เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2568 ที่โรงแรมเรือรัษฎา ตำบลบทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองของรัฐบาลต่อจากผลกระทบกรณีปัญหาไทย-กัมพูชา ว่า ต้องรอดูว่าจะมีการปรับครม.อย่างไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นเรื่องของภาพพจน์ของบ้านเมืองที่เสียหายจากการกระทำของรัฐบาล ส่วนในแง่ความสามารถของนายกฯตนไม่วิจารณ์มาตั้งนานแล้ว เพราะกระบวนการได้มาซึ่งนายกฯ ไม่ได้มีการคัดสรรเอาคนที่เก่ง แต่เป็นเรื่องของครอบครัว มันก็เลยเป็นแบบนี้ ดังนั้นเมื่อเกิดอะไรขึ้น เราจะมองสาเหตุยาก เพราะเขาไม่ได้เอาคนเก่งมาเป็น แต่เอาคนในครอบครัวมาเป็นนายกฯ กรณีปัญหาไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลพวงมาจากเรื่องสองครอบครัวทะเลาะกัน ก็เลยกระทบมาถึงประเทศด้วย ส่วนจะซ้ำรอยรัฐบาลนายทักษิณ หรือรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ระหว่างประเทศมันไม่ควรทะเลาะกัน สองประเทศที่เป็นเพ่อนบ้านไม่ควรเป็นศรัตรูกัน เพราะคนในประเทศจะตายก่อน เพราะมีปัญหาด้วยเรื่องสองครอบครัวทะเลาะกัน
นายชวน กล่าวอีกว่า ปัญหาไทย-กัมพูชา เรายึด MOU 2543 ที่ลงนามโดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น ซึ่งเราเตรียมการมาตั้งแต่สมัยตนเป็นนายกฯในปี 2537 ตนไปเยือนกัมพูชา พูดคุยกันมาเรื่อยๆ จนเกิดเป็น MOU 2543 ดังกล่าว ที่ได้มีส่วนทำให้ทั้งสองประเทศได้หาโอกาสปักปันเขตแดนร่วมกันโดยไม่ต้องทะเลาะกันมาหลายสิบปี เพิ่งจะมามีเรื่องกันก็ตอนนี้ เพราะเป็นการทะเลาะกันระหว่าง 2ตระกูล ทำให้ภาพพจน์ประเทศกระทบไปด้วยจากการกระทำของรัฐบาล ทั้งที่ในอดีตเรามีเงื่อนไขสำคัญในข้อที่ 5 ของบันทึกข้อตกลง คือไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้าไปทำอะไรในพื้นที่ที่ยังทับซ้อนกันอยู่ ถ้าเรายึดแนวทางนี้ต่อก็สามารถไปได้ เพราะเรายังคงต้องเจรจาปักปันเขตแดนกันต่อตามหลักสันปันน้ำตาม MOU 2543 แต่สถานการณ์ปัจจุบันนี้ทุกฝ่ายล้วนมีความเป็นห่วง เพราะเพื่อนบ้านนั่นไม่ควรเป็นศรัตรูกันเหมือนวันนี้ เพราะถ้าไปทะเลาะกันมันไม่จบ ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตจะลงตัวกันได้ โดยทั้งสองฝ่ายคงไม่ตายจากกันไปก่อน
นายชวน กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลยึดความถูกต้องชอบธรรมในการแก้ปัญหา ถ้ายึดหลักนิติธรรม หลักกฎหมาย บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหา แต่เพราะไปเอาพวกมากกว่ากฎหมายมันจึงวุ่นวาย วุ่นวายไปถึงแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เพราะไม่ยึดหลักกฎหมายความถูกต้อง แต่กลับไปยกเว้นให้คนๆหนึ่ง กลายเป็นว่าเป็นเรื่องปัญหาของครอบครัวนี้มาก จนกลายเป็นปัญหาประเทศ ส่วนคลิปการสนทนาระหว่างนายกฯไทยกับอดีตนายกฯกัมพูชาที่นายกฯไทยอ้างว่าเป็นเทคนิคในการเจรจาและไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหายอะไรนั้น แน่นอนว่านายกฯต้องปกป้องตัวเอง แต่ภาพพจน์ประเทศเสียหายมาก ซึ่งคนไทยทุกคนต้องมีส่วนรับรู้ว่าผู้บริหารประเทศพาประเทศไปสู่จุดไหน ทำให้เขาดูถูกประเทศมันไม่ควร เรื่องนี้มันเป็นเรื่องทะเลาะกัน2ครอบครัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนไทยได้รู้ว่ายบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ไม่นั้นเราจะไม่รู้เลยว่า 2 ครอบครัวนี้เอาประเทศไปแลกผลประโยชน์กันอย่างไร เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยได้รู้ว่า 2ครอบครัวเขามีผลประโยชน์ร่วมกันมานาน ใกล้ชิดกันขนาดไหน ตนเชื่อว่านายกฯพูดกับผู้นำกัมพูชาด้วยใจจริง ด้วยความนับถือและเคารพต่อสมเด็จฮุนเซน แม้ตอนหลังจะมาแก้ว่าเป็นเทคนิคการเจรจา เพราะถึงขนาดขอให้คุณลุงช่วยปกป้อง เพราะตอนนี้คนไทยไล่ให้ไปเป็นนายกฯกัมพูชาแล้ว รวมทั้งการตำหนิแม่ทัพภาคที่ 2 เพราะมีความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ตนก็รอดูว่าสมเด็จฮุนเซนจะเปิดเผยอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะสมเด็จฮุนเซนบอกว่า จะเปิดโปงว่ามีนักการเมืองไทยคนไหนไปเล่นไปเปิดบ่อนการพนัน เอาเงินไปฝากไปฟอกไว้ฝั่งกัมพูชา ก็หวังว่าจะมีการเปิดเผย คนไทยจะได้รับรู้เพราะบ้านเมืองเป็นของคนไทยทุกคน แม้จะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิ์ทำให้ประเทศเสียหาย ต้องดูผลปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงประเทศด้วยการบริหารที่ดี
_____________
#Thepoint #Newsthepoint
#รัฐบาลเพื่อไทย #ไทยกัมพูชา
#คลิปเสียงนายกฮุนเซน #ฮุนเซน #ชวนหลีกภัย