นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ว่า การเยือนครั้งนี้เป็นการแสดงท่าทีของประเทศไทยที่สวนทางกับประชาคมโลก ซึ่งร่วมกันประณามและแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนของเมียนมาหลังทำการรัฐประหาร
.
นอกจากนี้ยังเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ กล้าไปประกาศในเวทีโลกว่าจะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อสหประชาชาติ แต่ความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศคือประชาชนถูกไล่ล่าปราบปรามจับกุมผู้ชุมนุมจนมีนักโทษทางความคิดจำนวนมากถูกจองจำไร้อิสระภาพ ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว พลเอกประยุทธ์ จึงเป็นได้แค่ผู้นำรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ไร้จุดยืนด้านประชาธิปไตยเท่านั้น
.
นางสาวชญาภา ระบุอีกว่า การเยือนเมียนมาครั้งนี้รัฐบาลไทยยังหอบหิ้วเอาสิ่งของไปบริจาคเชื่อมสายใยเผด็จการถึง 17 ตัน จึงอยากทราบว่าในสิ่งของเหล่านั้นมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือไม่ หากเป็นวัคซีนก็คงต้องตั้งคำถามถึงการกระทำครั้งนี้ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะยังมีคนไทยอีกหลายล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
.
- Advertisement -