เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2568 กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยกลุ่ม ศปปส. และกองทัพธรรม ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลือ นายทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นจากการถูกคุมขังในเรือนจำ
นายพิชิต ชัยมงคล แกนนำ คปท. เปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องหลักมี 3 ข้อ คือ 1) ขอให้ ป.ป.ช. ขยายผลหาผู้กระทำผิดเพิ่มเติม โดยเฉพาะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 2) ให้เร่งสรุปสำนวนและฟ้องร้องข้าราชการ 12 คนที่ถูกชี้มูลความผิดไปแล้ว และ 3) ให้ดำเนินคดีต่อนายทักษิณเพิ่มเติมในฐานะเป็น “ตัวการหรือผู้สนับสนุน” ให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายพิชิตยังกล่าวอีกว่า ไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะล่าช้า เพราะเชื่อว่า ป.ป.ช. ไม่สามารถลงเสียงเป็นอย่างอื่นได้ เนื่องจากคดีสิ้นสุดแล้วที่คำพิพากษาของศาลฎีกา และในวันพรุ่งนี้กลุ่มจะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านที่กรมราชทัณฑ์เพื่อไม่ให้มีการคุมขังนายทักษิณนอกเรือนจำ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่เรือนจำกลางคลองเปรม คุมขังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งศาลฎีกาฯ บังคับโทษ 1 ปี
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าวันนี้ทางกลุ่ม คปท. กองทัพธรรม ศปปส. ได้เดินทางไปร้องที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ เพื่อขอให้เร่งดำเนินการกับข้าราชการที่ช่วยนายทักษิณ ชินวัตร ให้ไม่ต้องติดคุก รวมถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในขณะนั้น ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะร้อง เราก็ทำตามกฎหมายและยินดีให้มีการตรวจสอบ ส่วนรายละเอียดเราก็ต้องเคารพในองค์กรที่เขาตรวจสอบ เราก็ยินดีให้ความร่วมมือ ส่วนเมื่อถามว่ามีการเคยมายื่นเรื่องตรวจสอบหลายครั้ง ก็ยังมีการยืนยันว่ายังป่วยวิกฤติ และเพิกเฉยต่อการร้องเรียนของกลุ่มดังกล่าวนั้น ตนมองว่ารายละเอียดต่าง ๆ ก็ตามที่ปรากฏไปแล้ว เนื่องจากว่าหากดูในคำพิพากษาก็ยังไม่ได้ไปพาดพิงใคร แต่เราก็จะขอเอาคำพิพากษามาดู ยินดีให้ตรวจสอบ
ถามว่ากรณีการคุมขังนายทักษิณ ชินวัตร เห็นว่าจะมีการใช้ช่องทางคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นความเป็นห่วงของภาคประชาชน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อันนี้มันอยู่ในอำนาจและระเบียบของกรมราชทัณฑ์ แต่ส่วนใหญ่ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะตนก็ฟังและติดตามข่าวจากสื่อมวลชนเช่นเดียวกัน อีกทั้ง ผบ.เรือนจำฯ ก็บอกว่า แม้แต่ญาติก็ยังเยี่ยมไม่ได้เพราะยังอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วัน ส่วนว่านายทักษิณ อยู่ข้างในเป็นอย่างไรบ้าง มีอาการเจ็บป่วย สภาพจิตใจ หรือคุมขังในแดนใดนั้น ตนก็ฟังจากข่าว แต่ต้องบอกว่าราชทัณฑ์ก็ต้องดูแลทุกคนในเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว รวมถึงราชทัณฑ์ก็มีระบบการดูแลอยู่
เมื่อถามว่า เกรงว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลในลักษณะเช่นนี้ที่ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกลายเป็นตัวการขึ้นมา เช่นนี้แล้วนายทักษิณ ยังขอรับการพักโทษได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องไปถามราชทัณฑ์ เพราะอำนาจพวกนี้มันเป็นอำนาจของเรือนจำ และในเรือนจำเรามีลักษณะที่ต้องดูแลตามสิทธิ์ มันจะมีกฎหมายเขียนเรื่องสิทธิ์ของผู้ต้องหาราชทัณฑ์ โดยเป็นหน้าที่ของการดูแล และเจตนารมณ์ของเรือนจำทุกแห่งนั้นมีความแออัดอย่างที่ปรากฏ เรือนจำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะบริเวณคลองเปรม ก็มีทั้งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำกลางคลองเปรม ทัณฑสถานหญิงกลาง ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รวมแล้วก็มีคนประมาณ 20,000 ราย ซึ่งมองว่ามันเป็นความหนาแน่น และเราก็ต้องมองว่ามนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเรือนจำก็ต้องดูตรงนั้น
เมื่อถามว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้สั่งบังคับโทษนายทักษิณระยะเวลาหนึ่งปี หากจะเข้าโครงการพักการลงโทษ จะต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนใช่หรือไม่จึงจะเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อันนี้ต้องไปดูระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ส่วนประเด็นโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเจ็บป่วยร้ายแรง หรือมีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปนั้น หากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะต้องได้รับการรักษา
เมื่อถามว่าตอนนี้นายทักษิณ มีคำสั่งบังคับโทษ 1 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ หรือต้องมีโทษอื่นที่ยังไม่ได้จำคุกมาเพิ่มหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องเก่า ยังไม่มีเรื่องใหม่ หากจะมีเรื่องใหม่ก็ต้องผ่านกระบวนการสอบสวนก่อน
_____________
#Thepoint #Newsthepoint
#ทักษิณติดคุก #ทวีสอดส่อง
#คปท