เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2568 ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์ข้อความระบุว่า
“มีส้ม ไม่มีเทา หรือว่ามีส้มจะมีดำ?”
“มีส้ม ไม่มีเทา” — วลีที่ฟังดูคล้ายคำขวัญโรงเรียนธรรมะ
แต่พอหันไปดูรายชื่อสมาชิกพรรค กลับกลายคล้ายจะเป็น “รายชื่อจำเลยในศาลยุติธรรม” เสียมากกว่า
พรรคที่ประกาศตัวว่าเป็นแสงสว่างแห่งยุคใหม่
กลับมีคนในพรรคตั้งแต่หัวหน้าจนถึงปลายแถว
พัวพันคดีสารพัดตั้งแต่ ตบเมีย ข่มขู่ ซ้อมแฟน ค้ายา โกงเงินผู้ช่วย เมาแล้วขับ หนีทหาร เซาะสถาบัน —
พูดง่ายๆ คือ “รวมพลคนมีคดี” แต่ติดป้ายโชว์ว่า “ทำเพื่ออนาคต”
อนาคตแบบไหนครับ?
อนาคตที่ต้องอ่านคำพิพากษาเป็นบทเรียนหรือ?
ในขณะที่พรรคอื่นเขาอาจจะต้องพยายาม “ล้างเทา”
พรรคนี้กลับภูมิใจใน “ส้มเข้มจนจะกลายเป็นดำ”
พูดให้แรงหน่อย — ถ้าส้มมันสุกเกินไปจนไหม้ มันก็ไม่ใช่ส้มอีกต่อไปหรอกครับ
แต่มันคือ “เปลือกที่ไหม้เกรียมจากไฟแห่งอีโก้”
คำว่า “มีส้มไม่มีเทา” ฟังเหมือนคนประกาศศีล แต่ใจยังเปื้อนบาป
พูดถึงคุณธรรม แต่ไม่เคยส่องกระจกดูตัวเอง
จะเรียกร้องศีลธรรมทางการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อยังมีคดีอีกหลายคดีอยู่ในพรรคตัวเอง?
และที่แสบที่สุดคือ —
บางคนยังกล้า “โจมตีสถาบันหลักของชาติ” ทั้งที่ตัวเองยังไม่ผ่านสถาบันอบรมจิตสำนึกพลเมืองดี
คนที่เรียกร้องให้คนอื่นโปร่งใส แต่ในกระเป๋าตัวเองยังมีคราบดำของอดีต
ถ้าจะบอกว่า “มีส้ม ไม่มีเทา”
ก็ขอให้แน่ใจหน่อยว่าไม่ได้หมายถึง “มีส้ม แล้วมีดำ”
เพราะถ้าความจริงมันขมกว่าน้ำผึ้งที่พูดออกมา —
ต่อให้สีส้มสดแค่ไหน…
สุดท้ายก็ล้างความมัวหมองของการกระทำไม่ได้อยู่ดี
_____________
ที่มา :
https://www.facebook.com/share/p/1G143WoNXH
#Newsthepoint
#จักษ์พันธ์ชูเพชร #พรรคส้ม
#สสพรรคส้ม #มีส้มไม่มีเทา

