แม้จะมีผลงานที่จับต้องได้ในบางกระทรวง แต่พรรคการเมืองสายอนุรักษ์นิยมในไทยกลับเผชิญวิกฤตซ้ำซ้อน ทั้งความนิยมตกต่ำ ภาพลักษณ์ล้าสมัย และการเมืองภายในที่ยิ่งฉุดให้ไกลจากความคาดหวังของประชาชน นี่คือ 3 เหตุผลสำคัญที่ทำให้พรรคเหล่านี้มีแนวโน้ม “ล้มหาย” มากกว่าจะ “กลับมา”
1. ระบบขันที-ฮองเฮา: วังวนแห่งการประจบ
โครงสร้างภายในพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวนมากยังคงวนเวียนอยู่กับระบบ “เจ้าขุนมูลนาย” ที่ให้ความสำคัญกับคนใกล้ชิดที่พูดถูกหู มากกว่าคนทำงานเป็น นโยบายจึงถูกตัดสินด้วยอารมณ์ ไม่ใช่ข้อมูล กลายเป็นพรรคที่คนรุ่นใหม่และมืออาชีพไม่อยากเข้าใกล้ เพราะเข้าถึงยาก พื้นที่แคบ และไม่เปิดรับเสียงวิจารณ์
2. ยึดติดสื่อเก่า-นักข่าวสายเกรงใจ
พรรคเหล่านี้มักเชื่อว่า “การออกข่าวมากๆ” เท่ากับ “เข้าถึงประชาชน” จึงใช้นักข่าวหรือทีมประชาสัมพันธ์ที่ขาดความเข้าใจการวางยุทธศาสตร์ในยุคดิจิทัล และยิ่งไปกว่านั้น บางคนยังไม่มีพื้นฐานด้านนโยบาย ทำให้การสื่อสารกลายเป็นภาพซ้ำเดิม ไร้แรงกระเพื่อม ขาดการสร้างเรื่องเล่าที่ปลุกพลังสาธารณะ
3. ขาดวิสัยทัศน์ปฏิรูป – มองปัญหาแบบท่องจำ
พรรคอนุรักษ์นิยมในไทยหลายกลุ่มยังคงพูดถึง “เสถียรภาพ” และ “ความมั่นคง” แต่กลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรัฐ เช่น กระจายอำนาจ, ปรับระบบราชการ, หรือลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เมื่อประชาชนเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง พรรคกลับย้ำสถานะเดิม ทำให้ดู “เชย” และ “ต้านกระแส” แทนที่จะเป็นผู้นำคลื่น
สรุป
แม้ผลงานในบางกระทรวงจะดี แต่ถ้าพรรคยังวนอยู่กับการเมืองแบบขุนนาง ขาดกลยุทธ์การสื่อสาร และไม่มีวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง โอกาสที่จะชนะใจประชาชนก็ยิ่งห่างไกล การล้มไม่ใช่เพราะฝั่งตรงข้ามแข็งแรง แต่เพราะพรรคอนุรักษ์นิยมบางพรรคเลือกจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยต่างหาก
_____________
#Thepoint #Newsthepoint
#การเมืองแบบขุนนาง #พรรคฝ่ายขวา