นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ลงพื้นที่ช่วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่-จตุจักร เบอร์ 2 พรรคกล้า หาเสียงเลือกตั้งภายในมณฑลทหารบกที่ 11 บริเวณตลาดและบ้านพักของกำลังพล โดยมีทหารมาอำนวยความสะดวก และมีเจ้าหน้าที่ กกต. มาร่วมสังเกตการณ์ นายกรณ์ ขอให้ตัดสินใจเลือกคนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ ให้ดี นายอรรถวิชช์ แม้เป็นผู้บริหารพรรค แต่ตัดสินใจมาลงสมัครเอง มีเหตุผล เพราะนายอรรถวิชช์ เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม และให้ความสำคัญเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้
.
นายกรณ์ ระบุว่า พรรคกล้าอยากส่งสัญญาณ ว่า เราต้องการการเมืองคุณภาพ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าพี่น้องชาวทหาร อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ถ้าการเมืองต้องดี มีคุณภาพ ทุกคนก็มีโอกาสทำมาหากินได้ แต่วันนี้การเมืองไม่ดีพอ และสงสาร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บริหารงานด้วยความยากลำบาก ทั้งภายในพรรค และในสภาฯ ก็ทะเลาะกันเอง แม้กระทั่งการไปสร้างสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แทนที่จะให้กำลังใจ ดังนั้นการเมืองต้องเปลี่ยนไปทีละก้าว
.
“ขอฝาก นายอรรถวิชช์ พรรคกล้าด้วย สำหรับบรรยากาศหาเสียงวันนี้แม้คนจะไม่มาก แต่ถือว่าดีมาก การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคกล้ามั่นใจ และตอนนี้ก็กระแสดี เหลือผู้ท้าชิงหลักๆ 2 พรรค เท่านั้น”หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว
.
ด้าน นายอรรถวิชช์ ขอบคุณทหารที่อนุญาตให้เข้ามาพูดเรื่องประชาธิปไตย และส่วนตัวคุ้นเคยกับทหารดี สมัยที่เป็นผู้แทนอยู่เขตพญาไท ซึ่งมีค่ายทหารเช่นกัน ” วันนี้ รู้สึกอบอุ่น ทหารตอบรับดี เปิดกว้าง ซึ่งพรรคกล้าตั้งขึ้นมาเพื่อเอาใจเยาวชนรุ่นใหม่ ให้เข้าใจปรัชญาปฏิบัตินิยมในการลงมือทำ ดังนั้นการเมืองคุณภาพจะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทุกคน”
.
นายกรณ์ ยังระบุถึงบรรยากาศการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนในพื้นที่ตื่นตัวมากขึ้น ซึ่งในวันอาทิตย์นี้จะเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญ โดยทางพรรคพยายามสื่อสารมาโดยตลอดว่าการเลือกตั้งซ่อมไม่ใช่การเปลี่ยนรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี และถือว่าเป็นก้าวสำคัญของประเทศที่จะทำให้การเมืองไทยนั้น เป็นการเมืองที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะสภาฯ นี้ตามข่าวที่ปรากฎอยู่ทุกวัน ทำให้ประชาชนนั้นรู้สึกสิ้นหวัง
.
นายกรณ์ ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสของประชาชน สำหรับคนที่ส่งสัญญาณว่าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เลือกส.ส.ที่มีคุณภาพเข้าไปทำงานแทน ซึ่งตนนั้นมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาประชาชนจะเห็นความแตกต่างของแต่ละพรรค ในแง่ของส.ส.ของพรรคกล้า ที่ได้เสนอนายอรรถวิชช์ ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค
.
ขณะที่การปราศรัยใหญ่ของพรรคกล้า ที่เคหะท่าทราย ในวันที่28 มกราคมนั้น ก็ถือเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง และจะมีกรรมการบริหารพรรคออกมาเสนอแนวทางและนโยบายของพรรคให้กับประชาชนได้รับทราบ ซึ่งคิดว่าพรรคทำงานอย่างสร้างสรรค์มาโดยตลอด ในฐานะที่เป็นพรรคใหม่ก็ต้องทำงานให้ขยันกว่า พรรคที่มีอยู่แล้ว อย่างการลงพื้นที่ในวันนี้ได้มีการกระจายคนไปยังจุดต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนนั้นตื่นตัว
.
นายกรณ์ ยังเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคมนี้ เพราะเป็นทั้งสิทธิ์และหน้าที่ ที่จะออกมาเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดเข้าไปทำงานในสภาฯแทนประชาชนได้ เนื่องจากครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ทั้งประเทศ ว่าประชาชนในพื้นที่จะส่งสัญญาณอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างไร จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาแสดงพลังกันให้มาก
.
นายกรณ์ ยังระบุถึงบรรยากาศการปราศรัยหาเสียงภายในมณฑลทหารบกที่ 11 เมื่อวันที่26 มกราคมนี้ ว่า ถือเป็นบรรยากาศที่ดี รู้สึกว่ามีความเป็นประชาธิปไตยดี ที่เปิดพื้นที่ทหารให้พรรคการเมืองเข้าไปหาเสียง และได้รับการตอบรับที่ดี เจ้าหน้าที่ทหารเองก็ให้ความสนใจ มีการถามถึงหลักอุดมการณ์ของพรรค และพรรคเองก็ได้มีการสื่อสารที่ชัดเจนว่านโยบายแรก คือชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะต้องเข้มแข็ง ซึ่งก็ยังไม่พอต้องมีการเมืองที่เข้มแข็งด้วย ดังนั้นจึงต้องเลือกผู้สมัครที่เข้าไปทำงานในสภาฯ ก็ต้องเลือกผู้สมัครที่มีคุณภาพ
.
นายกรณ์ ยอมรับว่า การหาเสียงภายในค่ายทหาร ทหารย่อมให้ความสนใจกับความมั่นคงของประเทศ แต่ก็จะทิ้งปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะครอบครัวของทหารเองก็ประสบปัญหาในการทำมาหากินในยุคปัจจุบัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจถือเป็นจุดแข็งของพรรคกล้า
.
ขณะที่ความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐจะส่งผลกับการทำงานของรัฐบาลหรือไม่นั้นนายกรณ์ กล่าวว่า ความขัดแย้งต่างๆที่เกิดขึ้นของรัฐบาลในขณะนี้ ตนคิดว่าจะส่งผลให้ประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง จึงอยากให้ผู้ที่อยู่ในอำนาจนั้นมีสมาธิ ในการทำงานและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าที่ผ่านมา เอาเวลาไปอยู่ในความขัดแย้งมากกว่า โดยหาก นายอรรถวิชช์ ได้รับเลือกเป็นส.ส.คนแรกของพรรคกล้า ตนมั่นใจว่าจะมีบทบาทเข้าไปปลุกจิตสำนึกทำให้รัฐบาลเอาเวลามาแก้ปัญหาประชาชนได้มากกว่านี้ได้เป็นอย่างดี
.
#ThePOINT #ข่าวการเมือง #กรณ์จาติกวณิช #เลือกตั้งซ่อมหลักสี่ #อรรถวิชช์สุวรรณภักดี #พรรคกล้า