เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2568 รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางแก้ว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน แสดงความเห็นกรณีที่พรรคเพื่อไทยดึง “บ้านใหญ่อัศวเหม” เข้าร่วมพรรคเพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง โดยมองว่าเป็นปรากฏการณ์ที่อยู่ในบริบทของ “ฤดูกาลการเมือง” ที่แต่ละพรรคพยายามเสริมกำลังก่อนการเลือกตั้งใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีประเด็นสำคัญที่ควรจับตา
รศ.ดร.โอฬารอธิบายว่า ตระกูลอัศวเหมถือเป็นหนึ่งในกลุ่มการเมืองบ้านใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในจังหวัดสมุทรปราการมาอย่างยาวนาน ด้วยโครงสร้างเครือข่ายท้องถิ่นและการควบคุมพื้นที่ที่ต่อเนื่องหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลัง กลุ่มอำนาจดังกล่าวมีแนวโน้ม “ลดบทบาทลง” จากปัจจัยทั้งการสืบทอดบารมีระหว่างรุ่นที่ไม่แข็งแรงเท่าอดีต และการบริหารจัดการภายในที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้พรรคการเมืองบางส่วนอาจมองโอกาสที่จะเข้ามาเสริมหรือผนึกกำลังใหม่
รศ.ดร.โอฬารกล่าวว่า ประเด็นที่ทำให้การย้ายพรรคครั้งนี้ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ คือบริบทที่เกี่ยวข้องกับ แนวคิดเรื่องกาสิโน ซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาในเวทีการเมืองหลายครั้ง โดยพรรคเพื่อไทยเคยมีการแสดงท่าทีสนับสนุนการตั้งกาสิโน ถูกกฎหมายในบางช่วงเวลา
ขณะเดียวกัน ชื่อของนายวัฒนา อัศวเหม แกนนำสำคัญของตระกูล ก็เคยปรากฏในข่าวเชิงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการกาสิโนฝั่งกัมพูชา
ความสอดคล้องบางด้านระหว่างพรรคเพื่อไทยกับตระกูลอัศวเหม ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่า ทั้งสองฝ่ายอาจมองเห็นผลประโยชน์ทางนโยบายร่วมกันโดยเฉพาะในประเด็นกาสิโน ซึ่งอาจถูกหยิบมาเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอใหม่ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
“คำถามไม่ใช่ว่าตระกูลอัศวเหมเลือกอยู่กับใคร แต่คือเมื่อพวกเขาเข้าร่วมพรรคที่เคยพูดถึงนโยบายกาสิโน อย่างเปิดเผยในอดีต ผลลัพธ์เชิงนโยบายจะมุ่งหน้าไปในทิศทางใด และจะถูกเสนอเป็นแนวทางในการหาเสียงหรือไม่” รศ.ดร.โอฬารกล่าว
นักวิชาการยังเตือนว่า การจับมือกันของกลุ่มการเมืองกับพรรคใหญ่ไม่ใช่เรื่องแปลกในระบบการเมืองไทย แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือ ผลลัพธ์เชิงนโยบายที่อาจตามมา โดยเฉพาะนโยบายที่อ่อนไหวในทางสังคม เช่น นโยบายกาสิโน ซึ่งเคยเป็นประเด็นถกเถียงในสภาและสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
_____________
#Newsthepoint
#กาสิโน #เพื่อไทย
#ตระกูลอัศวเหม #ผนึกกำลังบ้านใหญ่

