หน้าแรกการเมือง‘เศรษฐา’ควง‘อุ๊งอิ๊ง’แต่งธีมวินเทอร์เปิดงาน Thailand Winter Festivals ประกาศเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายปีของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

‘เศรษฐา’ควง‘อุ๊งอิ๊ง’แต่งธีมวินเทอร์เปิดงาน Thailand Winter Festivals ประกาศเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายปีของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.66 ที่ตึกสันติไมตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการแถลงข่าวและพิธีเปิดงาน Thailand Winter Festivals โดยก่อนเริ่มงาน นายกรัฐมนตรี ได้เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยนายเศรษฐาได้สวมสูทสีเบจ เนคไทสีเหลือง พร้อมผ้าพันคอย้อมคราม โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “วันนี้สวมผ้าพันคอให้เข้ากับธีมงาน Winter นิดหน่อย โดยผ้าพันคอผืนดังกล่าวคุณอิ๊ง (น.ส.แพทองธาร) เป็นคนนำมาให้”

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ได้สวมเสื้อโคทผ้าไหมไทย พันคอด้วยผ้าย้อมคราม พร้อมเปิดเผยว่า จำไม่ได้ว่าเป็นผ้าไหมจากจังหวัดไหน แต่คาดว่าเป็นผ้าไหมที่มาจากภาคอีสาน ซึ่งวันเดียวกันนี้ได้นำผ้าพันคอ ซึ่งเป็นผ้าย้อมครามจากจังหวัดสกลนครมามอบให้กับท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อสวมใส่เพื่อเข้ากับธีมงานในวันเดียวกันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานได้มีคณะรัฐมนตรีอาทินาย ภูมิธรรม เวชชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงศ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ร่วมงาน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้จนไปถึงสิ้นปีจะมีอีเวนท์เทศกาลต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทยกว่า 3,000 งาน และเทศกาลที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นคือ ประเพณีลอยกระทง ที่จะจัดขึ้นจัดอย่างยิ่งใหญ่จะจัดขึ้นที่จังหวัดสุโขทัย แต่ไม่ว่าจะจัดงานที่ไหนก็สวยงามเป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลก และเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทย

รองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า ส่วนเทศกาลช่วงปีใหม่จะมีการจัดงาน countdown พร้อมกันทั่วประเทศกว่า 70 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลอาหาร บันเทิง กีฬา ศิลปะต่างๆ แม้จะเป็นกิจกรรมเดียวกันแต่จัดในที่ที่แตกต่างกัน ก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันเราจะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายปีของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“โดยงานเทศกาล winter festival จะเป็นเครื่องมืออีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่ประเทศไทยมากขึ้น ให้คนทั่วโลกมาตัดสินใจใช้เงินในประเทศไทย และ winter festival จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นฮับดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ วันนี้รัฐบาลเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในการเดินหน้าวัฒนธรรมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ในทุกด้านให้ประเทศไทยเป็นที่จดจำและมีตัวตนในแผนที่โลกอีกครั้ง” น.ส.แพทองธารกล่าว

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ผ่านสื่อประเทศจีน ว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากให้มาเที่ยวที่ประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีวัฒนธรรมหลายอย่างที่คล้ายกับจีน และเรามีความสัมพันธ์อันดีกันมาช้านาน อีกทั้งประเทศไทยมีความปลอดภัย อาหารอร่อย ทุกคนพร้อมต้อนรับคนจากทุกประเทศ

เมื่อถามว่า งานไทยแลนด์วินเทอร์เฟสติวัล จะช่วยผลักดันซอฟต์เพาเวอร์อย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ผลักดันแน่นอน เพราะแต่ละอีเวนท์ แต่ละเทศกาลแฝงไปด้วยอาชีพที่จะเกิดใหม่มากมาย และเพิ่มโอกาสให้กับประชาชน ให้สามารถผลักดันเศรษฐกิจภาพรวมประเทศไทยทุกพื้นที่ได้อย่างแน่นอน

ขณะที่นายชัชชาติ กล่าวว่าการจัดงานในส่วนของกรุงเทพมหานครไม่ใช่เป็นการจัดงานแบบอีเวนท์แต่เป็นลักษณะของ Peoples festival ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนได้ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครซึ่งมีการกิจกรรมหลากหลายโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปลายปี ภาครัฐ มีส่วนในการนำพื้นที่สาธารณะมาเปิดให้ประชาชนทำกิจกรรมต่างๆ ก่อให้เกิดความสนุกสนาน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับหลายพันล้านบาท และ เป็นการเชื่อมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และซอฟต์พาวเวอร์ โดยส่วนของกรุงเทพฯ เบื้องต้น จะมี 11 เทศกาล เริ่มจากเทศกาลลอยกระทง วิ่งมาราธอน ระดับโลก และงานเทศกาลดนตรีในสวน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า ในนามของกระทรวงวัฒนธรรม ขอส่งความสุข และต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกที่จะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อชมขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ที่สวยงาม และร่วมสร้างสีสันแห่งความสุข เป็นความทรงจำที่ดี โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานเยี่ยมยลชมวัง เพื่อสักการะศาสนสถานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระพุทธสิหิงส์ รวมไปถึงการร่วมเทศกาลลอยกระทงกับบรรยากาศย้อนยุค ชวนแต่งชุดไทยไปลอยกระทงที่วัดอรุณราชวรารามฯ พร้อมชวนชมความงดงามของโบราณสถานยามค่ำคืนที่อุทยานประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น วัดไชยวัฒนาราม อยุธยาฯ อุทยานประวัติศาสตร์ กำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย นครราชสีมา

“ตั้งแต่ 9 ธ.ค.66 ต่อเนื่องถึง 6 ม.ค.ปีหน้า กระทรวงวัฒนาธรรมจะเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานแห่งชาติทุกแห่ง ทั่วประเทศ ฟรี” รมว.วัฒนธรรม กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่จะมีงาน Thailand Winter festivals และ colorful Bangkok winter festivals เรามีเป้าหมายที่จะทำให้งานทั้งสองงานเป็นหนึ่งในกลไกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เลือกที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะเทศกาลที่มีมากกว่า 3,000 งานและกว่า 200 งานที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ทั้งหมดมีความหลากหลายด้านศิลปะ อาหารดนตรี กีฬา และแสงสี รวมถึงงานประจำปีอย่างครบถ้วน

นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพในการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และยังมีนโยบายอื่นที่จะสนับสนุนจะมีการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเช่นสนามบินที่กำลังจะเกิดขึ้นที่อันดามัน และนโยบายเรื่องวีซ่าฟรีที่ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องการสร้างพลังอำนาจในการดึงดูด การสร้างวัฒนธรรม คุณค่าทางการเมือง ให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งไม่มีทางลัด ไม่มีสูตรสำเร็จ และไม่มีทางง่ายต้องใช้เวลา กว่าที่เราจะสร้างอีโคซิสเต็มส์ให้แข็งแรงต่อทุกอุตสาหกรรม แต่หากไม่เริ่มต้นจะไม่มีทางเกิดขึ้น รัฐบาลได้เริ่มต้นอย่างจริงจัง พร้อมระดมทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมมาร่วมวางแผนเพื่อพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไปด้วยกัน

“วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมิติใหม่ที่จะเปิดโอกาสเปิดพื้นที่เปิดความฝันของคนไทย ที่จะเป็นผู้นำสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้มีพลังทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว

Thepoint #Newsthepoint

เศรษฐา #อุ๊งอิ๊ง #หน้าหนาว #นักท่องเที่ยว

Must Read

Related News

- Advertisement -