วันที่ 3 ส.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า จับตา กมธ. รัฐธรรมนูญ เมื่อประธานไพบูลย์ ปิ๊งไอเดียตั้งคณะย่อยรวบรัดงาน หวังลักหลับสอดไส้ร่างที่ตกไปแล้วเร่งส่งสภาใน 10 วัน วันพรุ่งนี้ (4 สิงหาคม 2564) คณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องระบบการเลือกตั้งจะกลับมาประชุมกันอีกครั้ง แต่ก่อนอื่นผมต้องแจ้งให้กับพี่น้องประชาชนทราบว่าขณะนี้มีความพยายามที่จะตั้ง”คณะทำงาน” ชุดย่อยขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเพื่อรวบรัดกระบวนการพิจารณา โดยเป็นความริเริ่มจากประธานกรรมาธิการ คุณไพบูลย์ นิติตะวัน จากพรรคพลังประชารัฐ
.
ในการประชุมครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ (วันที่ 6 กรกฎาคม 2564) ที่ประชุมยังคุยค้างกันอยู่เลยว่าแนวทางการทำงานจะเป็นอย่างไร อำนาจหน้าที่ในการพิจารณาของกรรมาธิการมีมากน้อยเพียงใด การแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นไปตามหลักการของร่างฉบับประชาธิปัตย์ที่ผ่านวาระแรกเข้ามาจะแก้ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งภายในคณะกรรมาธิการเองก็ยังเห็นไม่ตรงกัน ยังหาข้อสรุปในคราวนั้นไม่ได้
.
แต่คุณไพบูลย์กลับตัดบทเสนอจะให้ตั้งคณะย่อยขึ้นมายกร่างข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จกันภายใน 5 วัน แล้วเอามาให้กรรมาธิการลงมติในวันที่ 10 สิงหาคม ให้เสร็จภายในวันเดียว เพื่อที่จะส่งสภาใหญ่ให้ได้ในวันที่ 13 สิงหาคม
.
เรื่องระบบการเลือกตั้งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิออกเสียงของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 51 ล้านคนทั่วประเทศ อันที่จริงสมควรให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยซ้ำว่าควรแก้ระบบเลือกตั้งเป็นอย่างไรจึงจะสะท้อนเจตนารมณ์ของพวกเขาได้ดีที่สุด (ซึ่งคณะกรรมาธิการชุดนี้ก็ไม่ได้ทำ) หรืออย่างน้อยตามที่ ส.ส. <ธีรัจชัย พันธุมาศ> กรรมาธิการจากพรรคก้าวไกลอีกท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่าการแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้มีเพียง 2 มาตราเท่านั้น ก็ควรให้กรรมาธิการทั้งคณะได้ทำหน้าที่แสดงความเห็นในรายละเอียดให้รอบด้านโดยไม่ต้องไปตั้งคณะย่อยเพิ่มอีก
.
แต่ปรากฏว่าคุณไพบูลย์ตัดสินใจมาเรียบร้อยเรื่องจะตั้งคณะย่อย โดยที่กรรมาธิการหลายท่านรวมถึงจากพรรคก้าวไกลทั้ง 3 คนไม่เคยร่วมรับรู้และเห็นชอบมาก่อน แสดงอาการลุกลี้ลุกลนขนาดนี้ย่อมเกิดข้อกังขาถึงความมีลับลมคมใน ย่อมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่านี่คือการลักหลับเพื่อฉวยโอกาสสอดไส้เนื้อหาบางอย่างเข้ามาผ่านช่องทางคณะย่อยหรือไม่
.
ผมสังหรณ์ใจว่าเมื่อเปิดให้มีการตั้งคณะย่อยไปทำงานกันเองแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นร่างแก้รัฐธรรมนูญแบบกลายพันธุ์ที่ไปเอาเนื้อหาแบบเดียวกับร่างฉบับที่ตกไปแล้วในวาระที่ 1 กลับเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับไม่เคารพในกระบวนการสภา ทำให้ที่เคยพิจารณารับหลักการกันมาไม่มีความหมายอะไรเลย
.
ด้วยเหตุนี้ทั้งผมและพรรคก้าวไกลจึงไม่อาจยอมรับได้ และขอคัดค้านทั้งความพยายามลักหลับตั้งคณะย่อยมารวบรัดการแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องสำคัญ และความพยายามสอดไส้เนื้อหาการแก้รัฐธรรมนูญที่ตกไปแล้วกลับมา เราไม่สามารถยอมให้กระบวนการแก้กฎหมายสูงสุดของประเทศและแก้ระบบในการใช้สิทธิออกเสียงขั้นพื้นฐานที่สุดของระบอบประชาธิปไตยถูกกระทำตามใจชอบของใครบางคนบางกลุ่มได้
.
- Advertisement -