นายศราพงศ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ผู้กล้า-กทม. ระบุถึงปัญหาการปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ว่า หลายท่านน่าจะทราบข่าวแล้ว เกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าทางด่วนอัตราใหม่ โดยนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.64 บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม (BEM) จะปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร เป็นการปรับขึ้นทุกๆ 5 ปี ตามสัญญาสัมปทาน
.
รถ 4 ล้อ ปรับจาก 50 บาท เป็น 65 บาท (ปรับขึ้น 15 บาท)
รถ 6-10 ล้อ ปรับจาก 80 บาท เป็น 105 บาท (ปรับขึ้น 25 บาท)
รถมากกว่า 10 ล้อ ปรับจาก 115 บาท เป็น 150 บาท (ปรับขึ้น 35 บาท)
.
นอกจากนี้ทางบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม (BEM) ยังได้เสนอขอชดเชยรายได้ที่ลดลง 50% จากผลกระทบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มายัง กพท. ด้วย เรียกว่าขอปรับขึ้นค่าทางด่วนด้วย และขอเงินชดเชยจากรายได้ที่ลดลงด้วย
.
“เข้าใจครับว่าการปรับขึ้นค่าทางด่วน เป็นไปตามสัญญาที่กทพ.ได้ทำไว้กับบริษัทเอกชน แต่ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ผมอยากให้ทางภาครัฐเร่งดำเนินการดูแลและเยียวยาช่วยเหลือปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นลำดับแรก โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ พี่น้องประชาชนคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำอย่างเราๆ ท่านๆ ที่จำเป็นต้องใช้ทางด่วนในการเดินทางทุกวันนี่แหล่ะครับ”นายศราพงศ์ ระบุ
.
ต้องยอมรับว่าปีนี้หนักจริง ๆ ครับ ไหนจะสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ไหนจะปัญหาราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งท้ายปลายปีด้วยการปรับขึ้นค่าทางด่วนอีก ในขณะที่รายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายกลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีทีท่าจะลดลง เห็นแบบนี้แล้วอดห่วงไม่ได้จริง ๆ ว่าเศรษฐกิจในปีหน้า ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ ที่ค่าครองชีพปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องชนิดที่เรียกว่า “พุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่” แบบนี้
.
ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เรารอไม่ได้ครับ หลายครั้งเหลือเกินที่การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะระบบราชการที่ล้าหลัง จนบางครั้งกว่าภาครัฐจะออกมาตรการมาช่วยเหลือ ก็สายเกินไปแล้ว หวังว่าทางกทพ.และกระทรวงคมนาคมในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรง จะเห็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและเร่งออกมาตรการเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด
.
