาษณ์ แต่ฉันก็เสียใจอยู่ดี
.
คำโกหกที่เขาพูด สักพักมันกลายเป็นเรื่องจริง เพราะแม้แต่หลังไมค์ เวลาเขาคุยกับเพื่อนเซเลบริตี้ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง เขาจะปิดบังเรื่องของฉันไว้หมดเลย ฉันซึ่งเป็นแฟนแท้ๆ ได้แต่ต้องหลบอยู่ในมุมมืด เพื่อรักษาความนิยมของเขาเอาไว้ให้สูงตามเดิม ยิ่งเขาโด่งดังมากขึ้นเท่าไหร่ ได้โฆษณามากขึ้นแค่ไหน ฉันก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉันคือแฟนลับๆ ที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ ตอนนี้ฉันรู้สึกได้แล้วว่า ตัวเองเป็นแค่สิ่งที่ทำให้เขากวนใจ ฉันรู้สึกว่าเขาพยายามเสแสร้งทำเป็นจริงใจกับฉัน แต่ความจริงทั้งหมด เป็นเรื่องโกหกทุกอย่าง
.
หลังจากฉันทำแท้ง สภาพจิตใจของฉันมันย่ำแย่ ถึงขั้นแตกสลาย ฉันรู้สึกว่าตัวเองบอบบางมาก จริงๆ ฉันมีบทสนทนาของเราสองคนมากมาย แต่ฉันขออนุญาตไม่แปะ ลงตรงนี้หรอก เพราะมันอาจทำให้ฉันต้องเจอความลำบากก็ได้ สิ่งที่ขัดแย้งกับภาพอบอุ่นที่ทุกคนเห็นในทีวี เขาเป็นคนที่เย็นชาและไม่มีความภักดีต่อใครเลย เขาเคยไล่ด่าคนที่ทำงานด้วยทุกวัน ซึ่งนี่แหละคือเหตุผลที่เขามีเพื่อนจริงๆ น้อยมาก เขาเคยด่านักแสดงรุ่นพี่ ที่เขาเคยบอกกับสื่อว่าชื่นชม ว่าจริงๆ รุ่นพี่คนนี้ ไม่ได้แสดงเก่งขนาดนั้น
.
เขาเคยด่าละครเรื่องหนึ่ง ว่ามีชื่อละครงี่เง่าที่สุด ใครจะไปดู นอกจากนั้นยังเคยบ่นด้วยว่า ถ้าหากผู้จัดละครไม่เปลี่ยนชื่อให้ดีกว่านี้ เขาจะปฏิเสธไม่ยอมรับบทมันซะเลย เขาบ่นต่างๆ นานา สารพัด ซึ่งฉันคิดว่า ตัวเองไม่มีวันพูดจาลับหลังถึงคนที่ทำงานด้ว
.

ThePOINT #ข่าวบันเทิง #บันเทิงเกาหลี #คิมซอนโฮ #ซีรีส์เกาหลี #HometownChaChaCha