หน้าแรกข่าวเด่นด่วน! ชูวิทย์ฟาด “พรรคประชาชน”จากไม้ไผ่กลายเป็นบ้องกัญชา

ด่วน! ชูวิทย์ฟาด “พรรคประชาชน”จากไม้ไผ่กลายเป็นบ้องกัญชา

ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ ประเด็นการเมืองร้อนแรง เรื่อง MOA ของส้มกับน้ำเงินแบบถึงพริกถึงขิง

ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา

.

ผ่านไปไม่กี่วัน คุณเท้งแห่งพรรคประชาชนก็ต้องสาละวนรีบแถลงข่าวเสียงหลงเสียแล้ว

.

เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

.

“ไม่ให้ประชาชนเป็นผู้เลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยตรง“

.

แต่ให้อำนาจรัฐสภาเป็นผู้แก้ไขเพิ่มเติมได้

.

พูดจาภาษาชาวบ้าน คือ ประชาชนไม่มีสิทธิโดยตรง แต่ให้ ส.ส. และ ส.ว. เป็นผู้เลือก สสร.

.

ชาวบ้านเขารู้กันทั้งบางว่า “ใครเป็นไอ้โม่งคุมคะแนนเสียง ส.ว. อยู่”

.

คงมีแต่พรรคประชาชนไม่รู้อยู่พรรคเดียวมั้ง

.

ไหนจะต้องทำประชามติอีก 3 ครั้ง แม้ครั้งที่ 1 กับ 2 จะทำพร้อมกัน

.

แต่เป็นช่องทางให้เห็นว่า

.

“ไม่สามารถทำตามเงื่อนไข 4 เดือน ที่กำหนดไว้ใน MOA ได้“

.

คุณอนุทินพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่ได้เป็นผู้ทำผิดเงื่อนไข แต่เป็นเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมา

.

แม้คุณเท้งรีบออกตัวว่า “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ปิดช่องให้ สสร. มาจากการเลือกตั้งของประชาชน”

.

แล้วเดินวนเวียนขึ้นลงโพเดียมพร้อมพลพรรควอลเปเปอร์แก้ตัวเป็นพัลวัน ไม่เป็นอันทำมาหากินเรื่องเดือดร้อนของชาวบ้าน

.

แต่คนฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เข้าใจชัดเจนว่า

.

“ประชาชนเลือก สสร. เองไม่ได้”

.

แท้จริงแล้วมันเสมือนเป็น ”เกมของผู้ใหญ่“ ที่รับเงื่อนไขของเด็กไว้ก่อน

.

แล้วไล่เด็กที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวให้ไปเล่นกันที่อื่น

.

เริ่มต้นยังไม่ทันตั้งไข่ก็วุ่นวายขนาดนี้

.

นี่ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลบอกอีกว่า จะรีบทำไม่ได้ ต้องระมัดระวัง และปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล

.

พรรคประชาชนที่ออกตัวทำเงื่อนงำ MOA ให้ดูเหมือนขงเบ้งในเรื่อง “สามก๊ก”

.

แต่ภายหลังกลับต้องมาคร่ำครวญในใจว่า

.

“นี่คงเป็นชะตาคราวเคราะห์ของเราเสียแล้ว”

.

ผมจึงเตือนนักเตือนหนาว่า พรรคประชาชนพลาดกับเงื่อนไขที่เคยพูด

.

“พรรคไหนรับได้ ก็ได้เสียงโหวตให้เป็นนายกฯ” ช่างดูพาวเวอร์ฟูลเสียเหลือเกิน

.

แต่ในทางปฏิบัติมีปัจจัยอื่น ที่พรรคแกนนำเอามาเป็นข้ออ้างบังหน้าได้อีกมากมาย

.

หรือหากเล่นเกมล้ำลึกไปกว่านั้น ก็ทำทีตั้งโต๊ะกระตือรือร้นปรึกษาหารือกันทุกฝ่าย แต่ท้ายสุดลงเอยที่ว่า

.

“มันไม่ทันเอาจริงๆ 4 เดือน ศาลรัฐธรรมนูญท่านว่ามาแบบนี้ ไม่ปฎิบัติตามได้ไง มันผูกพันทุกองค์กร“

.

พูดเป็นเน็ตค้างจอเหมือนกันหมด

.

ค่าโง่ของพรรคประชาชนจึงเริ่มโผล่มาให้เห็น

.

สิ่งที่จะทำได้ ก็แค่รีบออกมาแก้ตัวจ้าละหวั่นรายวัน

.

มีประโยชน์อันใดเล่า กับการตั้งเงื่อนไข และการตัดสินใจของพรรคประชาชน ที่โหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ ?

.

นักการเมืองเขี้ยวลากดินย่อมมองออกว่า ให้รับๆ ไปก่อน แล้วตามน้ำไป

.

.

ถามจริงๆ จะไปหาเรื่องเข้าตัวทำไม?

.

ยุบสภาไปเลยง่ายกว่าเป็นไหนๆ แต่มันช้าไปแล้วโยมเอ๋ย!

.

ยิ่งเวลาทอดยาวมากขึ้นเท่าไหร่ พรรคภูมิใจไทย และพรรคร่วมจะสะสมกำลังไพร่พลเสบียงกรังได้มากขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อรอวันเลือกตั้งให้พร้อมสุดๆ

.

ในขณะที่คะแนนของพรรคประชาชนจะสาละวันเตี้ยลงทุกวี่ทุกวันไปกับ ”เงื่อนไข MOA“ ที่โชว์ค่าโง่ให้ประชาชนทั่วไปได้เห็น

.

ต้องนั่งแก้เกมไปวันๆ เพื่อรับผิดชอบกับการกระทำที่ไปโหวตให้ “หนูขึ้นเป็นราชสีห์“

.

ผู้คน และการเดินทาง คือ อุดมการณ์ที่หลุดลอย เดินหลงทาง ตอนชูมือโหวตให้คุณอนุทินเป็นนายกฯ

.

การเมืองของพรรคประชาชน จึงเป็นเกมที่คนแก่ในวงการเมืองเล่นมาตั้งแต่พวกเด็กอย่างพรรคประชาชนยังไม่เกิด

ส่วนประชาชนคนทั่วไปได้แต่ร้องว่า

”ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไป ไหงกลายเป็นบ้องกัญชา”

พรรคประชาชนเองนั่นแหละที่ต้องมาวิ่งวุ่น เล่นเกม “มอญซ่อนผ้า” อยู่แบบนี้

.

แล้วเป็นของชอบพรรคภูมิใจไทยเขาเสียด้วย 

Must Read

Related News

- Advertisement -