เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน (ปชน.) ปราศรัยช่วยผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น โดยประกาศว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทยว่า นายพิธาต้องประกาศเช่นนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อประกาศแล้วและไปย้อนดูสิ่งที่ประกาศ มีกี่อันที่ประกาศแล้วสามารถทำได้จริง ทำได้สำเร็จ เช่นเดียวกับการที่บอกว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เราต้องดูว่าข้อเท็จจริงสามารถกลับมาได้หรือไม่ มีข้อกฎหมายรายละเอียดแต่ละคดีที่เกี่ยวข้องกับนายพิธามีอะไรบ้าง มูลเหตุของความผิดที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปีสามารถกลับมาได้หรือไม่
“ฉะนั้น ต้องไปตรวจดูด้วย เพราะไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ประกาศจะเป็นความจริงทั้งหมด ต้องเข้าใจว่าบางครั้งบนเวทีก็ต้องพูดไป แต่ประชาชนต้องพินิจพิเคราะห์ด้วยว่าที่ประกาศเรื่องนี้ว่าอีก 9 ปีจะกลับมา เขากลับมาได้จริงหรือไม่ และต้องย้อนไปดูพฤติกรรมอื่นๆ ที่เคยประกาศก่อนหน้านี้เคยทำได้สำเร็จหรือทำได้จริงหรือไม่” นายอนุสรณ์กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า มองว่าอีก 9 ปีนายพิธาสามารถกลับมาได้จริงหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่าการเมืองในแต่ละช่วงสถานการณ์ และในแต่ละวันมีพัฒนาการไปแต่ละวันอยู่แล้ว ฉะนั้น วันนี้จะบอกว่าอีก 9 ปีจะกลับมาฟังแล้วเหมือนแช่แข็งประเทศเพื่อรอใครบางคน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะในสถานการณ์การเมืองก็ต้องพัฒนาไป แต่การแก้ไขปัญหาก็ต้องเดินหน้าไป ถึงวันนั้นสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะไม่ได้เป็นแบบในอดีต เพราะจากวันเลือกตั้งปี 2566 จนถึงปัจจุบันการเมืองไทยเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะในมิติที่เราได้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ได้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็พยายามขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา ดังนั้น เมื่อ น.ส.แพทองธารอยู่ครบวาระ 4 ปี และไปต่อมีการเลือกตั้งครั้งหน้า ถึงวันนั้นบริบทและสถานการณ์ทางการเมืองอาจเปลี่ยนไปก็ได้
…..
#Thepoint #Newsthepoint
#พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #นายกรัฐมนตรี #พรรคส้ม
#พรรคเพื่อไทย #อนุสรณ์เอี่ยมสะอาด