‘ไทยสร้างไทย’ผุดแคมเปญ!!ล่า 5 หมื่นรายชื่อ ปลุกเปลี่ยนประเทศ ชงตั้งส.ส.ร.โดยประชาน ร่างรัฐธรรมนูญ

0
222

นายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์หาญสมวงศ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายนพดล มังกรชัย รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายนรุตม์ชัย บุนนาค คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าว ถึงแนวทางการขับเคลื่อนประเทศ โดยเปิดตัวแคมเปญ ส.ส.ร.โดยประชาชน
.
นายโภคิน ระบุว่า สาเหตุที่ประเทศตกต่ำ ซึ่งมาจากความคิดและวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยมใช้แต่อำนาจ ไม่ฟังใคร ไม่ยอมรับการมีส่วนร่วม รวมถึงระบบความเป็นเจ้าขุนมูลนาย ฟุ่มเฟือยการเล่นพวกพ้อง ไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน ชอบใช้วาทกรรมเป็นคนดี คนอื่นไม่ดี ต้องเคารพกฎหมาย ยึดหลักนิติธรรม แต่ทำตรงกันข้าม และระบบรัฐราชการที่ใหญ่โต ไร้ประสิทธิภาพ มุ่งรับใช้อำนาจนิยม ไม่ยึดโยงประชาชน สร้างกฎเกณฑ์เพื่อค้ำจุนและส่งเสริมอำนาจตัวเอง บนการกดทับประชาชน 
.
นอกจากนี้ยังกำหนด กฎเกณฑ์ กติกา ใบอนุมัติ อนุญาตมากกว่า 1,500 ฉบับ ซึ่งมีขั้นตอนเย่นเย้อ ล้าสมัย เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน ทั้งยังเป็นบ่อเกิดสำคัญที่สุดของคอร์รัปชั่น เป็นบ่อเกิดสำคัญที่สุดของความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำ ใช้งบประมาณเพื่อตอบโจทย์ตนเอง ไม่ใช่เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน ตอบสนองกลุ่มทุนใหญ่ ทุนพรรคพวกของตน ดังนั้น เป้าหมายหลักของพรรคไทยสร้างไทย จึงประกาศว่าจะดูแลประชาชนทุกคนตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่นการเรียนฟรีจนจบปริญาตรี ดูแลสุขภาพอย่างมีคุณภาพ เกษียณแล้วมีบำนาญถ้ามีรายได้ไม่พอเพียง
.
นายโภคิน ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย จะขอก้าวข้ามความขัดแย้ง ความคิด และวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยม สร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ เนื้อหาที่ต้องผลักดันเช่นผู้ใดยึดอำนาจ เท่ากับเป็นกบฎ ห้ามนิรโทษกรรม มีประชาชนเป็นผู้เสียหาย เป็นประเพณีการปกครองที่สำคัญที่สุด และศาลมีหน้าที่ปกป้องหลักการนี้ แม้มีการล้มล้างรัฐธรรมนูญ หากไม่ทำ ศาลจะเป็นผู้ซึ่งทำผิดเสียเอง ทั้งต่อกฎหมาย คำปฏิญาณและจริยธรรม
.
สำหรับแคมเปญของพรรคไทยสร้างไทย 1.การรณรงค์เข้าชื่อ 50,000 รายชื่อเพื่อเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 

2.การรณรงค์เข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายปลดล็อคใบอนุมัติ อนุญาตและขั้นตอนที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน

3.การรณรงค์เข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการจัดตั้งและยุบรวมกองทุนต่างๆ เพื่อสร้างพลังในการทำมาหากินและลดหนี้สินของประชาชน

4.การรณรงค์เข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงองค์ความรู้โดยเฉพาะทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ การเข้าถึงตลาด และการรวมตัวเพื่อสร้างขนาดของเศรษฐกิจ (Economy of Scale)

5.การรณรงค์เข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบและให้คะแนนหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ การประเมินศักยภาพ ตลอดจนการให้รางวัล หรือลงโทษ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน

6.การรณรงค์เข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการรวมตัวขององค์กรธุรกิจขนาดย่อม ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ให้เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการแต่ละระดับในการสร้างมาตรฐานธุรกิจ การช่วยเหลือ ส่งเสริม เพื่อให้มีสิทธิมีเสียง มีส่วนร่วมในการบริหารเศรษฐกิจและการทำมาหากิน

7.การรณรงค์เข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาแบบใหม่ ที่เน้นให้ผู้เรียนรู้ตัวตนเร็ว รู้วิธีหาความรู้ด้วยตัวเองอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และรู้การปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ด้วยการลดเวลาเรียนในแต่ละช่วงวัย ลดความเยิ่นเย้อของหลักสูตรเพื่อให้เด็กสามารถจบปริญญาตรีได้ในช่วงอายุ 17-19 ปี โดยเป็นการเรียนฟรีทั้งหมด เน้นความเท่าเทียมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้เด็กใช้เวลาที่โรงเรียนน้อยลง ประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อร่วมทำกิจกรรม เรียนรู้ หาประสบการณ์เป็นกลุ่ม เด็กและพ่อแม่จะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ร่วมกิจกรรม ทำธุรกิจครอบครัว ฯลฯ 
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #โภคินพลกุล #ไทยสร้างไทย  #แก้รัฐธรรมนูญ #สสร