นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ เตือนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอีกครั้งถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังจะถาโถมเข้าใส่เศรษฐกิจไทย ดังนั้นจึงควรที่จะเร่งทบทวนและศึกษา 4 สัญญาณอันตรายทางเศรษฐกิจอย่างโดยด่วน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตอย่างหนักอยู่แล้วและรัฐบาลไร้ความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้
.
- ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นทะลุ 130 ดอลลาร์ต่อบาเรล และยังมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นอีก จากสถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครน แต่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กลับมองว่าราคาจะไม่ขึ้นไปกว่านี้ จึงไม่ได้มีการเตรียมการรับมือ ซึ่งราคาน้ำมันที่สูงจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า และ ค่าใช้จ่ายของประชาชนอย่างมาก เนื่องจากน้ำมันเป็นต้นทุนของสินค้าแทบทุกชนิด พลเอกประยุทธ์จะมีแนวทางรับมือราคาน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างไร
. - ราคาสินค้าพุ่งขึ้นสูง เงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์พุ่งขึ้นถึง 5.28% และยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก (ปี 2564 ประเทศไทยมีอัตราเงินเฟ้อทั้งปีเพียง 1.23%) ซึ่งมาจากสาเหตุหลักคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อีกทั้งเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจเล็กและเป็นเศรษฐกิจเปิด จึงหลีกเลี่ยงอิทธิพลภาวะเงินเฟ้อจากต่างประเทศได้ยาก แต่คนไทยรายได้ไม่ได้เพิ่มแถมยังลดลง เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น ไม่เหมือนในต่างประเทศส่วนใหญ่ที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นแล้ว พลเอกประยุทธ์จะรับมือปัญหาสินค้าราคาแพงอย่างไร เพื่อไม่ให้คนไทยลำบากไปมากกว่านี้
. - อัตราดอกเบี้ยกำลังจะปรับเพิ่มขึ้น ล่าสุด เจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ประกาศว่าการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะเป็นไปตามกำหนดการเดิมคือน่าจะขึ้น 0.5% ภายในเดือนนี้ และน่าจะต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายหนภายในปีนี้ ซึ่งประเทศไทยอาจต้องถูกบังคับให้ขึ้นดอกเบี้ยตาม มิเช่นนั้นเงินทุนต่างประเทศอาจจะไหลออกได้ แล้วพลเอกประยุทธ์ จะรับมือกับเรื่องดอกเบี้ยที่จะขึ้นได้อย่างไร ขณะที่แนวโน้มหนี้เสียทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นอีกมาก
. - ไทยขาดดุลการค้าในเดือนมกราคมเป็นจำนวนเงินถึง 2,526.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุหลักมาจากการต้องนำเข้าน้ำมันในราคาที่สูงมาก แม้การส่งออกของไทยในเดือนมกราคมจะขยายถึง 8% ซึ่งตอกย้ำว่าในอดีตตลอด 7 ปี พลเอกประยุทธ์ไม่สามารถสร้างประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ถูกในการพัฒนาประเทศได้เลย และหากราคาน้ำมันยังแพงขึ้นไปอีก และถ้าการท่องเที่ยวของไทยยังไม่ฟื้น ประเทศจะประสพปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด พร้อมขาดดุลทางการคลังที่ขาดดุลมากอยู่แล้ว อีกทั้งจะซ้ำเติมสถานการณ์ไปอีก จากปัญหาการเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการมากจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มานานและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการรักษาพยาบาลประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก
.
ทั้ง’4 สัญญาณอันตรายทางเศรษฐกิจ’ อาจมาพร้อมกันและมาเร็วกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งผลกระทบจากสงครามรัสเซียยูเครนที่น่าจะยืดเยื้อจะส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจไทยอีกหลายด้านเป็นเวลาอีกนาน พลเอกประยุทธ์ ไม่ควรติดแต่การหาคำแก้ตัว แต่ควรเร่งหาทางแก้ไขและรับมือ ก่อนที่วิกฤตจะถาโถมซ้ำเติมความยากลำบากของคนไทย
.
