วันที่ 12 กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ออกแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนให้แจ้งความดำเนินคดีกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ประชาชนถูกละเมิดสิทธิ ไม่ได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเรียกร้องให้ทุกคนนำใบเสร็จจากการซื้อหน้ากากอนามัย การตรวจรักษาหรือที่ไปจ่ายค่าวัคซีน ไปแจ้งความต่อที่สถานีตำรวจนั้น โดยนายเสกสกล ระบุว่า ไม่แปลกใจว่าทำไม พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ จึงออกมากระทำการเช่นนี้ หลังจากที่เงียบมานาน ก็เพราะต้องมาเกาะกระแส พลอยไปกับฝ่ายค้าน อื่นๆที่ออกมาด่าโจมตีนายกฯและรัฐบาลทุกวัน ให้สมกับการเป็นฝ่ายค้าน ไม่เช่นนั้นก็จะตกขบวน
.
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ถือเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาเยอะ ก็น่าจะเข้าใจถึงสถานการณ์วิกฤตโควิดในขณะนี้ดี สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในขณะนี้ หลายประเทศทั่วโลกต้องประสบพบเจอกันทั้งนั้น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ลองแหกตาดูว่าต่างประเทศมีผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตเท่าไหร่แล้วประเทศไทยเท่าไหร่ ที่ผ่านมาท่านนายกฯไม่เคยนิ่งเฉย ประชุมกันทั้งวันทั้งคืนเพื่อหาทางที่จะควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดให้ได้ แต่เนื่องจากเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอด เราก็ต้องต่อสู้กับมันให้ได้
.
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เป็นถึงอดีตผบตร. อยากให้มีความคิดและรับผิดชอบต่อประเทศชาติประชาชนมากกว่านี้ อย่าออกมาพูดจาเพื่อให้สะใจตัวเองเท่านั้น หรือเพียงแค่ต้องการอยากเป็นรัฐมนตรีหรือต้องการมีอำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของพวกตนเอง ใช้อคติส่วนตัวที่คิดจะจ้องล้มรัฐบาลให้ได้ ตามความต้องการของพรรคฝ่ายค้านเช่นนั้นใช่ไหม จนตอนนี้หลายคนเบื่อหน่าย ไม่ให้ค่า ไม่ให้ราคาอะไรกับพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว ฝ่ายค้านก็ยังไม่รู้สึกตัวอีก
.
“ไม่มีใครที่จะบ้าจี้ไปตามพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ แน่นอนที่ได้ออกแถลงการณ์ในภาวะวิกฤตที่ต้องปกป้องชีวิตให้ปลอดภัยจากไวรัสโควิด ควรที่จะหยุดเพ้อเจ้อแล้วหันมาช่วยเหลือประชาชนร่วมไปกับรัฐบาลดีกว่า หยุดเรื่องการเมืองไว้ก่อน อย่าให้ประชาชนต้องเอือมระอาอดีตวีรบุรุษนาแกไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นเส้นทางการเมืองคงมืดดับสำหรับพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์”นายเสกสกล กล่าว
.
