หน้าแรกข่าวเด่น“อนุญาโตตุลาการ” กลไกสากล เสริมเขี้ยวเล็บนโยบายการค้าไทย สู่ระบบระงับข้อพิพาทที่โปร่งใส เป็นธรรม และเชื่อถือได้

“อนุญาโตตุลาการ” กลไกสากล เสริมเขี้ยวเล็บนโยบายการค้าไทย สู่ระบบระงับข้อพิพาทที่โปร่งใส เป็นธรรม และเชื่อถือได้

นายสุริยพงศ์ ทับทิมแท้ ผู้อำนวยการสถาบัน อนุญาโตตุลาการ หรือ Thailand Arbitration Center (THAC) โพสต์ข้อความในหัวข้อ “อนุญาโตตุลาการ” กลไกสากล เสริมเขี้ยวเล็บนโยบายการค้าไทย สู่ระบบระงับข้อพิพาทที่โปร่งใส เป็นธรรม และเชื่อถือได้ ระบุว่า

คำกล่าวที่ว่า “ไม่มีการค้าใดที่ไม่มีข้อพิพาท” (There is no trade without dispute) ยังคงเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการค้าและการลงทุนเสรีในปัจจุบัน ซึ่งแม้จะดูเหมือนว่าเป็นการค้าและการลงทุนอย่างเปิดกว้าง หากแต่ในความเป็นจริงกลับมีการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าและการลงทุนอย่างเสรีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของมาตรการทางภาษี (Tariff Barriers) หรือมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers) ผ่านการกำหนดนโยบายของรัฐบาลในแต่ละประเทศ

การกำหนดนโยบายที่ดีควรมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสให้กับประชาชนภายในประเทศ รวมถึงประเทศคู่ค้า เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจร่วมกันอย่างยั่งยืนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติบ่อยครั้งที่นโยบายสาธารณะกลับถูกออกแบบโดยขาดกระบวนการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และสังเคราะห์อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังขาดการประเมินผลสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มปัญหาแทนที่จะเป็นการลดข้อจำกัด และตัดโอกาสทั้งในระดับประชาชนและระดับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้ปฏิบัติตามนโยบายขาดการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องกับผู้มีส่วนได้เสีย

นโยบายสาธารณะด้านการค้าและการลงทุนของประเทศไทยได้มีการออกแบบและผลักดันมาอย่างต่อเนื่องโดยหลายหน่วยงานภาครัฐ เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมนักลงทุนไทยในการขยายตลาดในต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่นโยบายสาธารณะของไทยยังควรได้รับการทบทวนอย่างจริงจังคือ “การระงับข้อพิพาททางการค้าและการลงทุน” โดยเฉพาะในมิติที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่า ประเทศไทยมีระบบการระงับข้อพิพาทที่ยึดหลักสากล โปร่งใส เป็นธรรม และสามารถนำไปใช้บังคับได้จริง

หนึ่งในกลไกการระงับข้อพิพาททางเลือก (Alternative Dispute Resolution – ADR) ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติคือ “อนุญาโตตุลาการ” (Arbitration) ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีใน อนุสัญญานิวยอร์ก (New York Convention) ที่มีสมาชิกกว่า 172 ประเทศ โดยการใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการ คู่พิพาทสามารถร่วมกันแต่งตั้งผู้ชี้ขาด พิจารณาโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ มีความรวดเร็ว และคำชี้ขาดสามารถนำไปบังคับได้ในประเทศของคู่กรณี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนข้ามพรมแดน

สถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center – THAC) เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสถาบันอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2550 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติ ปัจจุบันคือ พลตำรวจเอก ทวี สอดส่อง และมีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะกรรมการสถาบัน ปัจจุบันคือ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน โดย THAC มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและให้บริการด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก ทั้งอนุญาโตตุลาการและการประนอมข้อพิพาท เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนและภาคธุรกิจในประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2568 สถาบันอนุญาโตตุลาการได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในหัวข้อ “นโยบายสาธารณะด้านการค้า การลงทุน และการระงับข้อพิพาท” โดยมีกำหนดระยะเวลาวิจัย 1 ปี กิจกรรมหลักภายใต้โครงการประกอบด้วยการเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกแบบนโยบายมาร่วมอภิปราย แสดงความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะ ผ่านเวทีสำคัญอย่าง Thailand ADR Week 2025 รวมถึงการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (workshops) ซึ่งผลการวิจัยดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเสนอแนวทางนโยบายเชิงระบบต่อภาครัฐ ที่จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยในระยะ

_____________

#Thepoint #Newsthepoint

#อนุญาโตตุลาการ #สุริยพงศ์ทับทิมแท้

#การค้าไทย

Must Read

Related News

- Advertisement -