เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 นายราเมศ รัตนะเชวง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 2553 โดยพาดพิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า
1.ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2553 คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ที่เกี่ยวข้องกับนายอภิสิทธิ์ได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนและถึงที่สุดแล้ว มีการพิสูจน์จนสิ้นกระแสความ
2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา มีคำพิพากษาศาลฎีกา มีคำวินิจฉัยของ ปปช มีผลการพิจารณาของรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ทุกองค์กรมีเหตุผลในการรองรับชัดเจน
3.กระบวนการยุติธรรม ศาลชี้ชัดว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีอาวุธ มีกลุ่มชายชุดดำเข้ามาก่อความไม่สงบ มีการยุยงจากแกนนำให้มีการเผาบ้านเผาเมือง จนศาลฏีกามีคำตัดสินให้แกนนำมีความผิดต้องชดใช้ค่าเสียหาย
4.มีเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งตั้งข้อหานายอภิสิทธิ์ ฐานฆ่าผู้อื่น เจ้าหน้าที่คนนั้นชื่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ภูมิลำเนาปัจจุบันคือเรือนจำ
5.มีคนใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ ในทำนองเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนระหว่างการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง คดีนี้ศาลฎีกาตัดสินแล้ว คนใส่ร้ายถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ใส่ร้ายคือนายจตุพร พรหมพันธุ์ คดีผ่านมาหลายปีแล้ว
6.แกนนำที่ปราศรัยบนเวที ยุยงให้ผู้ชุมนุมเผาอาคารบ้านเรือนในกรุงเทพมหานคร ศาลฎีกาได้ตัดสินให้แกนนำมีความผิดในทางแพ่งต้องชดใช้ค่าเสียหาย นายณัฐวุฒิคือหนึ่งในจำเลย อยากถามว่าไปชดใช้ค่าเสียหายหรือยัง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ทราบข้อมูลต่างๆเหล่านี้ดี จะให้องค์กรไหนตรวจสอบอีก ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมได้ตรวจสอบแล้วยุติว่านายอภิสิทธิ์ไม่มีความผิด ไม่ได้มีคำสั่งให้ฆ่าประชาชน ไม่อยากให้ใช้วาทกรรมเพื่อทำลายกันในทางการเมือง สิ่งที่สำคัญทุกคนต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม การนำข้อมูลไปบิดเบือนเพียงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายตนมันเป็นแนวคิดที่ล้าหลังไป
_____________
#Newsthepoint
#พรรคประชาธิปัตย์ #กปปส
#อภิสิทธิ์ #เสื้อแดง

