นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอเชิญชวนคนไทยรวมทั้งบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในไทยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรี โดยจัดจุดฉีดวัคซีนทั้ง ณ สถานที่ที่กำหนด (On Site) และรูปแบบหน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Unit) และสำหรับในปีหน้า รัฐบาลได้มีการจัดหาวัคซีน 120 ล้านโดส เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวัคซีนกระตุ้น เป็นวัคซีนเข็ม 3 หรือเข็ม 4 ด้วย ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกพื้นที่จะได้ลุยเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชน นับถอยหลัง “สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน” สู่เป้าหมาย 100 ล้านโดส 27 พ.ย.-5 ธ.ค. 64
.
มากไปกว่านั้น ขณะนี้หลายจังหวัดยังได้มีมาตรการจูงใจประชาชนให้มาฉีดวัคซีนมากขึ้น ด้วยของรางวัลเพื่อให้มาฉีดวัคซีน อาทิ 1) จ.มหาสารคาม จัดกิจกรรม ฉีดวัคซีนโควิด- 19 จะมีสิทธิ์ลุ้นรับสร้อยคอทองคำน้ำหนักครึ่งสลึง 2) จ.ยะลา ผู้ว่าราชการฯ ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนถึงบ้านพร้อมแจกข้าวสารให้ 1 ถุง 3) จ.สงขลา ลุ้นรับ ทอง 2 สลึง เงินสด 6000 บาท รถจัก ข้าวสาร 4) จ.นราธิวาส ร่วมกับห้างสรรพสินค้า ช้อปแล้วรับของแจก สำหรับผู้ฉีดวัคซีนแล้ว
.
รองโฆษกฯ ยังได้กล่าวถึงข้อกังวลของประชาชนต่ออาการไม่พึงประสงค์รวมถึงอาการผมร่วง ที่เป็นข่าวนั้น ต้องขอย้ำว่า อาการไม่พึงประสงค์ในทุกลักษณะจะได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยประชาชนสามารถเขียนคำร้องไปที่คณะอนุกรรมการในระดับเขต ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนภาคประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าจะจ่ายเงิน เยียวยา ตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น
.
ส่วนกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาท จึงอยากเชิญชวนประชาชนทั่วไป ตั้งแต่อายุ 12 ปี ขึ้นไปรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง
.
