เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 จากกรณีวิวาทะระหว่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย เกี่ยวกับการตั้งคำถามถึงเรื่อง Advance MOU ของพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่บางฝ่ายเดือดจัดถึงขั้นเอยปากว่าถ้าต่อยได้ ต่อยไปแล้ว
น.ต.ศิธา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “คือ กุ 6 เสียง ผู้เชียร์พรรคฝ่าย ปชต. ยิ่งกว่าเชียร์พรรคตัวเองมาตลอดพอออกมาพูด อยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้รักกัน, หมั้นกัน, แพ็คกันให้แน่นเท่านั้นแหละ ด่ากุไม่มีมารยาท จะต่อยกุ ให้กุไปพูดหลังบ้าน, ห้ามออกสื่อ ไม่งั้น 141 จะทบทวนตัวเอง ทั้งที่กุไม่ได้พูดเพื่อพรรคตัวเองสักนิด”
“แต่พอตัวเองอยากเป็น ปธ.สภาฯ ปล่อยลูกน้องออกมาโต้ผ่านสื่อพรึ่บ เต็มฟีดทุกแพลตฟอร์ม แย่งชิงตำแหน่งกันแบบไม่อายลุง มัยไม่ถามหามารยาทบ้างอ่ะ”
ล่าสุดน.ต.ศิธา กล่าวถึงกรณีที่โพสต์เดือดในทวิตเตอร์ เมื่อคืนวานนี้ว่า เป็นเพราะ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมจบก่อนยังเดินสายออกรายการ มาซัดตนเสียมารยาทในเรื่องเดิม ทั้งที่ก็ขอโทษไปแล้ว เรื่องนี้ควรจบได้แล้ว แต่กลับยังด่าตนอยู่ฝ่ายเดียว ตนก็ต้องใช้สิทธิออกมาปกป้องตัวเอง ยืนยันว่า เมื่อคืนไม่ได้เมา โพสต์จากใจ
น.ต.ศิธา กล่าวว่า สิ่งที่ถูกด่าว่าเสียมารยาท จริง ๆ ตนยังไม่เคยออกมาพูดเลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในการประชุม MOU ตนยังไม่เคยพูดเลยว่าพรรคเพื่อไทยแก้อะไรไปบ้าง แต่กลับมาบอกว่าตนเอาข้อมูลต่าง ๆ ไปยัดเพิ่มใน MOU ทั้งที่ ข้อเท็จจริงเป็นของเพื่อไทยทั้งนั้น และตนต้องเข้าไปแก้ปัญหาด้วยซ้ำ เพราะมันมีความขัดแย้ง มีความพยายามจะถอนตัวและไม่เซ็น MOU ตลอดเวลา
ส่วนรายละเอียดว่าพรรคเพื่อไทยขอแก้ไขอะไรไปบ้างก็ขอให้ไปถามพรรคเพื่อไทยเองตนไม่อยากเสียมารยาทเอาเรื่องในห้องประชุม MOU มาพูด พร้อมขอให้แฟนคลับของพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอย่าเพิ่งเอาทัวร์มาลง ขอให้เข้าใจว่ามันมีเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องประชุมมาก่อน ก่อนจะย้ำว่า สิ่งที่ตนพยายามออกมาพูดเป็นความบริสุทธิใจ ต้องการให้มันดีขึ้น
ส่วนการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ใครจะเป็นก็เป็นเชียร์ทั้งหมด แต่ไม่ต้องเอาตนมาเป็นสมการ หรือจะเอาเราออกจากสมการจัดตั้งรัฐบาลเลยก็ได้ เพราะเรามีแค่ 6 เสียง จะไปสู้ 141 เสียงได้อย่างไร หากเอา 6 เสียงออก ยังไงคุณจับกันไปได้อยู่แล้ว มีเสียเสถียรภาพเพราะมี 300 กว่าเสียง ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยก็พร้อมที่จะโปรดสนับสนุนให้ แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล
น.ต.ศิธา ยังชี้แจงด้วยว่า อีก 1 ประเด็นที่โพสต์อย่างดุเดือดเมื่อคืน คือต้องการตั้งคำถามว่าการแย่งตำแหน่งประธานสภาฯกัน ไม่เสียมารยาทหรือ เมื่อเทียบกับตนที่ถูกกล่าวหาว่าเสียมารยาทจากการที่ออกมาตั้งคำถาม ทั้งที่ตนพูดในฐานะประชาชนคนนึงที่สงสัย และต้องการให้สองพรรคจับมือกันอย่างเดียวแน่น
“หากเพื่อไทยยืนยันอย่างเป็นประธานสภา เพื่อไทยก็ไปตกลงกับก้าวไกล แล้วเอาผมออกจากสมการ อย่าเอาผมไปต่อรอง เพื่อไปบีบกับก้าวไกล ให้เห็นความสำคัญ 6 เสียงกับ 141 เสียง เพราะเขาไม่มีทางเห็นผมสำคัญอย่างแน่นอน อย่าใช้ผมเป็นแพะ”
พร้อมยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ไม่ได้ ต่อว่าอะไร แต่ทราบว่ามีการฝากคุณหญิง ให้มาอบรมตน รวมถึงยังไปกดดันพรรคก้าวไกล ยืนยันไม่ได้อยากให้แตกกัน
