เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ระบุถึงมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ตีตกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของ พรรคก้าวไกล และของภาคประชาชน ซึ่งเปิดช่องล้างผิดบุคคลที่ถูกดำเนินคดีตาม มาตรา 112 กล่าวหา พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคไร้กระดูกสันหลัง ว่า ประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาร่วม 20 ปีจะมีทางออกอย่างไร นายรังสิมันต์ ควรแสดงความมีวุฒิภาวะ ในการเสนอแนวคิดเพื่อนำพาสังคมออกจากวิกฤตความขัดแย้ง นายรังสิมันต์ ต้องไม่ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง กระบวนการพิจารณากฎหมายของสภา มีระเบียบวิธีของสภา มติออกมาเป็นเช่นไรก็ถือเป็นความเห็นของสภาเช่นนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโวยวายตำหนิด้อยค่าคนอื่น นายรังสิมันต์ ต้องตั้งสติและทำความเข้าใจว่าจนถึง ณ เวลานี้ยังไม่มีผู้ใด หรือกลุ่มใด ได้รับการนิรโทษกรรมเลย
ในขณะที่บ้านเมืองต้องการบรรยากาศของความปรองดองสมานฉันท์ ก้าวข้ามความขัดแย้งที่มีมากกว่า 20 ปี ไม่ควรมีใครมาทำลายบรรยากาศของความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ท่าที ที่ไปฟาดงวงฟาดงาทั่วไปหมด ประเทศชาติและประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร และหากมีท่าทีที่ขัดแย้งกับทุกคนทุกฝ่ายไปเรื่อยๆแบบนี้ จะไปทำงานในชั้นกรรมาธิการร่วมกันได้อย่างไร บรรยากากาศครุกรุ่นออกตัวแรงขนาดนี้ จะไปทำงานร่วมกับบุคคลอื่นๆได้อย่างไร
“วันนี้ถือเป็นการนับหนึ่งอีกครั้ง ในการนำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากวิกฤตความขัดแย้ง การหุนหันพลันแล่น ไม่เกิดประโยชน์“ นายอนุสรณ์ กล่าว
_____________
#Thepoint #Newsthepoint
#รังสิมันต์โรม #นิรโทษกรรมคดีมาตรา112
#พรรคประชาชน #พรรคเพื่อไทย