- Advertisement -
หน้าแรก การเมือง เพจเชียร์ลุงป้อม เปิดภาพเอ็กซ์คลูซีฟ!!เบื้องลึก–เบื้องหลังชีวิตของ'พลเอกประวิตร'

เพจเชียร์ลุงป้อม เปิดภาพเอ็กซ์คลูซีฟ!!เบื้องลึก–เบื้องหลังชีวิตของ’พลเอกประวิตร’

เพจเฟซบุ๊ก “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ General Prawit Wongsuwon” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความในหัวข้อ “พี่ป้อม ผู้ ‘รักแม่และชอบชิม‘รบหนักไม่เคยอยู่หลังลูกน้อง“ โดยเป็นเนื้อหาจากหนังสือ“ พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี ”ซึ่งจัดทำขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปี ของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติตั้งแต่ ชีวิตวัยเยาว์ ไลฟ์สไตล์ ช่วงเป็นนักเรียนเตรียมทหาร จนกระทั่งเข้ารับราชการทหาร และเข้าสู่การเป็นนักการเมือง หนังสือดังกล่าวจัดทำขึ้นจากน้องๆ ที่ทำงานด้วยกันมา ต้องการบันทึกเรื่องราวเบื้องลึก–เบื้องหลังชีวิตของ พลเอกประวิตรไว้เป็นหนังสือ
.
เนื้อหาระบุว่า “พี่ป้อม” เป็นทหารมาตลอดชีวิตจึงค่อนข้างเคยชินกับการใช้คำพูดที่ดูโผงผางเสียงดังทำให้ดูเสมือนเป็นคนดุหรือเข้มงวดในเวลาทำงาน แต่ถ้ามีโอกาสสัมผัสชีวิตส่วนตัวของท่านเมื่ออยู่นอกเวลางานแล้ว จะพบว่าเป็นคนอ่อนโยนอารมณ์ดี มีเมตตาใครได้ใกล้ชิดจะรู้สึกสบายใจไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทมิตรสหาย ผู้ใหญ่ ผู้น้อยผู้ใต้บังคับบัญชาและมักจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านเป็นคนที่รักเพื่อนพ้อง ลูกน้อง มีความเป็นผู้นำ เสียสละและเป็นผู้ให้ อีกทั้งเป็นผู้ประสาน สิบทิศที่ทุกองค์การให้การยอมรับ
.
นอกจากนั้นยังเป็นผู้ที่ยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างที่สุด เป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการีอย่างยิ่ง รักครอบครัว รักเพื่อน รักลูกน้อง ชอบเล่นกีฬามันออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบทำบุญชื่นชอบในธรรมชาติ รักงานศิลปะ ชอบทำกับข้าว และมักหาอาหารอร่อยๆให้คนใกล้ชิดรับประทานรวมทั้งมีสุนัขตัวโปรดเป็นเพื่อนเล่นแม้ปัจจุบันจะเข้ามาทำงานการเมืองก็ไม่เคยเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานไปจากเดิม
.
หนังสือ ระบุว่า “พี่ป้อม”เกิดในครอบครัวทหาร มีคุณพ่อรับราชการเป็นนายทหารเหล่าทหารปืนใหญ่ คือ พลตรีประเสริฐ วงษ์สุวรรณ และคุณแม่สายสนี วงษ์สุวรรณ โดยพี่ป้อมเป็นพี่ชายคนโต มีน้องชาย 4 คน เนื่องจากคุณพ่อมีภารกิจต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเป็นประจำ ทำให้คุณแม่สายสนีต้องดูแลลูกๆ ด้วยการหารายได้เสริม จึงต้องขายอาหาร เช่น ข้าวแกง อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้มมัด กล้วยแขก และขนมอื่นๆ ซึ่ง “พี่ป้อม”ต้องทำหน้าที่นำอาหารไปขายหรือส่งให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆทำหน้าที่ลูกชายคนโตของบ้านและพี่ของน้องน้องจ่ายแล้วทำเป็นชื่อพี่ชายที่แสนดีมาตั้งแต่วัยเยาว์
.
“ไม่ว่าคุณแม่จะพูดกับพี่ป้อมอย่างไรหรือในเรื่องอะไรก็ตาม พี่ป้อมจะถือคำพูดของคุณแม่คำไหนเป็นคำนั้นแล้วจะเชื่อฟังและปฏิบัติทุกอย่างที่คุณแม่บอกและอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พี่ปอมเชื่อฟังคุณแม่อย่างยิ่งก็เพราะมาคุณแม่พูดเรื่องอะไรก็ตามก็มักจะถูกเสมอ สิ่งที่พร่ำสอนเสมอคือให้กตัญญูต่อชาติ ต่อแผ่นดิน ต่อพระมหากษัตริย์ และต่อผู้มีพระคุณ อีกทั้งยังสอนในเรื่องของความซื่อสัตย์เสียสละจริงใจต่อมิตรสหาย ไม่เอารีดเอาเปรียบคนอื่นให้รักครอบครัว โดยเฉพาะน้อง ต้องถือเป็นเรื่องสำคัญ”
.
สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็น ถึงความกตัญญูและความรักที่มีต่อครอบครัวคือการที่คงความเป็นโสดมาถึงปัจจุบันซึ่งหลายคนเคยสงสัยว่าทำไมถึงไม่แต่งงาน ซึ่งคนใกล้ชิดเล่าให้ฟังว่า เพราะพี่ป้อมเป็นห่วงว่าจะไม่มีคนดูแลคุณแม่ อดีตว่ากันว่าพี่ป้อมเคยมีแฟนที่เกือบจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่พี่ป้อมเป็นห่วงคุณแม่ กลัวว่า จะไม่มีเวลาให้ท่านอย่างเต็มที่ประกอบกับพี่ป้อมมีชีวิตกับลูกน้อง ตามแนวชายแดนตลอด ทำให้ต้องตัดใจจากการมีชีวิตคู่ มาใช้ชีวิตอยู่กับคุณแม่ “
.
ในหนังสือดังกล่าวยังพูดถึงความผูกพันระหว่าง 3 ป. โดยเฉพาะที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองร้อย ที่กองพันหารราบที่2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ได้มีนายทหารรุ่นน้องสองคนมาพักรวมกันอยู่ที่บ้าน โดยพี่ป้อมจะแนะนำสั่งสอนตลอดจนดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของน้องทั้งสองคนเป็นอย่างดี เป็นคนเข้าครัว ทำอาหารให้น้องทั้งสองคนทานเป็นประจำทำให้พี่น้องทั้งสามคนสนิทกันมาก มีความรักใคร่กลมเกลียว โดยยึดถือพี่ป้อมเป็นผู้ใหญ่ตลอดมา ซึ่งน้องสองคนนั้นคือพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานั่นเอง
.
หนังสือระบุยังระบุถึง “พี่คราม” นายปัฐวาท ศรีสุขวงศ์ เพื่อนนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่คบหากันมากกว่า 60 ปี อีกทั้งครอบครัววงษ์สุวรรณ และครอบครัวศรีสุขวงศ์ สนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการทำบุญที่ “พี่ป้อม”และ “พี่คราม” ต่างก็เดินทางสายบุญด้วยกันมาหลาย สิบปี
.
“พี่ป้อมกับพี่ครามสนิทกันมากเคยไปกินไปนอนที่บ้านใน กองพล ปตอ.เป็นประจำ ไปเตะฟุตบอลด้วยกัน ลอกการบ้านกัน กินข้าวฝีมือคุณย่าหรือคุณแม่สายสนี พี่ป้อมถึงจะตัวเล็กแต่ใจนักเลง ไม่กลัวใคร และมีคุณพ่อเป็นนายทหารก็มักจะช่วยเหลือไม่ให้ใครมาข่มเหงรังแก เมื่อพี่ป้อม มารับราชการทหารก็ให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาหน่วยบ่อยมาก ในเรื่องสวัสดิการและเรื่องต่างๆ..
.
ความผูกพันของเพื่อนทั้งสองคนนี้มีมากจริงๆอย่างตอนที่พี่ครามป่วยจนเดินแทบไม่ได้ พี่ป้อมจะกุลีกุจอถามไถ่น้องๆว่ามีหมอเก่งๆที่ไหน แล้วก็รีบให้ไปติดต่อทันทีและยังช่วยเหลือดูแลด้วยตัวเองจนอาการดีขึ้น สองคนนี้เขารักกันเหมือนพี่น้อง..
.
ในส่วนของไลฟ์สไตล์นั้น หนังสือระบุว่า พี่ป้อมเป็นคนที่มีวินัยดีมากตื่นแต่เช้าเวลา 4.00 น. วิ่งออกกำลังกายจากนั้นก็จะอาบน้ำแต่งตัวรับประทานอาหารเช้าเวลา 5.45 น. ทุกวันและก็จะเข้าที่ทำงานเพื่อทำงานทันที แม้ว่าปัจจุบันขณะดำรงตำแหน่งการเมืองต้องก็ยังตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกายเหมือนเดิม นอกจากนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นพี่ป้อมสายบุญ โดยคนใกล้ชิดเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่ต้องปฏิบัติเป็นกิจวัตร คือ การถวายสังฆทานเป็นประจำและใส่บาตรทุกวันหรือหากวันใดที่ไม่สามารถทำด้วยตัวเอง ก็จะให้คนในบ้านดำเนินการแทน นอกจากนั้นยังเป็นคนที่รักธรรมชาติและศิลปะ
.
ที่สำคัญเป็นคนที่สนใจในเรื่องอาหารการกิน ชอบหาอาหารอร่อยๆให้เพื่อนๆ น้องๆ ได้รับประทาน ร้านที่พี่ป้อมแนะนำการันตีเลยว่าอร่อยจริง ปกติแล้วก็เป็นคนทานง่าย ตอนเช้าจะทานประเภทโจ๊ก หรือข้าวต้ม หรือข้าวราดแกงซึ่งคล้ายกับกับข้าวที่คุณแม่เคยทำให้ทานสมัยเด็กๆ และจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่โปรดปราน ชื่อ “ร้านรสเยี่ยม” อยู่แถวถนนมูลเมืองอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
.
นอกจากนั้นในวันสบายสบายอยู่บ้านก็จะใช้ชีวิตส่วนตัวอยู่ที่บ้านด้วยการแต่งตัวสบายๆ หยอกเล่นกับสุนัขตัวโปรดพันธุ์เชาเชา และด้วยความที่สุนัขพันธุ์เชาเชา มีขนยาวปุกปุย และไม่ถูกโฉลกกับอากาศร้อนในเมืองไทยพี่ป้อมถึงหน้าติดเครื่องปรับอากาศให้ได้อยู่อย่างมีความสุข เรียกว่าพี่ป้อมใส่ใจในทุกเรื่องใส่ใจทุกสุขของลูกน้อง แม้ขนาดสุนัขก็ยังได้รับการใส่ใจขนาดนี้
.
ในส่วนของชีวิตช่วงศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร ด้วยความที่มีบุคลิกที่เป็นคนเมตตา ใจกว้างเสียสละ และเป็นเด็กกรุงเทพฯ จึงเป็นผู้ที่ดูแลเพื่อนพ้องตลอดหรือจะเรียกว่าหัวโจกก็ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะวันหยุดก็จะพาเพื่อนๆที่อยู่ต่างจังหวัดแต่ไม่ได้กลับบ้านมาพักผ่อนที่บ้านพัก คุณพ่อและคุณแม่ของพี่ป้อมจะคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้อิ่มหมีพีมันตลอดเวลา โดยพี่ป้อมจะชวนเพื่อนๆมาเล่นฟุตบอล ในบางครั้งจะพาเพื่อนไปเล่นว่าวที่สนามหลวง และบางโอกาสก็ออกไปเที่ยวกันสนุกสนานแล้วกลับมานอนที่บ้านพล ปตอ.กัน
.
พี่ป้อมในฐานะทหารหนุ่มเมื่อสำเร็จการศึกษาจาก รร.จปร. ได้ออกปฏิบัติงานสนามในพื้นที่ทุรกันดาร และมีปัญหาการก่อการร้าย โดยได้รับมอบภารกิจทำการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในพื้นที่บริเวณเทือกเขาภูพาน เขตรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้หมวดใหม่ได้นำกำลังเข้าทำการลาดตระเวนหาข่าว ซุ่มโจมตี และปะทะผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์หลายครั้ง สามารถจับกุมและยึดอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมเอกสารสำคัญของผู้ก่อการร้ายได้เป็นจำนวนมาก
.
พื้นที่สำคัญที่ต้องการปฎิบัติภารกิจคือพื้นที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตอิทธิพลของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ มีการปะทะอย่างรุนแรง
.
“ในปี 2513 – 2517 พี่ป้อมอาสาเข้าปฎิบัติราชการสงครามในประเทศที่3เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามากภายนอกประเทศเข้ามาในประเทศไทย โดยเข้าไปรบที่ประเทศเวียดนามเป็นเวลาประมาณ 1 ปีเศษ เรื่องนี้พี่ป้อมเล่าให้น้องๆที่จัดทำหนังสือเล่มนี้ฟัง ว่า
.
“ผมออกรบที่เวียดนามตอนนั้นเขาให้ไปประจำที่ไซ่ง่อนเข้าสังกัดในกองพลเสื้อดำ ที่มีพลเอก เสริม ณ นครเป็นผู้บัญชาการกองพลในสมัยนั้น การจะได้เป็นทหารหากจะให้เติบโตก็ต้องผ่านประสบการณ์สงครามก่อน ช่วงนั้นรบกันหนักมาก ยิงกันทุกวัน บริเวณเส้นขนานที่ 17 ทหารฝ่ายเวียดกงวางกับระเบิดเยอะมากเลยน่าจะมีทหารไทยตายไปหลาย 100 คน”
.
จากนั้นในปี 2517 ถึง 2518 แล้วเรามอบหมายให้ปฎิบัติภารกิจปราบปรามผู้ก่อการร้ายฯอีกครั้งในพื้นที่อยู่บ้านห้วยโกร๋น อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่านเขตรับผิดชอบของกองทัพภาคที่3 ทำหน้าที่นายทหารฝ่ายยุทธการ กองพันหารราบเฉพาะกิจที่ 212
.
หรือหนังสือสรุปว่า พี่ป้อมได้ผ่านประสบการณ์การบที่ดุเดือดทั้งในและนอกประเทศด้วยความมุ่งมั่นเสียสละ ไม่ว่าจะเป็นการรบในแบบหรือนอกแบบในฐานะนักรบนิรนาม พี่ป้อมจึงเป็นนายทหารมีประสบการณ์การรบมากที่สุดคนหนึ่ง ที่หลายคนยังไม่ทราบ ทำให้ได้รับความไว้วางใจในการดำรงตำแหน่งผู้กับหน่วยทหารระดับสูงต่อไป
.
หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการบก พี่ป้อม เข้ารับตำแหน่งนายทหารฝ่ายยุทธการ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ โดยเข้าปฎิบัติภารกิจป้องกันประเทศหรือพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ด้านจังหวัดปราจีนบุรีหรือจังหวัดสระแก้วในปัจจุบันตั้งแต่ปี 2522 ถึงปี 2540 ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการกรม ผู้บัญชาการกองพลและผู้จัดการกองกำลังบูรพา ได้นำหน่วยเข้าปะทะกับฝ่ายตรงข้ามและมีบางครั้งที่ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์การคับขันและเสี่ยงภัย เช่นยุทธการบ้านหนองปรือ ยุทธการโนนหมากมุ่น เหตุการณ์บ้านหนองเอี่ยน เหตุการณ์บ้านโอบายเจือน เป็นต้น
.
“ก็หนักหนักทั้งนั้นไม่ต่างกันพลาดไปก็คือตายในทุกพื้นที่ มันไม่มีใครเก่งหรือใครไม่เก่ง ผมยืนยันได้ มันขึ้นอยู่กับยุทธวิธี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น จะบอกว่าตรงนั้นน่ะตรงนี้ไม่หนักไม่มี หรือกำลังมากกำลังน้อยก็คือตายเหมือนกันกระสุนมันก็ไม่ได้ถามว่าคุณชื่ออะไร แล้วจะปล่อยคุณ ช่วงที่ผมอยู่ชายแดนไทยกัมพูชา ก็สู้รบกันดุเดือดมาก
.
ช่วงนั้นผมนอนชายแดนเลยนะ นอนกับลูกน้อง ผมไม่ได้อยู่ที่กองพัน ผมจะอยู่กับกองร้อยข้างหน้าตลอด ผมจะไม่อยู่ข้างหลัง ผมไปกับลูกน้องตลอด จะเดินเลาะชายแดนเดินตามจุดตรวจไปกับลูกน้อง ชีวิตชายแดน มันเป็นอาชีพของเรา และเป็นความภาคภูมิใจของเรา ในการทำงานเพื่อแผ่นดินเกิดอย่างแท้จริง ผมชอบอยู่ชายแดนมากนะ เพราะรู้สึกว่ามันอิสระดี” เป็นคำพูดของพี่ป้อมที่ถ่ายทอดให้น้องๆ ฟัง
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #ประวิตรวงษ์สุวรรณ #บิ๊กป้อม #ลุงป้อม #รัฐบาล

- Advertisement -

Stay Connected

21,427แฟนคลับชอบ

Must Read

‘อนุทิน’ยืนยัน สธ. มีความพร้อม!!รพ.-ยาเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย สนับสนุนในพื้นที่เสี่ยงวิกฤตฝุ่น PM2.5

วันนี้(28 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นpm 2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับความยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในเรื่องของยาเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันpm 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่ที่เสี่ยง และหากกรณีฉุกเฉินปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็สามารถตัดสินใจได้ทันที.นายอนุทิน ระบุว่า ในส่วนของโรงพยาบาลก็มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น...
- Advertisement -

‘ยิ่งลักษณ์’ย้อนภาพสมัยเป็นนายกฯ ลุยช่วยดับไฟป่า ครวญ!!ตอนเด็กอยู่เชียงใหม่ไม่เคยเห็นวิกฤตฝุ่นแบบนี้ จี้รัฐบาลแก้ด่วน

วันนี้(28 มี.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพตนเองสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะปฏิบัติภารกิจร่วมดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมระบุข้อความว่า สมัยเด็กๆ ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ไม่เคยมีฝุ่นเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็แค่ควันไฟธรรมดา แต่ตอนนี้มีเยอะมากไม่ใช่ควันไฟทั่วไปแต่เป็นควันพิษ PM 2.5 ซึ่งทางวิชาการเป็นอันตรายและเป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ไช่เฉพาะในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าห่วงใยคือเด็กๆที่ฝุ่นจะสะสมและเห็นผลในอีก 5-10 ปีข้างหน้า.ดิฉันไม่อยากเห็นเด็กๆ ในอนาคตเป็นโรคทางเดินหายใจ กันหมดเพราะฉะนั้น...

‘โบว์-ณัฏฐา’ซัดอย่าเอา’ประชาธิปไตย’แปะหน้าผาก!!ลั่นประเทศนี้ไม่มีกฎหมายบังคับเลือกได้พรรคเดียว ชี้นายกฯไม่จำเป็นนั่งส.ส.

วันนี้(28 มี.ค.) "โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา"นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความระบุว่า ประเทศนี้ไม่ได้มีกฎหมายว่าเลือกได้พรรคเดียวถึงจะได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยนะคะ ใครเขาไม่ได้อยากเลือกคนที่คุณอยากเลือก ไม่ต้องทำเหมือนเขาเป็นอาชญากร คำว่า “ประชาธิปไตย” มีความหมาย อย่าเอาไว้แค่แปะหน้าผาก.นอกจากนี้ โบว์ ยังโพสต์ด้วยว่า "คำว่า"นายกต้องมาจากส.ส." เหตุผลคือนายกต้องมาจากการเลือกของประชาชน ดังนั้นใครจะเป็นแคนดิเดทนายกให้ประชาชนเลือก แต่ไม่ต้องการเป็นส.ส. ก็ไม่ผิด เหมือนสมัครงาน มีโอกาสก็สมัครเฉพาะในส่วนที่อยากเป็น ส่วนที่ไม่อยากเป็นก็เปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าเป็น...

เกิดอะไรขึ้น!!’ตั๊น จิตภัสร์​’ตัดพ้อ​เส้นทางการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ด้าน’จุรินทร์’เผยยังไม่คุยเจ้าตัว

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก.วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ...

Related News

‘อนุทิน’ยืนยัน สธ. มีความพร้อม!!รพ.-ยาเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย สนับสนุนในพื้นที่เสี่ยงวิกฤตฝุ่น PM2.5

วันนี้(28 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นpm 2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับความยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในเรื่องของยาเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันpm 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่ที่เสี่ยง และหากกรณีฉุกเฉินปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็สามารถตัดสินใจได้ทันที.นายอนุทิน ระบุว่า ในส่วนของโรงพยาบาลก็มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น...

‘ยิ่งลักษณ์’ย้อนภาพสมัยเป็นนายกฯ ลุยช่วยดับไฟป่า ครวญ!!ตอนเด็กอยู่เชียงใหม่ไม่เคยเห็นวิกฤตฝุ่นแบบนี้ จี้รัฐบาลแก้ด่วน

วันนี้(28 มี.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพตนเองสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะปฏิบัติภารกิจร่วมดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมระบุข้อความว่า สมัยเด็กๆ ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ไม่เคยมีฝุ่นเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็แค่ควันไฟธรรมดา แต่ตอนนี้มีเยอะมากไม่ใช่ควันไฟทั่วไปแต่เป็นควันพิษ PM 2.5 ซึ่งทางวิชาการเป็นอันตรายและเป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ไช่เฉพาะในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าห่วงใยคือเด็กๆที่ฝุ่นจะสะสมและเห็นผลในอีก 5-10 ปีข้างหน้า.ดิฉันไม่อยากเห็นเด็กๆ ในอนาคตเป็นโรคทางเดินหายใจ กันหมดเพราะฉะนั้น...

‘โบว์-ณัฏฐา’ซัดอย่าเอา’ประชาธิปไตย’แปะหน้าผาก!!ลั่นประเทศนี้ไม่มีกฎหมายบังคับเลือกได้พรรคเดียว ชี้นายกฯไม่จำเป็นนั่งส.ส.

วันนี้(28 มี.ค.) "โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา"นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความระบุว่า ประเทศนี้ไม่ได้มีกฎหมายว่าเลือกได้พรรคเดียวถึงจะได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยนะคะ ใครเขาไม่ได้อยากเลือกคนที่คุณอยากเลือก ไม่ต้องทำเหมือนเขาเป็นอาชญากร คำว่า “ประชาธิปไตย” มีความหมาย อย่าเอาไว้แค่แปะหน้าผาก.นอกจากนี้ โบว์ ยังโพสต์ด้วยว่า "คำว่า"นายกต้องมาจากส.ส." เหตุผลคือนายกต้องมาจากการเลือกของประชาชน ดังนั้นใครจะเป็นแคนดิเดทนายกให้ประชาชนเลือก แต่ไม่ต้องการเป็นส.ส. ก็ไม่ผิด เหมือนสมัครงาน มีโอกาสก็สมัครเฉพาะในส่วนที่อยากเป็น ส่วนที่ไม่อยากเป็นก็เปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าเป็น...

เกิดอะไรขึ้น!!’ตั๊น จิตภัสร์​’ตัดพ้อ​เส้นทางการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ด้าน’จุรินทร์’เผยยังไม่คุยเจ้าตัว

น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก.วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ...

‘ปิยบุตร’จี้ทุกพรรคฟื้นหลักการ’นายกฯ’ต้องเป็นส.ส.เท่านั้น!!ชงแก้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ชัดเจน

นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "ว่าด้วย นายกฯต้องเป็น ส.ส."ระบุว่า ระบบรัฐสภา ไม่ได้บังคับเสมอไปว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. บางประเทศบังคับ บางประเทศก็ไม่บังคับ แต่โดยทั่วไปแล้ว เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็มักเลือกคนที่เป็น ส.ส. และเป็นคนที่พรรคเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่แน่ๆ ประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภา ล้วนแล้วแต่ให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภาไม่มีอำนาจในเรื่องนี้.กรณีของประเทศไทย ในอดีตที่ผ่านมา ไม่มีรัฐธรรมนูญบังคับไว้...

‘ไพศาล’จับสัญญาณถอย!!ขั้นที่1’บิ๊กตู่’หลังไร้ชื่อปาร์ตี้ลิสต์’รวมไทยสร้างชาติ’

วันนี้(28 มี.ค.) นายรวนักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า สัญญานถอย 1.การเพิ่มค่าตอบแทน แก่ผู้เกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง 3 จำพวก คือ อสม. อบต. และกำนันผู้ใหญ่บ้านนับแสนคน มีภาระต้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายเป็นรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีเงิน จึงกำหนดการจ่ายเพิ่มในปีงบประมาณ 2567 ด้านหนึ่ง สร้างความยินดีให้แก่คน 3...

‘จอม’คอนเฟิร์ม!!’รู้ทันทักษิณภาคพิเศษ’แฉโดย’จตุพร’เป็นความจริง คนใกล้ชิดรู้เต็มอกแต่ไม่กล้าปริปาก

นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ลี้ภัยหนีคดีความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา แชร์คลิปวิดิโอรายการของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ที่พูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ”รู้ทันทักษิณ” ภาคนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจและมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก มากกว่าภาคแรก โดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เพราะคนที่ออกมา รู้ทัน คือข้างกายคนสำคัญที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณทักษิณมานานหลายปี.ขณะที่บุคคลที่ออกมารู้ทันทักษิณภาคแรก ล้วนเป็นคนไกลตัวทักษิณ...

‘สมศักดิ์ เจียม’จับโป๊ะ!!’ทักษิณ’แค่เริ่มก็โกหกแล้ว ย้อน’ภูมิธรรม’นึกถึงภาพสมัยออกทีวียัน’ไม่เหมาเข่ง’

จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธไม่มีดีลลับยอมให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยระบุว่า ตอบ วิรัช "เรื่องยกตำแหน่งนายกฯ ให้ป้อม" 1. ผมไม่ได้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทย 2. ผมไม่เคยสื่อสารกับคุณวิรัชมานานมากแล้ว อีกทั้งไม่เคยคุยกับ พล.อ.ประวิตร มา 17 ปีแล้ว 3....

‘ก้าวไกล’ปูดแหล่งข่าวฝังตัวในชุมชนแจ้งพบ’หัวคะแนน’ขยับซื้อเสียงหนัก!!โดยเฉพาะเขตกระแสพรรคมาแรง

วันนี้(27 มี.ค.) ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหัวคะแนนในพื้นที่ ที่เริ่มวางแผนซื้อเสียงอย่างเป็นระบบแล้วในขณะนี้ ตนได้รับแจ้งจากประชาชนภายในชุมชนต่างๆ ในเขตลาดพร้าว และบึงกุ่มมามากขึ้น ว่าในชุมชนต่างๆ เริ่มมีการเดินสายพบปะกับหัวคะแนนเพื่อจัดเลี้ยงและให้เงินกันแล้ว ตอนนี้มีการขยายเครือข่ายหัวคะแนนใหม่ๆ เกิดขึ้น ยิ่งหาได้มากยิ่งได้เงินเพิ่มจากคนที่นำเงินมาให้ และเริ่มมีการเช็คยอดหัวคะแนนในเครือข่ายกันอย่างคึกคัก คาดได้ว่าจะนำไปสู่การตระเตรียมซื้อเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย.ร.ท.ธนเดช ระบุว่า แหล่งข่าวของตนระบุว่าตัวเลขล่าสุดในตอนนี้ อยู่ที่หัวละ...

‘ทักษิณ’ดิ้นโต้!!ดีลลับยกเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ให้’บิ๊กป้อม’ลั่น’เพื่อไทย’ไม่ได้โง่

จากกรณีกระแสข่าวมีดีลลับระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคเพื่อไทย(พท.) ว่าจะมีการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี กระทั่งต่อมานายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่า แม้แต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังยอมให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 นั้น.ล่าสุด นายทักษิณ...

‘อนุทิน’ปลื้มกระแส’ภูมิใจไทย’พุ่ง!!สวนทาง’ชูวิทย์’ เดินหน้าจองเวร ชี้ให้รอผลเลือกตั้งหลังสะพัดดีลลับ’บิ๊กป้อม-ทักษิณ’

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงโอกาสการร่วมรัฐบาลหลังมีกระแสข่าวดีลลับ การจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ได้รับทราบในเรื่องดังกล่าว แต่ได้อ่านจากข่าวอยู่เหมือนกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆในเรื่องนี้ ขอให้รอผลการเลือกตั้งดีที่สุด หลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง.เมื่อถามถึงกรณีที่นำแกนนำพรรคภูมิใจไทยร่วมรับประทานอาหารกับพลเอกประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อถึง 2 ครั้ง มีการพูดคุยเรื่องดีลทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน...

‘วิชาญ’ยิงถามตรง’เอกนัฏ’นอกจากใช้กระแส’ลุง’ประเมินส่งส.ส.เขตเหมาะสมกับพื้นที่หรือไม่??เตือนไม่ง่ายจับเสือมือเปล่า ชี้หลายพื้นที่มาถูกทางยกชลบุรีส่งคนรุ่นใหม่เข้าใจปัญหา

นายวิชาญ อาฮูยา นักวิชาการอิสระ ระบุว่า วันนี้เหลืออีก 7 สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่วันเลือกตั้ง ต้องยอมรับวันนี้ กระแสลุงตู่ ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ นั้นมาแรงที่สุดในฝ่ายอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะโพลล่าสุด มาเป็นอันดับ 3 คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อและเขต ในกทม. ส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติคงต้องยิงคำถาม ไปถึง เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ คุณขิง เอกนัฏ...

น่ากลัวมาก!!ชี้การเมืองดุเดือด สภาพ’บิ๊กตู่’ถูกรุมกินโต๊ะ นั่งดูคนอื่นแอบจับมือฟอร์มรัฐบาลล่วงหน้า

วันนี้(27 มี.ค.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า น่ากลัว ภาพการต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ละฝ่ายงัดกลยุทธทุกอย่างบรรดามีออกมาประเคนสร้างคะแนนนิยมและทำลายคู่ต่อสู้กันอย่างเต็มที่ นอกจากระบบหัวคะแนน  คะแนนจัดตั้งที่พรรคใหญ่มีอยู่ในมือแล้ว พรรคใหญ่ๆยังอาศัยสื่อขี้ข้า สื่อมือปืนรับจ้าง สำนักโพลที่จะเขียนเชียร์ว่าคนนี้คือนายกในฝัน พรรคที่จะชนะแลนด์สไลด์.ที่ว่านี้ พรรคของลุงตู่นับว่าอ่อนด้อยที่สุด เนื่องจากเป็นพรรคใหม่สดซิง บุคคลากรของพรรคแม้จะเคยเป็นอดีต สส.มาบ้าง แต่ประสบการณ์ในการนำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งเหมือนมือใหม่หัดขับ ความเขี้ยวความจัดเจนมีน้อยกว่าพรรคอื่นๆอยู่หลายขุม สภาพคือการชูลุงตู่...

‘ภูมิใจไทย’พลิกมิติใหม่การศึกษา!!ดันตั้ง’สถาบันพัฒนาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ’ยกระดับเรียนออนไลน์มีคุณภาพ

ดร.กมล รอดคล้าย คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูป และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบาย“การจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ (Online)” โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอนโยบายการจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยมองว่าช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องของการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียม สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทุกที่ ทุกเวลา มีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก...

‘ศิธา’ฮึ่ม!!จี้’เพื่อไทย’เอาให้ชัด ไม่หนุนทุก’ลุง’เป็นนายกฯ เตือนรัฐบาลสูตรไขว้ข้ามขั้วปชช.ไม่ทนแน่

วานนี้(26 มี.ค.) น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) กล่าวในเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ไทยสร้างไทย โดยระบุว่า จุดยืน จุดแข็ง และจุดขายของพรรคไทยสร้างไทย คือ เราจะไม่พายเรือให้ทหารที่เคยปล้นอำนาจประชาชน ฉีกรัฐธรรมนูญ กลับมาขึ้นฝั่ง แต่เราจะเอาลุงไปลอยทะเล เพราะลุงทำงานแบบชุ่ยๆ เอาคนไปขังแบบชุ่ยๆ บังคับใช้กฎหมายแบบชุ่ยๆ ใครไม่อาย ผมอาย รับไม่ได้ที่จะให้เป็นผู้นำประเทศต่อไป.วิชามารในรัฐธรรมนูญวันนี้...
- Advertisement -