ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อินฟูลเลนเซอร์ทางการเมืองชื่อดัง โพสต์ถึง คดี ฮั้ว สว.อีกครั้ง
ระเบิดลง ดีเอสไอ
.
บรรดาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่มีส่วนทำคดี “ฮั้ว ส.ว.” และ ”เขากระโดง“
.
ถูกระเบิดลงกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง
.
คนทำคดี คุมสำนวน ถูกล็อกคอบ้าง ถูกย้ายออกจากหน้าที่เดิมบ้าง
.
ร้อนรนถึงกับ “ไม่เป็นอันกินอันนอน“ กันทีเดียว
.
ยังไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ประเดิมงานแรกก็ย้ายเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเสียก่อนแล้ว
.
โอนย้ายออกนอกหน่วยกันวุ่นวาย คำสั่งออกถี่ยิบ อ้างว่า “ยืมตัว”
.
รีบถึงขนาดเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ยังไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
.
กระทรวงยุติธรรม “ลักไก่” เซ็นหนังสือขอยืมตัว ร.ต.อ. เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปช่วยราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม
.
ซึ่ง ร.ต.อ.เขมชาติ เป็นคณะทำงานคนสำคัญในคดีฮั้ว ส.ว.
.
พูดตามประสาชาวบ้าน เป็นข้าราชการน้ำดี ทำคดีอยู่ดีๆ มีผลงาน ดันถูก “เด้ง” ให้มาเข้ากรุ
.
”งานที่ทำอยู่ ให้เลิกทำ งานใหม่ไปนั่งตบยุง“
.
ทั้งที่การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพิ่งเริ่มวันแรกเมื่อ 29 กันยายน 2568 นี่เอง
.
ก่อน “แถลงนโยบายต่อรัฐสภา“ ล่วงหน้า 3 วัน ก็เปิดยุทธการ “เด็ดหัวดีเอสไอทำคดี ฮั้ว ส.ว. คนสำคัญ” เสียแล้ว
.
ทำไมต้องยืมตัวเจ้าหน้าที่คนสำคัญของคดี ฮั้ว ส.ว.?
.
ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอถึงกับนอนผวา หมดกำลังใจทำงาน ต้องรอลุ้นว่าจะถูก ”ยืมตัว“ กระเด้งออกนอกหน่วยเมื่อไหร่
.
คนทำงานตามกฎหมายกลับได้รับผลตอบแทนด้วย “ระเบิดเด้งฟ้าผ่า” ไปทีละคนสองคน
.
ถ้าตรงไปตรงมาอย่างที่พูดจริง ก็ช่วย “ใจนิ่ง“
.
หากไม่ผิดก็อย่าไปร้อนตัว อย่าไปทำอะไรโฉ่งฉ่าง ถ้าจะทำก็ให้เนียนๆ หน่อย
.
แต่นี่รีบเร่งเป็น “งานด่วน” ย้ายกันตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันขัน ไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
.
โถ.. ยังมีเวลาถมถืดอีกตั้ง 4 เดือน ไม่ใช่ 4 วัน หรือว่าใจจริงส่วนลึกกลัวจะอยู่ไม่ถึง?
.
“ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวไปปิด”
.
มันจะปิดมิดได้เสียที่ไหนเล่า?