หน้าแรกข่าวเด่นยุคใหม่ของไทย-จีน! 'เอ็ดดี้' วิเคราะห์ การเสด็จฯ เยือนครั้งนี้ คือจุดสูงสุด 700 ปี

ยุคใหม่ของไทย-จีน! ‘เอ็ดดี้’ วิเคราะห์ การเสด็จฯ เยือนครั้งนี้ คือจุดสูงสุด 700 ปี


เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2568 เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความระบุว่า “Origins of Influence: เมื่อราชาธิปไตยไทยเยือนมหาอำนาจคอมมิวนิสต์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจ“

#อัษฎางค์ยมนาค | #อ่านเกมอำนาจ

▍ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่พระมหากษัตริย์ไทยเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการ

“Origins of Influence” จุดกำเนิดของอิทธิพลใหม่ ทั้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และบทบาทของพระมหากษัตริย์ไทย ที่กำลังเปิดฉากขึ้นด้วยการเสด็จเยือนจีนครั้งประวัติศาสตร์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2568 ตามคำทูลเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

จากบรรณาการสู่รัฐเสมอภาค: เส้นทาง 700 ปีที่มาถึงจุดสูงสุดในปี 2568

▍ ไทย–จีนมีความสัมพันธ์กันยาวนาน ทำไมเพิ่งเป็น “ครั้งแรก” ที่พระมหากษัตริย์ไทยเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการ?

เหตุผลเพราะ โครงสร้างรัฐและระบบพิธีการทูตของจีน ในอดีต ไม่เอื้อให้กษัตริย์จากรัฐอื่นไปเยือนในฐานะ Head of State อย่างเสมอภาค

ยุคจักรวรรดิจีน (ก่อนปี 1911)
จีนมองโลกผ่านระบบ “บรรณาการ” (tributary system)
รัฐอื่นๆ มีสถานะ “เจ้าประเทศราชที่ส่งราชทูต” แต่กษัตริย์ไม่เดินทางไปถวายบรรณาการด้วยตนเอง เพราะถือว่าไม่เสมอภาคกับจักรพรรดิจีน ดังนั้น “การเสด็จไปเยือนในฐานะประมุข” จึงไม่เคยเกิดขึ้นในกรอบวัฒนธรรมนี้เลย

หลังจากราชวงศ์ชิงล่มสลายในปี 1912 จีนได้เปลี่ยนเป็น สาธารณรัฐ เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ชนะสงครามกลางเมืองในปี 1949 ไทยอยู่ฝ่ายสหรัฐในสงครามเย็น ขณะที่จีนเป็นคอมมิวนิสต์ และไทยยอมรับไต้หวัน (ROC) เป็น “จีนที่ถูกต้อง” ความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) “ถูกตัดขาด” ยาวกว่า 25 ปี การเสด็จเยือนเป็นไปไม่ได้ทั้งทางการเมืองและอุดมการณ์

▍ ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ PRC ปี 1975

หลังสถาปนา ก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง:
1. จีนยุคนั้นยังอยู่ภายใต้ระบบปิด (pre-reform era)
2. ความสัมพันธ์ยังอยู่ในระดับ “ยุทธศาสตร์จำกัด”
3. จีนยังไม่เปิดประเทศ ขาดระบบพิธีการต้อนรับระดับราชวงศ์แบบตะวันตก
4. พื้นที่ของสถาบันกษัตริย์ไทยในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยังไม่เน้นการเยือนรัฐคอมมิวนิสต์ในช่วงทศวรรษ 70–90

ดังนั้น “เงื่อนไขทางประวัติศาสตร์” ไม่เอื้อให้เกิดการเสด็จเยือนจนถึงยุคปัจจุบัน

▍ แล้วอะไรทำให้ปี 2568 เป็น “ครั้งแรก” ได้?

เพราะสะท้อนทั้งภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ในเอเชีย และบทบาทสัญลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ไทยในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

มีปัจจัย 4 ชั้นที่ทำให้ “เกิดได้เฉพาะในยุคนี้”:

1) PRC ต้องการแสดง “ความเสมอภาคระดับประมุข”

จีนยุคสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับ รัฐพิธี (state protocol) มาก การเชิญพระมหากษัตริย์ไทย = สัญญาณว่าจีนยอมรับไทยในฐานะ “คู่มิตรเชิงวัฒนธรรม” ที่มีความลึกซึ้งเหนือความสัมพันธ์ทางการเมือง

2) วาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน

โอกาสนี้เหมือน “สะพานทางการทูต” จีนต้องการภาพลักษณ์ว่า ไทย–จีนเป็น “ครอบครัวเดียวกัน” (family diplomacy)
การเสด็จเยือนระดับ Head of State จึงเป็นพิธีที่ทรงน้ำหนักที่สุด

3) ไทยในยุคใหม่ใช้ “ทุนทางสัญลักษณ์” (symbolic capital) ของสถาบันกษัตริย์ กษัตริย์ไทยมีสถานะทางวัฒนธรรมที่ประเทศอื่นในอาเซียนไม่มี พระองค์จึงเป็นผู้นำที่จีนสามารถเชิญมาแล้วสร้าง “ภาพลักษณ์ความสัมพันธ์พิเศษ” ได้ชัดเจนกว่านายกรัฐมนตรี

4) บริบทภูมิรัฐศาสตร์สหรัฐ–จีน

ไทยถูกจับตามองว่าเป็น สวิงสเตททางภูมิรัฐศาสตร์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อสหรัฐขยับ (AIT, Rare Earth MOU, military upgrade) จีนจึงต้องการ “movement ทางสัญลักษณ์” ที่ใหญ่ขึ้น การเสด็จเยือน = สัญญาณว่าจีนยังมีสายสัมพันธ์ลึกกับไทย

▍ ต่างชาติมองเรื่องนี้อย่างไร?

ต่างประเทศ “เห็นความสำคัญ” ของการเสด็จเยือนครั้งนี้ชัดเจน และจะตีความในกรอบ 3 แบบ:

กรอบที่ 1: ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Signalling)

สื่อวิเคราะห์เชิงนโยบาย เช่น Nikkei, Reuters, SCMP, ANU, CSIS มองว่า การเสด็จเยือน = “สัญญาณว่าจีนต้องการย้ำอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในยุคแข่งขันกับสหรัฐ”

กรอบที่ 2: Soft Power & Cultural Diplomacy

ฝั่งนักวิชาการวัฒนธรรม เช่น SOAS London, Kyoto Universit มองว่า จีนให้ตำแหน่งเชิงพิธีการที่สูงกับกษัตริย์ไทย = จีนต้องการสะท้อน “ความเป็นพี่น้องทางวัฒนธรรม” กับสยามที่ยาวนานกว่า 700 ปี

กรอบที่ 3: การทูตแบบองค์อธิปัตย์ (Monarchical Diplomacy)

โลกมีราชวงศ์ที่ยังทรงพลังไม่กี่แห่ง เมื่อกษัตริย์ไทยไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก นักวิเคราะห์จะเน้นว่า
“นี่คือการยกระดับความสัมพันธ์ในเชิงสัญลักษณ์ที่สูงที่สุดเท่าที่ไทย–จีนเคยมี”

▍ ตัวอย่างการรายงานของสื่อต่างประเทศ:

• สำนักข่าวซินหัว และ China Daily (สื่อของจีน): เน้นย้ำว่าการเสด็จฯ เยือนครั้งนี้เป็น “หมุดหมายสำคัญ” และ “การเยือนประเทศมหาอำนาจอย่างเป็นทางการครั้งแรก” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นับตั้งแต่ทรงครองราชย์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายให้กับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี

• รอยเตอร์: รายงานว่าการเสด็จฯ เยือนครั้งนี้เป็น “ครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทย” และชี้ถึงนัยยะเชิงภูมิรัฐศาสตร์ว่า เป็นการ “ตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างไทยกับจีน” ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน พร้อมระบุว่า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดและเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย

• นิคเคอิ: รายงานและระบุว่า การเสด็จฯ เยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นในวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต และมีการเน้นย้ำถึงกำหนดการที่ทรงเยี่ยมชมทั้งสถานที่ทางวัฒนธรรมและ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ ของจีน

▍ สรุป

การเสด็จเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ “ประวัติศาสตร์ 700 ปี เพิ่งมาบรรจบกับโครงสร้างทางการเมืองที่เหมาะสมในปี 2568 จีนเปิดพื้นที่ทางพิธีการอย่างเสมอภาค ไทยใช้ทุนทางสัญลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ และโลกกำลังอยู่ในยุคแข่งขันอิทธิพลระหว่างมหาอำนาจ” 

_____________

ที่มา :

https://www.facebook.com/share/p/1CvFxMPAaM/?mibextid=wwXIfr

#Newsthepoint

#ในหลวงเสด็จฯจีน

#ไทยจีน50ปี

Must Read

Related News

- Advertisement -