หน้าแรกการเมือง‘อนุทิน’ เปลี่ยนเลนส์ตาเห็นอนาคตรบ.ชัดเจน อยู่ครบเทอม

‘อนุทิน’ เปลี่ยนเลนส์ตาเห็นอนาคตรบ.ชัดเจน อยู่ครบเทอม

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์สถานการณ์ทางการเมืองที่ถูกวิจารณ์ว่ากำลังตึงเครียดระหว่างสีแดงและสีน้ำเงินว่า ทุกอย่างเป็นปกติ และรัฐมนตรีทุกคนก็เดินทางมาให้การต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำไมสื่อถึงไปมองว่าตึงเครียด สถานการณ์ในขณะนี้ไม่มีอะไรเลย

เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้พรรคเพื่อไทยแพคกับพรรคกล้าธรรม เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทยจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังโพสต์ภาพ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเยี่ยมขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาล

นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยแพคกับทุกพรรค แม้กระทั่งพรรคฝ่ายค้าน หากทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศบ้านเมืองและประชาชน ก็พร้อมหมดทุกอย่าง เราเอาประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้พรรคเพื่อไทยแพคกับพรรคกล้าธรรม เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทยจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังโพสต์ภาพ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเยี่ยมขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาล

นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยแพคกับทุกพรรค แม้กระทั่งพรรคฝ่ายค้าน หากทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศบ้านเมืองและประชาชน ก็พร้อมหมดทุกอย่าง เราเอาประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามว่า การเติบโตของพรรคกล้าธรรมเป็นการคานอำนาจพรรคภูมิใจไทยในรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องการเติบโต และหากพรรคไหนรับใช้ประชาชน และทำให้มั่นใจได้พรรคนั้นก็จะเติบโต เหมือนพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่า นายอนุทินสามารถพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมได้ดีอยู่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ได้คุยกัน คุยกันตลอดเวลา และทำงานด้วยกัน

เมื่อถามย้ำครั้งที่ 10 ถึงกระแสการปรับ ครม.มีหรือไม่ นายอนุทินบอกว่า ไม่มี ขอตอบครั้งที่ 11 ว่าไม่มี

เมื่อถามว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้มีผลกระทบอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลมีความเข้มแข็ง วันนี้ก็ 320 กว่าเสียงแล้ว และยิ่งมีสมาชิกในพรรคกล้าธรรมมาเพิ่ม ยิ่งทำให้รัฐบาลเข้มแข็งขึ้น จึงทำให้ตนไปผ่าตัดรักษาเลนส์ตาได้อย่างสบายใจ

เมื่อถามว่า สถานการณ์ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เกี่ยวกับคดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมหรือไต่สวนคดีชั้น 14 ในวันที่ 13 มิ.ย.จะกระทบรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินปฏิเสธว่าไม่เกี่ยว เพราะเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ส่วนรัฐบาลเป็นเรื่องฝ่ายบริหาร ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลก็ต้องอยู่บริหารประเทศไป พร้อมอธิบาย 3 เสาหลักของประเทศ ประกอบด้วย บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ แยกหน้าที่กันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า เมื่อถามถึงความเป็นพ่อลูกของนายทักษิณกับนายกฯก็ต้องถูกมองว่าเกี่ยวพันกันอยู่แล้ว นายอนุทินกล่าวว่า ตนที่เติบโตและมีภาระการรับผิดชอบระดับบริหารประเทศได้ ทุกคนก็ต้องแยกแยะถูกว่าอะไรเป็นเรื่องส่วนรวมของประเทศ ประชาชน และเรื่องส่วนตัว นำมารวมกันไม่ได้ หากนำมารวมกันก็ทำงานไม่ได้ ซึ่งยังไม่เคยเห็นใครในรัฐบาลเอาเรื่องส่วนตัวและเรื่องส่วนรวมมารวมกันในการทำงาน

เมื่อถามว่า มองสัญญาณบวกของสีน้ำเงินเป็นอย่างไร หลังศาลต่างๆ มีท่าทีต่างๆ ออกมา นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มองอะไรเลย เพราะตนมองเรื่องการทำงาน

“ตอนนี้สายตาที่เคยขุ่นมัว ตอนนี้เปลี่ยนเลนส์ตาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เห็นอะไรชัดๆ ใสปิ๊ง ทำงานได้แล้ว และกลับมาใส่แว่นก็หล่อเหมือนเดิม” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่า มองเห็นอนาคตรัฐบาลชัดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ชัดครับ ครบเทอม

_____________

#Thepoint #Newsthepoint

#ครมอุ๊งอิ๊งค์ #รัฐบาลเพื่อไทย

#พรรคภูมิใจไทย #อนุทิน #พรรคร่วมรัฐบาล

Must Read

Related News

- Advertisement -