“ทูตนริศโรจน์”เปิดข้อความฉบับเต็มเทียบจะๆ ลั่นไม่มียอมความ Bright TV นำคำพูดไปบิดเบือนพาดหัวให้คนมารุมด่า ย้ำสื่อต้องมีจริยธรรมเสมอ

0
811

วันที่ 21 พ.ค. นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศ อาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงประเด็นที่ Bright TV นำคำพูดไปบิดเบือนเสนอข่าวหัวข้อ“นริศโรจน์ อดีตเอกอัคราชทูตไทย ชี้ อแมนด้า ชวดตำแหน่งเพราะแซะสถาบันกษัตริย์” ซึ่งนายนริศโรจน์ ระบุว่า เอาไปเทียบให้เห็นเลยว่า ไม่มีประโยคไหนเลยที่เอ่ยชื่อ อะแมนด้า และไม่มีประโยคใดเลยที่บอกว่า เธอชวดตำแหน่งเพราะไม่รักสถาบัน!
.
นี่คือเจตนาชั่วที่ตั้งใจบิดประเด็นเพื่อสร้างความเกลียดชังให้กับคนที่แค่อ่านพาดหัวข่าว ให้เข้ามารุมด่าผมอย่างเสียหาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น
.
สำหรับข้อความเต็มที่ที่นายนริศโรจน์เขียนไว้ ระบุว่า เห็นมีเพจติ่งนางงามบางคนที่ยังพยายามเขียนเชียร์น้องที่ตกรอบให้ดูดีว่า เป็นนางงามไทยคนแรกที่กล้า call out เรื่องต่างๆที่คนไม่กล้าพูดในสังคม เช่น เรื่องการเมือง 
.
อันนี้ไม่เถียงนะครับว่า การ call out การกล้าพูดในเรื่องการเมือง สังคม นั้นเป็นสิ่งที่ดี เป็นมิติใหม่ แต่อย่าลืมว่า การ call out มันต้องมี art หรือ ศิลปะ ในการพูดแล้วทำให้คนพูดดู smart  ดูฉลาด ดูมีจิตสาธารณะ ดูมีความรักชาติบ้านเมืองจริงๆจากเนื้อแท้ของจิตใจ
.
การ call out ที่ดีก่อนอื่นเลยต้องใช้ fact หรือ ข้อมูลที่เป็นข้อมูลจริง  ไม่ใช่ข้อมูลด้านเดียวที่ออกมาจากกลุ่มการเมืองใดแล้วเอามาพูด call out ถ้าทำแบบนี้มันมีเส้นบางๆที่จะทำให้กลายเป็น take side ไปทันที
.
การ call out เพื่อบ้านเมืองให้พัฒนาไปในทางที่ดี ก่อนอื่นต้องวางตัวให้เป็นกลาง (neutral) เสียก่อน การแสดงความเห็นต้องรู้จักรักษาสมดุลให้ดี เพราะในสังคมมีผู้คนอยู่ทุกกลุ่มทุกฝ่าย คนที่เชียร์นางงามก็มีทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย  ตรงนี้แหละที่จะพิสูจน์ว่านางงามที่ออกมา call out นั้นมี “กึ๋น” แค่ไหน
.
การแสดงความคิดเห็นถ้าน้องนางงามมีกึ๋นพอ เขาจะเลือก call out ปัญหาที่กลางๆ หรือใช้วิธีการพูดแบบนักการทูตคือ ต้องยืดหยุ่น เผื่อทางเลือก ทางออกไว้ด้วย
.
นางงามไม่ใช่พอได้ตำแหน่งแล้วจะนึก call out ให้สุดโต่งเพื่อเอาใจกลุ่มคนกลุ่มเดียว แล้วกลายเป็นดูถูกหรือ bully กลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งกลายๆไปในที แบบนี้ผมว่าไม่ใช่การ call out ที่ถูกต้อง
.
ยิ่งเป็นนางงามที่มี”มงกุฏ”ที่หนักครอบอยู่บนศีรษะนั้น ความหมายของมงกุฏอีกนัยนึงคือ กดน้ำหนักลงบนศีรษะให้คิดไตร่ตรองแบบหนักแน่นก่อนพูด
.
อะไรที่ไม่แน่ใจ หรือ สิ่งใดที่ไม่ควรแตะ เช่นเรื่อง สถาบัน เพราะเราไม่รู้ตื้นลึกหนาบางจริงๆต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ ยังไม่ต้องพูด  ไว้วันไหนหมดตำแหน่งแล้วค่อยพูด ก็ไม่มีใครว่าอะไร
.
เป็นนางงามมีสายสะพายชื่อประเทศ THAILAND ตัวเบ้อเริ่มคาดคล้องบ่าถึงเอวนั้นหมายถึงอะไร ?
.
สายสะพายนั้นก็ลอกเลียนแบบมาจาก ศักดินา หรือหมายถึง Queen ที่ทรงสายสะพายเครื่องราชย์ ดังนั้นตำแหน่งนางงามในต่างประเทศเขาถึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Beauty Queen นั่นเอง
.
ดังนั้น การ Call Out ใดๆ ในขณะที่มีสายสะพาย THAILAND  ที่หมายถึงราชอาณาจักรไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  นางงามคนนั้นจะ call out หรือ ออกมาโพสท์แบบสุ่มสี่สุ่มห้าโดยมีนัยยะแอบแฝงแนวกระแซะสถาบันที่ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากเขายังเคารพ ถือว่าไม่ฉลาดและไม่สมควรอย่างยิ่ง
.
ผมเห็นด้วยนะกับเพจนางงาม 3 กีบที่พยายามออกมาป้องเธอว่า เป็นนางงามสมัยใหม่ต้อง call out ได้ จริงครับ แต่การ call out ต้องเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์  การ call out ต้องไม่ใช้ข่าวลือ ข่าวปั้น ข่าวปลอมมาใช้กระพือการ call out ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานจะๆคาตา
.
อันนี้ก็ย้อนกลับไปนึกถึงตอนที่ผมเป็นพี่เลี้ยงคณะกก.ตัดสิน MU ปี 1992 อีกครั้ง ตอนที่ผมถาม Marion Dougherty รองประธานบริษัทที่ทำหน้าที่ casting ดาราว่าคนไหนควรได้เล่นบทไหนในภาพยนตร์ Hollywood 
.
ผมถาม Marion ว่า ทำไมนางงามจากเวเนซูเอลาถึงตกรอบ ทั้งๆที่คนเชียร์เยอะมาก เพราะเธอสวย เป็นตัวเต็งหนึ่งเลย  Marion บอกว่านางงามเวเนซูเอลา ตอบคำถามกก.ที่ถามว่าเกี่ยวกับทัศนคติของเธอต่อคนรอบข้าง  นางงามเวเนซูเอลา ตอบในทำนองที่อยากให้คนในสังคมให้ความสนใจในตัวเธอ อะไรทำนองนี้ (ผมจำคำตอบละเอียดไม่ได้)
.
ซึ่ง Marion ได้สรุปให้ผมฟังว่านางงามเวเนซูเอลาคนนี้เป็นคนลักษณะที่เรียกว่า Introvert คือเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ทุกอย่างต้องเข้ามาที่ตัวเธอเท่านั้น
.
ตรงกันข้ามกับ นางงามนามิเบียที่ได้มงกุฏ (Michell Mclean)  เธอตอบคำถามด้วยจิตสาธารณะ เธอพร้อมเป็นจิตอาสาไปช่วยงานพัฒนาประเทศนามิเบียของเธอ ซึ่งตอนนั้นนามิเบียก็มีปัญหาทางการเมือง มีปัญหาเรื่องเชื้อชาติและผิว แต่เธอตอบในลักษณะที่เป็นกลางในเชิงบวกและสร้างสรรค์โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติและวรรณะ
.
Marion ชี้ให้ผมเห็นว่าคำตอบของ นางงามนามิเบียเป็นคำตอบที่แสดงลักษณะของคนที่เป็น Extrovert  ชอบสังคม คือทุกอย่างออกไปจากตัวเองไปหาคนอื่นในเชิงบวกเพื่อช่วยสังคม
.
ที่เล่าประสบการณ์เก่าๆให้ฟังนี้ เพราะผมคิดว่ามันยังใช้ได้กับการประกวดทุกยุคทุกสมัย การที่นางงาม call out เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ต้องรู้จัก call out แบบมีศาสตร์และมีศิลป รวมทั้งต้องมีทักษะแบบนักการทูตด้วยเพื่อมิให้แสดงว่าตัวเอง เอียง ไปฝ่ายใดจนเกินไป
.
และที่สำคัญต้องนึกเสมอว่าตัวเองนั้นมีภาระหนักแน่นคือมงกุฏที่กดทับบนหัวเพื่อให้รู้จักความสุขุม ยั้งคิด อดทน ไม่ใช่นึกอยากจะโพสท์อะไรก็โพสท์ เห็นข่าวผ่านหน้ามาก็โพสท์ ต้องรอให้ข่าวตกผลึกก่อน หรือ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องโพสท์ก็ได้ถ้าไม่รู้ fact จริงๆ
.
ถ้านางงาม call out ได้อย่าง smart แบบนี้ ได้ใจคนทุกกลุ่มแน่นอน ไม่ใช่ได้แต่ใจคนกลุ่มเดียว !!!!!!
.

ThePOINT #นริศโรจน์ เฟื่องระบิล #ทูต #Bright TV #เฟคนิวส์