นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีต หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ เรื่องการปิกนิกขอโทษประชาชนของพรรคสีส้ม
ปิกนิก “ขอโทษประชาชน“ (แต่เที่ยวหน้า ขอเป็นรัฐบาลพรรคเดี่ยว!)
.
พรรคประชาชนจัดปิกนิกขอโทษประชาชนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
.
ยอมรับแล้วว่าเสี่ยงกับพรรคภูมิใจไทย
.
มั่นใจครั้งหน้าเป็นรัฐบาลพรรคเดียวจะไม่ถูกหักหลังอีก
.
จัดอีเว้นท์ขอโทษกับเรื่องใหญ่ของประเทศแบบนี้ มันไม่ดูง่ายไปหน่อยหรือ?
.
แล้วยังขอเป็น “รัฐบาลพรรคเดี่ยว” อีก
.
ขอมากไปไหม?
.
ผมว่าปิกนิกครั้งนี้หัวหน้าพรรคประชาชนต้องขอโทษทหารด้วย
.
ตั้งแต่ ธนาธร พิธา มาถึงหัวหน้าเท้ง คนปัจจุบัน
.
ยังเคยปราศรัยเมื่อสองปีก่อนว่า
.
”ไม่มีการรุกรานของประเทศเพื่อนบ้าน หากมีการรบกันจริงก็ไม่เชื่อว่าทหารไทยจะชนะด้วย ต้องลดกำลังกองทัพ บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพเสียด้วยซ้ำ“
.
*ดูคลิปที่คอมเม้นท์
.
อันนี้ก็พูดด้วยความอ่อนหัด อันเป็นความคิดเห็นที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งของคนที่จะมาบริหารประเทศ
.
สงคราม ไทย-เขมร คงได้สอนให้พรรคประชาชนเห็นแล้วว่า
.
”ทำไมไทยต้องมีกองทัพ มีทหารไว้เพื่อปกป้องดินแดน อธิปไตย ไม่ให้ใครรุกราน“
.
ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่หัวหน้าพรรคประชาชนต้องเรียนรู้ก่อนที่จะไปบริหารประเทศ
.
ความคิดความเชื่อของพรรคที่ด้อยประสบการณ์และดื้อรั้น
.
แต่คาดหวังจะให้ได้รับเลือกเป็นพรรคเดียวไปจัดตั้งรัฐบาล
.
นับว่าประชาชนต้องระวังให้มาก จากศึกสงคราม ไทย-กัมพูชา ครั้งนี้
.
ทำให้เราต้องตระหนักว่า
.
งานการเมืองไม่ใช่งานบริษัท ผู้นำประเทศไม่สามารถทำผิดพลาดกับนโยบายใหญ่
.
แล้วมาเรียนรู้พัฒนา เพราะความเสียหายไม่ใช่เฉพาะทรัพย์สินเงินทอง
.
การเอาคนไม่มีประสบการณ์มาบริหารบริษัทเจ๊งไป
.
ยังมีคนมารับเซ้งต่อ หาคนมีประสบการณ์ เก่ง รอบรู้มาบริหารใหม่ กลับพลิกฟื้นได้กำไร
.
แต่หากเอามือสมัครเล่น ไม่มีประสบการณ์ มาเรียนรู้ฝึกงานบริหารประเทศเจ๊งไป
.
มันไม่มีใครมารับเซ้งต่อนะครับ
.
ประเทศไทยจึงไม่ใช่สถานที่ฝึกงาน ที่ทำพลาดแล้วแค่มาจัดปิกนิกขอโทษ
.
แต่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก“ ต่างหาก
ขอบคุณภาพ จาก คุณชูวิทย์
#Newsthepoint #ชูวิทย์

