เมื่อวันที่ 29 กันยายน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่มีนักวิชาการและนักวิจารณ์ทางการเมืองบางส่วนตั้งข้อสังเกตถึงการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 80 (UNGA 80) ที่นครนิวยอร์ก ของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายทุกขั้นตอน
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา รมว.ต่างประเทศ ได้รายงานต่อที่ประชุมว่าได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 80 ในช่วงสัปดาห์ผู้นำระหว่างวันที่ 23 – 30 ก.ย. 68 โดยมีภารกิจสำคัญคือการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 27 ก.ย. และการพบปะหารือกับเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงชี้แจงท่าทีและข้อเท็จจริงของไทยในกรณีความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายกัมพูชาใช้เวทีโลกนำเสนอข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ขอความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า หลังจากครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์แล้ว ถือว่าเข้ารับหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ตามมาตรา 12 ของรัฐธรรมนูญ และแม้ตามมาตรา 162 จะกำหนดให้คณะรัฐมนตรีต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ก็ได้กำหนดไว้ในมาตรา 162 วรรค 2 ให้ดำเนินการได้หากเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนที่กระทบต่อประโยชน์ของประเทศ ดังนั้น การเดินทางครั้งนี้จึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปร่วมการประชุม UNGA 80 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์สำคัญของประเทศ ทั้งยังเป็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง จึงถือว่าอยู่ในกรอบกฎหมายและไม่เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การดำเนินการเช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในอดีตเมื่อปี 2551 คณะรัฐมนตรีก็เคยมีมติรับทราบการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น เดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 63 ที่นครนิวยอร์ก แม้ในขณะนั้นยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งสำนักงานกฤษฎีกาในเวลานั้นก็ให้ความเห็นว่าสามารถทำได้ เพราะถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่มีการกำหนดช่วงเวลาแน่นอนไว้แล้ว และการแถลงต่อที่ประชุม UNGA เป็นการสะท้อนท่าทีและจุดยืนของประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลโดยตรง
“รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยึดหลักการทำงานด้วยความรอบคอบ รอบด้าน และคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ การพิจารณามอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุม UNGA 80 ครั้งนี้ เป็นไปตามหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เพื่อยืนยันสิทธิและศักดิ์ศรีของประเทศไทยในเวทีโลก” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยเสียโอกาสบนเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับกัมพูชา การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการดำเนินการทั้งหมดก็อยู่ในกรอบกฎหมายทุกประการ
_____________
#Thepoint #Newsthepoint
#UNGA #ไตรศุลีไตรสรณกุล
#สีหศักดิ์พวงเกตุแก้ว

