เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำทะลุฟ้า พร้อมด้วย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางยื่นมาหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีนโยบายคืนสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ภายหนังจากที่น.ส.เนติพร หรือบุ้ง กลุ่มทะลุวัง เสียชีวิตระหว่างคุมขัง โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักเคลื่อนไหวดังกล่าว มีการนำโปสเตอร์นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ เกี่ยวกับสิทธิในการประกันตัวของผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง โดยให้ใช้รัฐสภาเป็นกลไกคืนความเป็นธรรมให้เหยื่อคดีทางการเมือง รวมถึงมีการเปิดภาพบันทึกเทปโทรทัศน์ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มีการพูดถึงนโยบายการปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมือง มาจัดกิจกรรมด้วย
โดย น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า รู้สึกกังวลว่าโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ จะไม่เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุไว้ว่าจะเก็บภาพในกล้องวงจรปิดไว้เพียง 3 วันเท่านั้น ขอตั้งคำถามถึงขั้นตอนกู้ชีพของ น.ส.เนติพร และรู้สึกเสียใจที่การสูญเสียของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้นในรัฐบาลนายเศรษฐา
จากนั้นตัวแทนได้อ่านแถลงการณ์ โดยได้มีการยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ 1.เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพรให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจนโดยเร็ว 2.ให้ผู้ต้องขังที่คดียังไม่ถึงที่สุด ได้รับสิทธิในการประกันตัว 3.ชะลอการดำเนินคดีการจับคุมขังบุคคลในคดีการเมืองจนกว่าจะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงสั่งไม่ฟ้อง ไม่ยื่นคำร้องไม่ยื่นอุทธรณ์ ไม่ฎีกา ถอนคำร้องถอนอุทธรณ์และถอนฎีกา ในคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และ 4.เร่งรัดกันออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนทุกฝ่าย ทุกข้อหา ที่มีมูลเหตุมาจากคดีทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมได้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วหวังว่าจะไม่มีบุคคลใดจะต้องเสียชีวิต และทุกๆ คนจะได้รับสิทธิในการประกันตัวและสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง ขณะเดียวกันทางกลุ่มจะมาติดตามข้อเรียกร้องอีกครั้งในวันที่ 21 พฤษภาคม
ด้านนายสมคิด กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลเสียใจ และเกินกว่าคำว่าเสียใจ ยืนยันว่ารัฐบาล ไม่ได้ก้าวล่วงฝ่ายตุลาการ ส่วนรายละเอียดทุกท่านทราบอยู่ว่ากรณีที่ถูกถอนประกันเพราะอะไร สิ่งเหล่านี้ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็คุยกันว่าไม่สบายใจ นอกจากนี้ ที่มีการตั้งคำถามว่าการศึกษา พ.ร.บ. นิรโทษกรรมถูกขยายออกไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะเสร็จในฐานะที่เป็นโฆษกกรรมการชุดนี้ บ่ายวันนี้ก็จะมีการประชุม และยืนยันว่าไม่ได้มีความล่าช้าแต่ขณะนี้อยู่ในการปิดสมัยประชุมสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุว่าการนิรโทษกรรมไม่รวมผู้ต้องหาในคดี ม.112 และ ม.110 นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด แต่มีกรรมาธิการส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นความคิดของบุคคล ไม่บอกว่าพรรคใดคัดค้าน ที่จะเอาฐานคดีใน ม.112 มาด้วย แต่ยังไม่มีการพูดคุยในรายละเอียดในแนวทาง ตนเองเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย
นายสมคิด กล่าวว่า อีกว่าเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยไม่พูดถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเลย หลายพรรคก็มาด่า เพราะพรรคเพื่อไทยมีบาดแผลจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มันเจ็บปวดมาแล้ว ถ้าบอกว่าเห็นด้วยกับ ม.112 ฝ่ายที่ไม่ชอบก็จะบอกว่า เห็นหรือไม่ทำเพื่อนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เราพูดไม่ได้ เพราะจุดนี้ แต่เสียงว่าอย่างไร เราเอาด้วย เราไม่คัดค้าน เอาเสียงส่วนมากว่าอย่างไร เราก็เอาด้วย วันนี้พรรคเพื่อไทยเสนอให้ศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อให้ทุกฝ่ายตกผลึกให้เร็วขึ้น ถ้าหากปล่อยแต่ละฝ่ายไป ก็จะไม่จบ วันนี้เราเชิญทุกฝ่ายมา แต่จะจบแน่นอนก่อนสภาเปิด
เมื่อถามถึงรายละเอียดที่เรียกร้อง นายสมคิด กล่าวว่า ได้ตกลงกับแกนนำแล้วว่าวันอังคารหน้า ขอให้มาทวงถามในรายละเอียดได้ ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ขอยืนยันว่าเกินกว่าที่จะบอกว่าเสียใจที่คนเสียชีวิต พูดไม่ออก มันจุกอก เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้มีความสบายใจ และก็จะเดินเรื่องนี้ต่อ และพึ่งวางโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ว่า หากรับเรื่องแล้วให้แจ้งว่าจะเอาอย่างไรต่อ ซึ่ง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมอยากให้เสร็จภายในปีนี้ด้วยความตั้งใจจริง ไม่ได้ต่อเวลาเพราะอะไร และขณะนี้อาจารย์ยุทธพร อิสระชัย กำลังเคลียร์คดี ฐานความผิด เพราะฉะนั้นเราจะเอาไปทั้งหมด ส่วนรายละเอียดเรื่อง ม.112 ยังไม่ได้คุย ยืนยันว่าถ้าคุยก็ยังไม่จบ ต้องเอาคดีฐานใหญ่ๆออกไปก่อนผิดพ.ร.บ.ชุมนุม จะต้องได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด จึงอยากเรียนทุกคนที่มาว่าผู้แทนรัฐบาล เราตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้