เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปมคลิปเสียงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สนทนากับสมเด็จฮุนเซน ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) ว่า ต้องยอมรับตรงไปตรงมาว่า เรื่องนี้หากมีคำวินิจฉัยอะไร ก็จะส่งผลทางการเมืองอยู่มาก ในฐานะที่เป็นนักการเมืองฝ่ายค้านก็จะติดตามอย่างใกล้ชิด และได้มีการพูดคุยกับ สส. ของพรรค ว่าเรื่องนี้ติดตามและเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเพิกเฉยได้เพราะอาจจะส่งผลทางการเมืองมากอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าพรรคฝ่ายค้านจะมีการวางแผนเตรียมการเปิดอภิปรายรัฐบาล หลังมีคำวินิจฉัยหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องแยกออกเป็นสองส่วนส่วนที่หนึ่งในกรณีที่สถานการณ์ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ การตรวจสอบของฝ่ายค้านก็ต้องเดินหน้าต่อไป ก่อนหน้านี้เราเองก็ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถึงแนวทางในการสอบและการใช้มาตรการที่สำคัญเช่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แต่มีเหตุแทรกแซงกรณีของศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา พรรคฝ่ายค้านจึงต้องพิจารณาใคร่ครวญ เพราะใช้ได้เพียงปีละครั้งจึงต้องพิจารณาในจุดนี้
“ย้ำว่าหากเข้าสู่ภาวะปกติและมีคำตัดสินของศาลให้นายกรัฐมนตรีรอด พรรคประชาชนก็จะพูดคุยกับภูมิใจไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ อย่างเป็นกิจจะลักษณะว่าจะมีการดำเนินการเมื่อไหร่ แต่หากเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน ก็คงต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่พรรคประชาชนเคยเสนอไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่อยากให้ประเทศไทยถึงทางตัน และไม่ควรมีใครพาไปถึงจุดนั้น
พรรคประชาชนขอย้ำเหมือนเดิมว่า เรามีข้อตกลงและมีการเสนอรูปแบบไปแล้ว ว่าเราไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่เราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่เกิดทางตัน ผมขอย้ำว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ คือการคืนอำนาจให้กับประชาชน และไม่ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับว่าจะมีข้อครหาจากประชาชน ดังนั้นการเลือกตั้งใหม่ คือทางออกที่ดีที่สุด แต่ทางพรรคประชาชนก็ไม่สามารถที่จะไปกำหนดทุกอย่างได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
_____________
#Thepoint #Newsthepoint
#รังสิมันต์โรม #พรรคประชาชน
#ภูมิใจไทย #นายกอิ๊งค์ #ซักฟอกนายก